ใครที่อินกับเรื่องราวความลี้ลับ หาข้อพิสูจน์ได้ยาก ต้องน่าจะเคยฟังเรื่องราวของ 2 ดาราดัง เอ พศิน และ เกริก ชิลเลอร์ เกี่ยวกับภาพวาดจากนิมิตร ยอมรับเลยว่าตอนแรกที่ได้ยินได้ฟัง ทำให้อยากรู้หนักมาก ว่าเรื่องราวเป็นยังไง ทำไมถึงกลายเป็นการวาดภาพดังกล่าวขึ้นมาได้ วันนี้ UndubZapp จึงขออนุญาตนำเรื่องเล่า และ 2 ภาพวาดจากทั้งคู่ที่เคยเล่าไว้ หยิบยกมาให้ฟังอีกครั้ง หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ค่ะ
ภาพวาดจาก “เอ พศิน”
เริ่มจาก เอ พศิน เรืองวุฒิ เป็นคนที่นับถือเรื่องราวของพญานาคเป็นทุนเดิม จุดเริ่มต้นนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย วันหนึ่งช่วงเวลาประมาณตี2 เจ้าตัวอาบน้ำอยู่ข้างบน ส่วนอดีตภรรยา(แตงกวา) และลูกชาย(น้องเลโก้) อยู่ชั้นล่าง ได้ยินเสียงคนเคาะ(รอบๆบ้าน) ซึ่งเป็นเสียงที่ดังมาก ดังถึงขนาดที่เจ้าตัวอาบน้ำอยู่ยังได้ยิน เหตุการณ์นั้นทำให้ภรรยาตกใจกลัววิ่งขึ้นไปเรียกเจ้าตัว พอโทรไปแจ้ง รปภ.ตรวจสอบรอบบ้าน ปรากฏว่าไม่พบกับอะไรที่ผิดปกติ จึงมั่นใจว่าท่านมาทักทาย เพราะเป็นเรื่องที่คนที่นับถือท่านเคยเจอเหตุการณ์เดียวกันมาแล้วหลายคน หลังจากนั้น หนุ่มเอ เริ่มบูชาองค์พญานาคด้วยตัวเองมากขึ้น และเริ่มวาดภาพพญานาคขึ้นมา แต่ละภาพล้วนมีที่มาที่ไป ซึ่งทุกคนในบ้านรวมถึงลูกชายจะเห็นสิ่งที่ตนไม่เห็นอยู่บ่อยๆ และมักจะบอกว่าพี่เค้าอยู่บนบ้านอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงทุกครั้งที่ตนวาดภาพเกี่ยวกับองค์พญานาคทีไร น้องเลโก้ จะไม่ค่อยอยากให้วาด และมีอาการไม่สบายตัว งอแง นอนไม่หลับ พอวาดเสร็จทุกครั้งอาการก็จะปกติ ซึ่งถ้าภาพไหนที่พลังงานแรงๆ หนุ่มเอ บอกว่าลูกชายจะเข้ามาห้ามบอกว่า “ป๊าป๊าอย่าเขียน!” วิ่งเข้ามาฉีกรูป โดยภาพวาดองค์พญานาคฝีมือเขา มีเหตุการณ์ทุกภาพ แต่เราจะยกเป็นเรื่องราวของภาพนี้ที่เคยเป็นที่ฮือฮาอยู่ช่วงหนึ่ง
ครั้งนั้น หนุ่มเอ อยากภาพวาดหน้าตรงของเจ้าปู่ศรีสุทโธ จึงอธิษฐานจิตว่า “ขอให้ผมฝันได้ไหม?” แล้วปักธูปลงกลางดิน คืนนั้นไม่ได้ฝันอะไร… แต่ตื่นเช้าขึ้นมา พบความผิดปกติในดวงตาคือมีเส้นเลือดแตกเป็นรอยตามภาพ ไปหาหมอหมอก็ระบุสาเหตุไม่ได้ จึงต้องพักงาน 1 เดือน สาวแตงกวา จึงถามตนว่า อธิษฐานอะไรไว้หรือไม่ เพราะเธอฝันเห็นภาพของชายสูงอายุ หน้าตามีบารมี เห็นองค์ประกอบบนใบหน้าครบแล้วก็มีเครายาวๆ ทำให้มั่นใจว่า ท่านน่าจะสื่อสารมาทาง แตงกวา เจ้าตัวจึงเขียนภาพตามคำเล่าออกมา ปรากฏว่าภรรยาบอกว่าไม่ใช่! ตนจึงวาดใหม่อีกครั้ง จึงกลายเป็นภาพออกมาสมบูรณ์ ตรงตามฝันนิมิตรของภรรยาที่เห็น ทั้งนี้ เอ พศิน ยังเล่าอีกว่า ทุกครั้งที่จรดปลายดินสอลงทีไร…ฝนจะตกหนักทุกครั้ง โดยภาพนี้ใช้เวลาเขียน 1 อาทิตย์ และฝนตกทุกวัน และก็ปรากฏว่าวาดเสร็จปุ๊บดวงตากลับกลายเป็นว่าหายเป็นปกติเหมือนกัน
Advertisements
© รูปต้นฉบับ: @apassin
ภาพวาดจาก “เกริก ชิลเลอร์”
บ้านหลังปัจจุบันของ เกริก ชิลเลอร์ เขาเล่าว่าเพราะศาลตายายที่ทำให้ได้ที่ดินตรงนี้มาปลูกบ้าน โดยแรกเริ่มเดิมที เกริก เปิดเผยว่ามาดูที่ดินแห่งนี้เพื่อปลูกบ้าน แต่ราคาสูงไม่รู้จะทำอย่างไรให้ยอมลดราคา เจ้าตัวจึงจุดธูปปักลงดินแล้วเอาพวงมาลัยมาวางไว้กลางแจ้ง พร้อมอธิษฐานจิตขอเจ้าที่เจ้าทาง และอธิษฐานในใจว่า “ผมเอาวางไว้บริเวณนี้ก่อนนะครับ ถ้ามีเงินผมจะมาสร้างศาลพระภูมิให้” พอตกดึกเจ้าตัวฝันเห็นผู้หญิงผมสั้นบ็อบรูปร่างผอม นั่งคุกเข่า หยิบพวงมาลัย แล้วหันมายิ้มให้ ซึ่ง เกริก มั่นใจว่าเป็นยายที่อยู่ในศาลและท่านคงรับรู้ได้ หลังจากนั้นเจ้าของที่โทรมาหาเองเลย บอกว่าจะให้เป็นราคาที่ เกริก ขอลดไว้ เมื่อปลูกบ้านตนได้วาดภาพผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมา ก่อนวาดตั้งใจวาดเป็นผู้หญิงยืนอยู่ตรงพุ่มไม้ โดยเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ใบหน้าผู้หญิงปริศนายืนอยู่บริเวณนั้นเป็นบุคคลเดียวกับที่ เกริก ฝันเห็นทุกประการ! ได้แต่แปลกใจไม่คิดว่าตอนนั่งวาดใบหน้านั้นจะลอยเข้ามาในหัวได้ หลังจากนั้นจึงกลัวที่จะวาดต่อ จึงกลายเป็นภาพที่วาดไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่สุดท้ายช่วงที่ลูกสาวเริ่มโต ได้เข้าไปเอาภาพนี้ออกมา บอกตนว่าจะขอวาดต่อเอง กระทั่งกลายเป็นวาดต่อจนเสร็จสมบูรณ์ เรื่องชวนขนหัวลุกนี้ เจ้าตัวเล่าว่าช่วงที่เซ้นต์เปิดตนจะรับรู้ว่าตายายนั้นเดินอยู่บริเวณบ้าน
© รูปต้นฉบับ: @schiller555
Advertisements