“ชมพู่ อารยา” นางเอกตัวท็อปของวงการที่ใคร ๆ ก็อยากเป็นเหมือนเธอ ไม่ว่าจะทั้งรูปร่างหน้าตาหรือไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะแฟชั่นของเธอ แต่ก็ทำตามได้ย๊ากยาก เพราะข้าวของเครื่องใช้ส่วนใหญ่ดันมีราคาสูง ต้องเก็บเงินกันอยู่หลายเดือนกว่าจะซื้อตามมาใช้กันได้ วันนี้เราเลยขอพักเบรกเรื่องเสื้อผ้า กระโดดไปดูคาเฟ่หรือร้านอาหารที่สาวชมเคยไปกันดีกว่า บอกเลยว่างานนี้หลักพันก็เอาอยู่ ใครอยากไปกินตาม ไปจัดทริปกันได้เลยค่า
1. Snap
คาเฟ่สไตล์มินิมอล เน้นขายเครื่องดื่มและอาหารสไตล์ฝรั่ง ตั้งอยู่ที่ห้างเกสรพลาซ่า ชั้น 1 มีจุดเด่นอยู่ที่การตกแต่งเครื่องดื่มให้สีสันสวยงาม บวกกับบรรยากาศร้านที่สะอาดตา เวลาถ่ายรูปออกมาเลยยิ่งสวย สาวชมพู่เลยไม่พลาดที่จะไปเช็กอิน พร้อมสั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบเก๋ ๆ แล้วโพสต์ภาพอวดชาวโซเชียล
2. V8 Diner
ร้านอาหารสไตล์อเมริกันไดเนอร์ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 11 ที่ดึงดูดสายตาของผู้คนด้วยการตกแต่งร้านด้วยไฟนีออนและเฟอร์นิเจอร์ยุค 50s อันเป็นเอกลักษณ์ที่ใครอยากมาถ่ายรูปอัปลงไอจีที่นี่กันทั้งนั้น อย่างขุ่นแม่ชมพู่เองยังไม่พลาด จัดชุดเดรสเข้ารูปสีชมพูสุดจี๊ด เข้าคู่มากับรองเท้าส้นสูงแซ่บไฟลุก และกระเป๋าสีเดียวกัน ตัดด้วยแว่นกันแดดสีฟ้า โพสต์ท่าถ่ายรูปสุดเก๋มาอวดชาวเน็ตให้ต้องรีบไปถ่ายรูปตาม
เกริ่นเรื่องสถานที่กันไปมากพอแล้ว เรามาดูเมนูอาหารกันบ้างดีกว่าค่ะ สาวชมพู่สั่ง Chili Chess Fried (210บาท), Onion Rings (139 บาท) และ Milkshakes (129 บาท) รวมแล้ว 478 บาทเท่านั้นเองค่ะ เหมาะกับการเป็นมื้อกลางวันแบบซอฟท์ ๆ แต่ถ้าใครไม่อิ่ม ทางร้านเขาก็มีเมนูเบอร์เกอร์และอาหารไทยอื่น ๆ บริการด้วยนะคะ
Advertisements
3. Menya Itto
ถ้าร้านก่อนหน้านี้ไม่ใช่สไตล์ ลองมาทานอาหารญี่ปุ่นแทนนะคะ โดยร้านนี้เป็นร้านราเมนอันดับหนึ่งแห่งกรุงโตเกียว จากการชนะคะแนนโหวตใน Tabelog เว็บไซต์รีวิวอาหารของญี่ปุ่นชื่อดัง ซึ่งล่าสุดได้มาเปิดสาขาที่ไทยแล้ว โดยตั้งอยู่ที่ตึกเอราวัณ โซน Urban Kitchen ชั้น B1 มีหลายเมนูให้เลือกทาน แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคือ Tsukemen (Cold Dipping Noodles) ซึ่งเป็นพระเอกของร้าน โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 300-500 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนูพิเศษตามฤดูกาลให้ได้ลิ้มลองกันอีกค่ะ
สำหรับคนที่อยากสั่งตามสาวชมพู่ แนะนำให้พกเงินไปเยอะนิดนึงนะคะ เพราะนางเอกสาวสั่ง Whole Lobster Tsukemen ราคา 1,890++ แต่ถ้ารู้สึกว่าแพงไป จะดรอปราคามาสั่ง Extra wagyu shoyu ramen ท็อปปิ้งด้วยเห็ดทรัฟเฟิล ถ้วยละ 1,300++ บาท ตามสาวพลอย ชวพร เพื่อนของสาวชมพู่ก็ได้ แต่ทั้งสองเมนูทำจำกัดแค่วันละไม่กี่ถ้วยเท่านั้นนะคะ ใครอยากทานจริง ๆ แนะนำให้จองคิวกับทางร้านก่อน
4. Redi Grab&go
ปิดท้ายกันด้วยของหวาน ร้านนี้เป็นร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ของเชฟสาวสวยที่โด่งดังในโลกออนไลน์อย่าง “Finny the chef” เน้นขายคัพเค้กเป็นหลัก แต่ถ้าใครอยากทานของคาวที่นี่เขาก็มีบริการเหมือนกันนะคะ โดยปัจจุบันมี 2 สาขาให้เลือกเดินทาง ที่เพลินจิตและทองหล่อซอย 11
ภายในร้านจะเน้นการตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นเหมือนมาทานขนมที่บ้านเพื่อน มีไฮไลท์อยู่ที่คัพเค้กหลากหลายรสที่ตกแต่งอย่างประณีตทุกชิ้น โดยเมนูที่สาวชมพู่กับเพื่อนสาวสุดซี้อย่างพลอย ชวพรชื่นชอบ คือ “Red Velvet Latte” เครื่องดื่มที่ผสมผสานระหว่างกาแฟกับขนมเข้าไว้ด้วยกัน เห็นแค่รูปก็น่าทานแล้วนะคะเนี่ย
SOURCE : chomismaterialgirl
Advertisements