เปิดใจเคลียร์ เกิดเป็นสาวผิวมัน เลือกโฟมลดสิวอย่างไรให้รอด?

ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘สาวผิวมัน’ แล้วนั้นถือว่าเป็นสภาพผิวที่มีความไวต่อการสัมผัส (Sensitive Skin) อีกประเภทหนึ่งก็ว่าได้ การจะหยิบจับหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตามแต่แนะนำว่าสาวๆ จะต้องมีความพิถีพิถัน นับตั้งแต่ขั้นตอนการล้างทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่ง การเลือกใช้โฟมลดสิว ตลอดไปจนถึงขั้นตอนการบำรุงต่างๆ ทั้งนี้สาวๆ หลายคนอาจจะทราบวิธีการเลือกคลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางและสกินแคร์บำรุงสำหรับสาวผิวมันกันมาบ้างแล้ว แต่ส่วนที่หลายคนมักจะมองข้ามนั่นก็คือการล้างทำความสะอาดด้วยโฟม คิดว่าเลือกใช้โฟมประเภทใดก็ได้ ขอให้ล้างสะอาดเป็นพอ ซึ่งแท้จริงแล้วการเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทโฟมลดสิวนั้นก็มีขั้นตอนและรายละเอียดในการเลือกสรรอยู่พอสมควร จะมีเรื่องอะไรที่สาวๆ ควรทราบบ้าง บทความนี้มีข้อมูลมาฝาก

 

รู้จักสภาพผิวของตนเองก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์

เรียกได้ว่าเป็นเคล็ดลับที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวไม่ใช่เพียงแค่สาวผิวมันเท่านั้น ก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตามแต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งโฟมลดสิวแนะนำให้สาวๆ ทำความรู้จักกับสภาพผิวของตนเองให้ดีเสียก่อน หากมีสภาพผิวมันโฟมล้างหน้าที่ใช้นอกจากจะมีคุณสมบัติในการช่วยลดสิวได้เป็นอย่างดีแล้ว จะต้องสามารถช่วยควบคุมความมันระหว่างวันได้ด้วยจึงจะเรียกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสภาพผิว แต่ถ้าหากสาวๆ มีสภาพผิวประเภทอื่น อย่างเช่น ผิวแห้ง ขาดน้ำ ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ล้างหน้าก็ต้องมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหลังใช้

 

Advertisements

เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์

การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าอย่างโฟมลดสิวสำหรับสาวผิวมันนั้น ทางที่ดีแนะนำว่าเนื้อสัมผัสของตัวผลิตภัณฑ์ต้องเป็นประเภทที่ไม่มีฟองจะดีกว่า ทั้งนี้ก็เพื่อตอบโจทย์ของการลดปัญหาสิว ปัญหาผิวอุดตันต่างๆ ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสแบบฟองไม่ได้การันตีได้ว่าจะสามารถทำความสะอาดผิวได้ดีเสมอไป แต่ในทางตรงกันข้ามตัวฟองจากโฟมนั้นมีโอกาสแปรเปลี่ยนเป็นสารเคมีตกค้างบนชั้นผิวได้หากล้างไม่สะอาด แน่นอนว่าเมื่อเกิดสารตกค้างบนชั้นผิวมากๆ นอกจากปัญหาสิวต่างๆ จะไม่หมดไปแล้ว โอกาสที่จะเกิดสิวใหม่ขึ้นก็เป็นไปได้ง่ายกว่าเดิมมาก

 

ส่วนผสมของค่า pH มีความใกล้เคียงกับผิว

ขึ้นชื่อว่าโฟมลดสิวแล้ว คุณสมบัติหรือหน้าที่หลักคือการชำระล้างทำความสะอาดคราบสิ่งสกปรกออกจากชั้นผิวโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิวเพิ่มในภายหลัง ทั้งนี้ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้นั้นจะต้องมีค่า pH ที่สมดุลใกล้เคียงกับผิวอยู่ที่ประมาณ 4.7 ถึง 5.75 จึงจะเรียกได้ว่าเป็นค่าที่สมดุลเหมาะแก่การทำงานของชั้นผิวและเซลล์ต่างๆ หลังล้างหน้าเสร็จแล้วจะไม่ทิ้งความรู้สึกแห้งตึงเอาไว้บนชั้นผิว ปัญหาของการที่ผิวจะตกใจเนื่องจากหน้าแห้งมากจนเกินไปและทำให้ปัญหาสิวต่างๆ ตามมาในภายหลังก็จะลดลงตามไปด้วยในที่สุด

Advertisements

Advertisements

Advertisements