แฮร์สไตล์ลิสต์ยืนหนึ่ง 5 ช่างตัดผมในตำนาน คนดังไว้วางใจ

Latest แซ่บสตาร์

อีกหนึ่งอาชีพที่สร้างความมั่นใจให้กับคนในวงการบันเทิงมาโดยตลอด สำหรับ ช่างทำผม แต่ต้องบอกเลยว่าปัจจุบันธุรกิจช่างทำผมไม่ได้เป็นแค่ธุรกิจเล็กๆ ธรรมดา แต่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว ซึ่งในวงการบ้านเราก็มีช่างทำผมยืนหนึ่งอยู่หลายท่าน จะมีใครบ้างตาม UndubZapp ไปส่องกันเลย

1. ดร. สมศักดิ์ ชลาชล

ถ้าพูดถึงเรื่องช่างทำผม เชื่อว่าชื่อนี้ต้องลอยมาเป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน สำหรับ ดร. สมศักดิ์ ชลาชล ช่างทำผมที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมากว่า 30 ปี คุณสมศักดิ์ เริ่มอาชีพช่างทำผมจากการไปเรียนที่เกตุวดี แล้วเป็นลูกจ้างช่างทำผมที่เกตุวดีถึงกว่า 10 ปี จึงเริ่มเห็นลู่ทางธุรกิจของตัวเองจึงลาออกมาเปิดร้านของตัวเอง สร้างแบรนด์ ขยายสาขา และยังเปิดสถาบันสอนทำผมอีกด้วย พูดได้ว่าเป็นช่างผมในตำนานที่ทุกคนต่างยอมรับจริงๆ

© รูปต้นฉบับ: somsak_chalachol, อินสตาแกรม

2. หรั่ง-พรเทพ

อีกหนึ่งตัวท็อปในวงการแฮร์สไตล์ลิสเมืองไทย หรั่ง-พรเทพ ผู้อยู่เบื้องหลังผมสวยๆ ของเหล่าดาราหลายๆ ท่าน โดยเฉพาะ สาวปู-ไปรยา ซึ่งจุดเริ่มต้นอาชีพช่างทำผมของ พี่หรั่ง เริ่มจากการได้ฝึกงานได้ลองทำผมทำให้เกิดความสนใจจนตัดสินใจไปเรียนต่อที่สถาบันสอนทำผมระดับมืออาชีพที่ประเทศอังกฤษ แต่การไปเรียนอังกฤษของ พี่หรั่ง ไม่ได้ง่ายเลย เพราะ พี่หรั่ง ใช้เวลาเรียนภาษาก่อนถึง 6 เดือน ระหว่างที่เรียนภาษา พี่หรั่ง ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารไทยด้วย จนกระทั่งเรียนจบจากอังกฤษ พี่หรั่ง กลับมาเมืองไทยได้ทำงานกับนิตยสารดังมากมาย และยังได้ออกแบบทรงผมให้ศิลปินอีกด้วย จนตอนนี้เปิดร้าน THE LOUNGE HAIR SALON เซเลบใช้บริการเพียบ

© รูปต้นฉบับ: hairworldplus, อินสตาแกรม

3. ก้อง Hive Salon

ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย สำหรับ ก้อง-กฤษฏิ์ หรือ ก้อง Hive Salon ช่างผมคนเก่งที่ดูแลทรงผมให้คนดังมากมายอาทิ ชมพู่-อารยา, หมาก-ปริญ, โอปอล์-ปาณิสรา และอีกหลายๆ ท่าน ซึ่งเส้นทางการเป็นช่างทำผมของ ก้อง ในตอนแรกไม่ได้เริ่มที่การเปิดร้านแบบเต็มเวลา เพราะหลังจากเรียนจบด้านการตัดผมมาจากประเทศอังกฤษ เจ้าตัวก็เลือกที่จะทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศก่อน แล้วตอนเย็นหลังเลิกงานก็เปิดร้านตัดผมที่บ้านตั้งแต่ 6 โมงถึง 4 ทุ่ม จนกระทั่งร้านตัดผมที่เปิดแค่ไม่กี่ชั่วโมงสร้างรายได้มากกว่าการทำงานออฟฟิศ คุณก้อง จึงลาออกจากงานมาเปิดร้านทำผมแบบเต็มตัว และด้วยความใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดจึงทำให้ประทับใจลูกค้าได้ไม่ยาก สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองจนมาถึงทุกวันนี้ เซเลบดาราใช้บริการเพียบ จุดเด่นของ คุณก้อง คือการออกแบบทรงผมสุดชิคให้เข้ากับบุคลิกภาพของแต่ละคนนั่นเอง

4. โทนี่ รากแก่น

แล้วก็มาถึงช่างทำผมสุดหล่อที่ตอนนี้กลายเป็นพระเอกไปแล้ว สำหรับ โทนี่ รากแก่น แต่ในอาชีพช่างตัดผมก็เป็นอาชีพที่โทนี่รักและไม่เคยละทิ้งได้เลย โดยตอนนี้เจ้าตัวเปิดร้านทำผมชื่อว่า Smile Club ที่พอก้าวเท้าเข้าไปก็ต้องยิ้มตามชื่อร้านเพราะตบแต่งได้อย่างสุดแนวแบบสไตล์วัยรุ่น ส่วนเส้นทางกว่าจะมาเป็นช่างตัดผมของ หนุ่มโทนี่ ไม่ได้ง่ายเลย โดยตอนนั้น โทนี่ เรียนกราฟิกดีไซน์อยู่ที่ออสเตรเลีย ใช้ชีวิตวัยรุ่นแบบค่อนข้างเกเร แต่ระหว่างเรียน โทนี่ และเพื่อนๆ นักเรียนเอเชียมักจะชอบเข้าร้านทำผมเปลี่ยนสีผมตามนิสัยวัยรุ่นทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่ โทนี่ ไม่เหมือนคนอื่นคือ เขาไม่ได้แค่เข้าไปทำผมแต่ครูพักรักจำด้วยการสังเกตวิธีการจับกรรไกรและวิธีการทำผมมาตลอด จนกระทั่งเริ่มชอบและสนใจอย่างจริงจัง เก็บเงินซื้อกรรไกรของตัวเองอันแรกในชีวิต แล้วสมัครเป็นลูกมือสระผม ไดร์ผม ในร้านตัดผมของคนญี่ปุ่น อยู่ประมาณ 2 ปี ซึ่งระหว่างนั้นเขาก็ยังเรียนกราฟิกดีไซน์อยู่ จากนั้นย้ายไปทำผมที่ร้านของคนเกาหลีเพราะเจ้าของร้านเสนอจะสอนวิชาทำผมให้ด้วย โทนี่ เก็บประสบการณ์ที่ร้านนี้อีก 3 ปี จนกระทั่งเรียนจบ พอกลับมาเมืองไทย โทนี่ ได้เข้ามาเป็นช่างประจำให้ร้านทำผมที่เมืองไทย จากนั้นก็เริ่มเข้าวงการ และได้เปิดร้านตัดผมเป็นของตัวเอง

© รูปต้นฉบับ: tonirakkaen, อินสตาแกรม

5. มาร์ค ธาวิน

นอกจากจะเป็นช่างทำผมที่มีฝีมือมากที่สุดคนนึงของเมืองไทยแล้ว ยังเป็นช่างทำผมที่รวยสุดๆ อีกด้วย สำหรับ มาร์ค-ธาวิน ที่ชื่นชอบการทำผมมาตั้งแต่เด็ก และด้วยความที่ทางบ้านซัพพอร์ตเป็นอย่างดี มาร์ค เลยใช้เงินเรียนทำผมที่เมืองนอกไปกว่า 10 ล้านบาท หลังจากเรียนจบมาก็มาเปิดร้านทำผมสุดไฮโซที่ลงทุนไปกว่า 50 ล้านบาท ด้วยอุปกรณ์ทำผมระดับพรีเมียม อาทิ เตียงสระผมที่มีมูลค่าถึง 5 แสนบาทต่อเตียง เพราะเป็นระบบไฮโดรลิคที่จะปรับให้เข้ากับสรีระของลูกค่าแต่ละคน แต่ไม่ใช่เพราะอุปกรณ์สุดหรูอย่างเดียวที่ทำให้ไฮโซเซเลบหลายคนใช้บริการร้านทำผมของ ไฮโซมาร์ค แต่เป็นเพราะฝีมือการทำผมระดับเทพโดยเฉพาะการทำสีผมที่มีชื่อเสียงมากๆ อีกด้วย โดยราคาค่าตัดผมที่นี้อยู่ที่ ผู้หญิงเริ่มต้น 10,000 บาท และผู้ชาย 5,000 บาท จร้า