ส่วนใหญ่แล้วผู้คนทั่วโลกและแทบจะทุกประเทศเลยก็ว่าได้ ล้วนแล้วแต่ให้ความสำคัญกับเพศชายเป็นหลัก และหากใครก็ตามที่มีความนิยมและมีความเบี่ยงเบนทางเพศ ก็จะต้องเผชิญกับปัญหาของการเหยียดเพศในสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้มีอยู่ทั่วโลก บางประเทศถึงขั้นออกเป็น กฎหมาย ให้ใครก็ตามที่มีความเบี่ยงเบนทางเพศเหล่านี้ต้องได้รับบทลงโทษรุนแรง อย่างในประเทศมาเลเซียนั้นถือว่าพฤติกรรมเป็นเกย์ เป็นคดีอาญาร้ายแรงต้องโทษจำคุก 20 ปี และเฆี่ยนประจานกลางที่สาธารณะ และในกลุ่มประเทศอิสลามตะวันออกกลาง พฤติกรรมการรักร่วมเพศ ก็ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย หากจับได้ต้องโดนทำโทษโดยการโบย จำคุก หนักถึงขั้นประหารชีวิต โดยเฉพาะในประเทศอิรัก ถึงขนาดมีการตั้งหน่วยล่าสังหารไล่ล่ากลุ่มรักร่วมเพศขึ้นมาเลยทีเดียว
แต่ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ผู้คนทั่วโลกต่างตื่นตัวและหันมาให้ความสนใจและให้การสนับสนุนในเรื่องของสิทธิมนุษยชนต่างๆ มากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงสิทธิของเพศที่สาม และเมื่อปี 2014 ทางเว็บไซต์ infoplease ได้ทำการเผยแพร่ข้อมูลของ 10 ประเทศที่เป็นมิตรกับเกย์มากที่สุดตามรายงานจาก Pew Research Center โดยได้ทำการศึกษาสุ่มสำรวจจากผู้คนจาก 39 ประเทศว่า “สังคมควรยอมรับเรื่องรักร่วมเพศหรือไม่?” และประเทศที่มีผู้คนตอบรับสูงสุดว่า “ใช่” สูงที่สุด จนได้เข้ามาอยู่ในการจัดอันดับครั้งนี้ ก็มีรายชื่อประเทศดังนี้ค่ะ
อันดับที่ 10 ประเทศฟิลิปปินส์ มีอัตราการตอบรับถึง 73%
การตอบรับของฟิลิปปินส์ทำให้ UndubZapp ทึ่งไม่น้อย เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศเคร่งศาสนา แต่กลับกลายเป็นว่าฟิลิปปินส์กลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่สาธารณชนยอมรับพฤติกรรมรักร่วมเพศอยู่ในระดับสูง
อันดับที่ 9 ประเทศอิตาลี มีอัตราการตอบรับถึง 74%
เรื่องนี้ก็สอดคล้องกับมติเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎรอิตาลี ที่มีผลโหวต 327 ต่อ 51 เสียง ผ่านร่างกฎหมายให้สิทธิในการจดทะเบียน ‘คู่ชีวิต’ แก่คู่รักเพศเดียวกัน เมื่อปี พ.ศ.2559 ซึ่งทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนยังคงมีหวังว่ากฎหมายในด้านนี้จะพัฒนาไปจนครอบคลุมสิทธิที่ครบถ้วนเช่นเดียวกับคู่สมรสชาย-หญิงได้ในอนาคต
อันดับที่ 8 ประเทศอาร์เจนติน่า มีอัตราการตอบรับถึง 74%
ประเทศอาร์เจนตินาบังคับใช้กฎหมายยอมรับคู่แต่งงานเกย์ไปเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2010 ทำให้กลายเป็นประเทศคาทอลิกประเทศที่ 3 ต่อจากสเปนและโปรตุเกสที่รับรองการแต่งงาน
อันดับที่ 7 สหราชอาณาจักร มีอัตราการตอบรับถึง 76%
ในยุโรปบางประเทศ และในสหรัฐอเมริกาบางรัฐ เริ่มมีกฎหมายอนุญาตให้คนเพศเดียวกันจดทะเบียนเป็นคู่เพื่อจะ ได้รับสิทธิเสมอคู่ชาย-หญิง ในเรื่องการลดภาษี การสืบบำเหน็จ-บำนาญและมรดก และการรับสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ ซึ่ง “การจดทะเบียนคู่” มีไว้เพื่อสร้างความเสมอภาคระหว่างคู่เกย์ผู้ชายและเกย์ผู้หญิง เพื่ออำนวยความสะดวกให้คู่เกย์และเลสเบี้ยนได้ครองชีวิตร่วมกันอย่างมีระเบียบ โดยประเทศอังกฤษได้มีการออกกฎหมายอนุญาตให้คนรักร่วมเพศแต่งงาน และเริ่มบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2557 เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 29 มี.ค. โดยมีการเชิญธงสีรุ้งขึ้นสู่ยอดเสา ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ถนนดาวนิ่ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และ นายเอ็ด มิลิแบนด์ ผู้นำฝ่ายค้าน ต่างออกมาแสดงความยินดีที่กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
อันดับที่ 6 ประเทศฝรั่งเศส มีอัตราการตอบรับถึง 77%
ผลการตอบรับนี้สอดคล้องกับการที่ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสได้ลงนามกฎหมายอนุญาตให้เกย์แต่งงานได้ เป็นชาติที่ 14 เมื่อปี 2013 ซึ่งเป็นช่วงเวลา 1 ปี ก่อนการสำรวจชิ้นนี้ และประกาศใช้กฎหมายนี้เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2013 ค่ะ
Advertisements
อันดับที่ 5 ประเทศออสเตรเลีย มีอัตราการตอบรับถึง 79%
กระแสตื่นตัวของชาวออสเตรเลียที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิในการแต่งงานของชาวเกย์นั้นมีมาตั้งแต่ ปี 2011 ซึ่งในช่วงเวลานั้นมีการสำรวจโพลออกมาว่า ชาวออสซี่ 3 ใน 4 คนยอมรับว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กฎหมายของออสเตรเลียต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่ออนุญาตให้คู่รักร่วมเพศได้แต่งงานกัน จนมาถึงปี 2017 ออสเตรเลียก็ได้ผ่านกฎหมายแต่งงานคู่รักเพศเดียวกันในที่สุด และกลายเป็นประเทศที่ 24 ของโลก ที่ผ่านร่างกฎหมายการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกัน
อันดับที่ 4 สาธารณรัฐเช็ก มีอัตราการตอบรับถึง 80%
ผลสำรวจ “เลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กส์ชวล ทรานสเจนเดอร์” หรือ LGBT ของหน่วยงานสิทธิขั้นพื้นฐานสหภาพยุโรปพบว่า คนรักร่วมเพศจำนวน 1 ใน 4 ยอมรับว่าตัวเองเคยถูกทำร้าย หรือข่มขู่ แต่ประเทศที่เปิดกว้างต่อเพศทางเลือกมากที่สุดนั้นกลับมีรายชื่อของสาธารณรัฐเช็กอยู่ด้วย ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าประหลาดใจอย่างมากเลยทีเดียว
อันดับที่ 3 ประเทศแคนาดา มีอัตราการตอบรับถึง 80%
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ชาวแคนาดาจะยอมรับและมีความเป็นมิตรกับเกย์ เนื่องจากดินแดนแห่งใบเมเปิ้ลนี้ได้มีการประกาศให้คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานได้อย่างถูกกฎหมายได้มาตั้งแต่ปี 2003 จนกระทั่งปี 2005 จึงมีมติเป็นเอกฉันท์และประกาศให้แคนาดาเป็นประเทศที่ 4 ของโลกที่คู่รักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานได้อย่างถูกกฎหมาย
อันดับที่ 2 ประเทศเยอรมัน มีอัตราการตอบรับถึง 87%
มิวนิค ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่มีทุกอย่างสำหรับนักท่องเที่ยวเกย์ และถือว่าเป็นประเทศที่มีเกย์มากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ซึ่งการรักร่วมเพศนั้นเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มหนุ่มสาว สังเกตได้จากการที่เมืองใหญ่ทุกแห่งของเยอรมันมีสถานบันเทิงยามค่ำคืนสำหรับเกย์และเลสเบี้ยนค่ะ
อันดับที่ 1 ประเทศสเปน มีอัตราการตอบรับถึง 88%
โดยเฉพาะในกรุงมาดริด (Madrid) ที่เป็นเมืองที่มีชุมชนเกย์ที่ใหญ่ที่สุดในสเปนและยุโรป ซึ่งคาดว่ามีชาวเกย์ประมาณ5 แสนคน ที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ นอกจากนี้ประเทศสเปนยังมีการประกาศใช้กฎหมายให้คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานได้ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2005 ที่มีประชากรทั้งหมด 62% เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ ท่ามกลางการคัดค้านจากฝ่ายคาทอลิก
SOURCE : infoplease
Advertisements