ภาพยนตร์ไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก และมีหลายต่อหลายเรื่อง ที่ถูกนำมาสร้างเป็นละคร การนำเสนอผลงานสั้นๆแล้วสามารถทำให้ตรึงใจได้ว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่หากภาพยนตร์เหล่านั้นถูกสรรสร้างขึ้นมาในรูปแบบละครโทรทัศน์ขยายเนื้อหาคงเพิ่มอรรถรสในการรับชมเข้าไปอีก UndubZapp ว่าเราไปตามดูกันหน่อยว่า ภาพยนตร์ดังของไทยสร้าง เรื่องไหนที่เนื้อหาดีงาม ควรค่าแก่การสร้างลงจอโทรทัศน์ให้ได้ชมบ้าง
1. เกิดอีกทีต้องมีเธอ ปี พ.ศ. 2538
ภาพยนตร์แนวรักโรแมนติกแฟนตาซี “เกิดอีกทีต้องมีเธอ” นับเป็นอีกเรื่องของบริษัทอาร์.เอส.ฟิล์ม ที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จมากๆ โดยออกฉายในปี พ.ศ. 2538 ผลงานการกำกับเรื่องที่ 2 ของ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” นอกจากกระแสแรงถือว่าประสบผลสำเร็จมากๆ ก็เพราะมีเนื้อหาค่อนข้างฉีกออกไปจากเรื่องราวความรักทั่วๆ ไป เรื่องราวของ “แทน” แสดงโดย “ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง” กับ “เพียง” แสดงโดย “นิ้ง กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา” สองตัวแสดง ทั้งคู่เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุขณะเดินทาง ทำให้ต้องเปลี่ยนจุดมุ่งหมายการเดินทาง เพราะโลกหลังความตาย ภายใน 7 วัน ต้องไปถึงประตูแห่งการเกิดใหม่ให้ได้ ขณะที่ต้องฝ่าฝันอุปสรรค เพราะวิญญาณร้ายตามดูดพลังชีวิต ตรงนี้ทำให้พระนางได้ใกล้ชิดกัน เพราะต้องตามปกป้องฝ่ายหญิงอยู่ตลอด หากเรื่องนี้มีโอกาสได้สร้างเป็นละครโทรทัศน์ให้ได้ชม กระแสหนังยุค 90 มีหวังบูมขึ้นมาอีกระรอก
© รูปต้นฉบับ: @wikimedia
2. เพื่อนสนิท ปี พ.ศ. 2548
ถัดมาที่ภาพยนตร์ เรื่อง เพื่อนสนิท อดีตเคยถูกฉายไปเมื่อปี 2548 เพื่อนสนิท คือหนังรักโรแมนติก ที่หลายคนไม่อาจปฏิเสธว่าเคยจูงมือกันไปซื้อบัตรเข้าไปชม กำกับโดย คมกฤษ ตรีวิมล เรื่องนี้ถูกเปิดเรื่องด้วยการค้นหาตนเองของ “หมู” หรือฉายาที่เพื่อนๆ ตั้งให้ว่า “ไข่ย้อย” หนุ่มในรั้วมหาลัยเชียงใหม่ ขี้อาย และแอบหลงรักเพื่อนสนิทอย่าง “ดากานดา” แต่ต้องเก็บงำไว้ และแม้ว่าเวลาจะผ่านไปกว่า 15 ปี เนื้อหาและกลิ่นอายจาก เพื่อนสนิท ก็ยังคงสอดแทรกวัฒนธรรมในยุคปัจจุบัน มีหลายคนอินกับการแอบรักเพื่อนจนทุกวันนี้ก็ว่าได้ เป็นปรากฏการณ์ของวงการบันเทิงไทย ที่กระแสแรงถูกพูดถึงตั้งแต่ทีเซอร์แรกออกสู่สายตาประชาชน โดยเป็นการแจ้งเกิดของ นักแสดงนำอย่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ (ไข่ย้อย), นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา (ดากานดา) เอ๋ มณีรัตน์ คำอ้วน (นุ้ย) รวมถึงนักแสดงผู้สร้างสีสันอย่าง โอปอล์ ปาณิสรา (แตน) กลิ่นอายของความรักในรั้วมหาลัย การเล่าเรื่องความรักที่ต้องซ่อนความรู้สึก เรื่องนี้เรียกว่าสุดประทับใจไม่รู้ลืม อย่างไรแล้วถ้าในอนาคต เพื่อนสนิทมีโอกาสถูกสร้างขึ้นมาเป็นตอนยาวในรูปแบบละครโทรทัศน์ เชื่อว่าคอหนังเรื่องนี้ต้องไม่ยอมพลาดแน่ๆ ล่ะ
© รูปต้นฉบับ: @wikipedia
3. มหา’ลัย เหมืองแร่ (The Tin mine) ปี 2548
มหาลัยเหมืองแร่ เป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดย เก้ง จิระ มะลิกุล โดยสร้างจากเรื่องจริงของ “อาจินต์ ปัญจพรรค์” อดีตนิสิตที่ถูกไทร์ออกจากมหาวิทยาลัย และถูกคุณพ่อก็ส่งไปทำงานที่เหมืองกระโสม อาจินต์คิดว่าที่นั่นคือคุกดัดสันดาร แต่นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสำคัญในชีวิต เพราะเป็นการเริ่มต้นเพื่อที่จะรู้การใช้ชีวิตจริง ที่ไม่มีตำราเล่มไหนสามารถสอนได้ ทั้งเรียนรู้การทำงาน ไม่ว่าจะเป็นกับคน เครื่องจักร ไม่เว้นแม้กระทั่งสภาพอากาศ ได้อะไรมากมายจากผู้คนที่เข้ามาในชีวิตช่วงที่อาศัยอยู่ที่นั่น โดยถูกเล่าเรื่องชีวิตสี่ปีในเหมืองแร่ พอที่จะทำให้คนคนหนึ่งจบมหาวิทยาลัยได้ แต่สำหรับอาจินต์แล้วสี่ปีในเหมืองแร่ มันให้อะไรมากกว่านั้น โดยเรื่องนี้ได้ “พิชญะ วัชจิตพันธ์” มารับบท “อาจินต์” เนื้อเรื่องดีงาม หลายคนขอยกหนังเรื่องนี้ให้เป็นหนังชั้นดี มาสเตอร์พีซในใจ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องราวของอาจินต์อนาคตภาคหน้าจะมีโอกาสถ่ายทอดเป็นผลงานโทรทัศน์หรือไม่ แฟนๆ ต้องรอติดตามกัน
Advertisements
© รูปต้นฉบับ: @pantip
4. กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2546
ปิดท้ายที่ภาพยนตร์ เรื่อง กุมภาพันธ์ ถูกฉายไปเมื่อปี 2546 ภาพยนตร์กำกับและเขียนบทโดย ต้อม ยุทธเลิศ หนังไทยที่เคยทำให้คนดูหลั่งน้ำตากันมาแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เข้าฉายตรงกับช่วงเทศกาลแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2546 ฉากหลักส่วนใหญ่ไปถ่ายทำไกลถึงนิวยอร์ก แต่ก็ยังคงกลิ่นอายความโรแมนติกแบบไทยๆ มีความเรียลถูกผสมผสานอย่างลงตัว กุมภาพันธ์ คือเรื่องราวของหญิงสาวที่ตัดสินใจบินไปนิวยอร์กเพื่อใช้ชีวิต 4 เดือนสุดท้าย โดยหวังจะลืมความเจ็บปวดที่มีในเมืองไทย แต่วันแรกสูญเสียความทรงจำ จำแม้กระทั่งตัวเองไม่ได้ และได้ไปพบกับชายหนุ่มปริศนาที่เข้ามาดูแลและเยียวยาบาดแผล แม้จะทำให้บาดแผลดีขึ้น เหมือนดั่งความรู้สึกที่ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นสั้นมากจริงๆ ถูกถ่ายทอดโดย “เจี๊ยบ โสภิตนภา” และ “ชาคริต แย้มนาม” โดยทรงผมสั้นของ “แก้วตา” หรือ ซึ่งรับบทโดย “เจี๊ยบ” ได้รับความนิยมอย่างมาก กลายมาเป็นเทรนด์ผมของสาวไทยในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ค่ะ ต้องบอกว่า กุมภาพันธ์ ยังเป็นหนังรักของไทยที่ถูกเอ่ยถึงบ่อยครั้ง แม้ว่าจะผันผ่านมานานกว่า 17 ปีแล้ว ทว่าความรักสุดกินใจ เรื่องนี้หากก้าวมาสู่ละครทีวี คงสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการบันเทิงไทยได้ไม่น้อยเลยล่ะ
© รูปต้นฉบับ: @wikipedia
อันที่จริงยังมีหนังไทยทำไทยสรรสร้างอีกหลายเรื่องเลย ที่มีเนื้อหาดีงามถูกใจคนไทย หากนำมาสร้างในรูปแบบละครโทรทัศน์คงสร้างปรากฏการณ์ดีๆ ได้ไม่น้อย
Advertisements