จำนวนของ Supercars และ Hypercars ในตลาดโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นั่นหมายถึงการแข่งขันผลิตรถราคาแพงในโลกก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ตั้งแต่ Lamborghini Veneno Roadster, McLaren P1 ไปจนถึง Aston Martin Valkyrie ที่มีราคาแพงและมีราคาสูงมาก ๆ เชื่อหรือไม่ว่า มีรถราคาแพงหูฉี่มากมายที่ราคาโคตะระแพงจนเกินกว่าที่คุณจะคาดคิด และราคาของรถยนต์ที่แพงที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
ส่วนใหญ่แล้วเวลาเราพูดถึงรายชื่อรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุด เรามักจะมองไปที่รถยนต์ที่มาจากสถานที่ที่ไม่คาดคิดเช่น Lykan Hypersport ซูเปอร์คาร์ปีศาจแห่งความเร็วที่ผลิตมาจากตะวันออกกลาง นอกจากนี้ เรายังมองไปที่รถยนต์อย่าง Gordon Ramsay รวมทั้ง Hennessey Venom GT Spyder WRE (1.3 ล้านเหรียญ), Lamborghini Centenario (1.8 ล้านเหรียญ) และ Aston Martin Vulcan (2.3 ล้านเหรียญ) และในบทความนี้เราได้รวบรวม 10 อันดับรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในปี 2018 มาฝากกัน บอกได้เลยว่า แต่ละคันนั้นมีสมรรถนะและวัสดุการสร้างที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างกัน ไปดูกันเลยว่า แต่ละคันสวยหรู และแพงสมราคากันแค่ไหน
อันดับที่ 10 Koenigsegg Regera – $1.9 million (ประมาณ 59,000,000 บาท )
Christian von Koenigsegg เป็นผู้ผลิตที่มีวิสัยทัศน์มากที่สุดในโลกคนหนึ่งในปัจจุบัน ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ล้ำลึกเพื่อให้ตรงกับความซับซ้อนของความต้องการของลูกค้าแต่ละคน ทำให้ Koenigsegg Regera (โคนิกเซกก์ เรเกร่า) กลายเป็นไฮเปอร์คาร์ที่ผลิตเพียง 80 คันเท่านั้น โดยใช้ระบบไฮบริดจากค่าย โคนิกเซกก์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ ขนาด 5 ลิตร V8 เทอร์โบ มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ติดตั้งข้อเหวี่ยงเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์โดยมีข้อต่อแบบไฮดรอลิกและทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนที่ให้กำลังมากถึง 1,500 แรงม้า สามารถทำความเร็วในอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 2.7 วินาที ในความเร็วสูงสุด
อันดับที่ 9 Ferrari LaFerrari Aperta — $2.2 million (ประมาณ 69,000,000 บาท)
เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วในปารีสออโต้โชว์ Ferrari LaFerrari Aperta เป็นรุ่นเปิดตัวของเฟอร์รารีที่เร็วที่สุดในการผลิตที่เคยทำมา LaFerrari Aperta (ลาเฟอร์รารี่ อาเพอร์ตา) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 6.3ลิตร V12 ควบคู่ไปกับระบบการฟื้นคืนพลังงานจลน์ของ HY-KERS พละกำลัง 800 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 163 แรงม้า ทำให้มีพละกำลังรวมอยู่ที่ 963 แรงม้า แรงบิดมากกว่า 900 นิวตันเมตร ให้ความเร็วสูงสุดที่ 349 กม/ชม. ทำความเร็ว 0-100 กม/ชม. เพียง 3วินาที
อันดับที่ 8 McLaren P1 GTR — $2.59 million (ประมาณ 81,000,000 บาท)
P1 GTR ขนาด 1,000 แรงม้าเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกเพราะความเป็นแม็คลาเรนที่มีความพิเศษ คือ เป็นรถสปอร์ตต้นแบบที่ออกแบบเพื่อลงสนามแข่งโดยเฉพาะ สปอร์ตคาร์ระบบไฮบริดรุ่นนี้มีเครื่องยนต์ขนาด 3.8 ลิตร V8 ให้กำลัง 1000 แรงม้า ระบบเกียร์ DCT 7 สปีด นอกจากนี้ P1 ยังมีโปรแกรมการขับขี่ที่หลากหลาย และมีอัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. ใน 2.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 362 กม./ชม (225 ไมล์/ชม.)
อันดับ 7 Bugatti Chiron — $2.9 million (ประมาณ 91,000,000 บาท)
Bugatti Chiron มีเครื่องยนต์ W-16 ขนาด 8 ลิตรที่มีอัตราการทำ turbocharged ที่เรียกพลังเอาท์พุทได้มากถึง 1,500 แรงม้า ความเร็วสูงสุดของ Chiron ถูกจำกัดไว้ที่ 261 ไมล์ต่อชั่วโมงบนท้องถนน พร้อมแรงบิด 1,500 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 6,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 สปีด รวมถึงยังสามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 2.5 วินาที 0-200 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 6.5 วินาที และ 0-300 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 13.6 วินาที ความเร็วสูงสุดก็ทำได้ถึง 463 กม./ชม.
อันดับที่ 6 Pagani Huayra BC — $2.8 million (ประมาณ 88,000,000 บาท)
เครื่องยนต์มาจาก AMG และยังคงเป็น V-12 bi-turbo ขนาด 6.0 ลิตรที่ได้รับการปรับแต่งโดย Gnomes ทำให้มี 790 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/ นาที และแรงบิดสูงสุด 1,100 นิวตันเมตรที่ 2,250-4,500 รอบ/ นาที พลังราวกับร่ายเวทมนตร์นี้ถูกเรียกใช้ผ่านเพลาไดรฟ์ขาตั้งที่พัฒนาขึ้นโดยใช้โปรแกรมต้นแบบของ Le Mans ไปยังล้อหลังโดยใช้การส่งผ่าน Xtrac แบบ 7 ความเร็วและเกียร์ถูกควบคุมโดยการกระตุ้นไฟฟ้าไฮดรอลิกและซิงโครไนซ์คาร์บอนไฟเบอร์
Advertisements
อันดับที่ 5 Ferrari Pininfarina Sergio — $3 million (ประมาณ 94,000,000 บาท)
Ferrari Pininfarina Sergio ที่มีราคาแพงมากนี้ ถูกผลิตเพียง 6 คัน เพื่อเป็นการระลึกถึง นายเซอร์จิโอ พินินฟาริน่า (Sergio Pininfarina) ตำนานผู้ยิ่งใหญ่อีกคนหนึ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว ด้วยกรอบโครงแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่ทำด้วยมือ ทำให้ Sergio มีน้ำหนักเบากว่า 330 ปอนด์ นอกจากนี้ยังใช้แนวคิดแบบเปิดโล่งทำให้แรงของเครื่องยนต์ F136F V-8 ขนาด 4.5 ลิตรที่ขับเคลื่อนด้วยธรรมชาติซึ่งใช้เครื่องยนต์ Spider 458 ที่มีกำลังมากขึ้น ให้พละกำลัง 605 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที
อันดับที่ 4 Aston Martin Valkyrie — $3 million (ประมาณ 94,000,000 บาท)
Valkyrie ไม่ใช่รถสำหรับผู้ซื้อ supercars แบบสบาย ๆ Marek Reichman ผู้ออกแบบของ Aston Martin กล่าวว่ารถคันนี้ซึ่งมีระบบแบตเตอรี่ไฮบริดติดเครื่องของ Rimac ติดตั้งพร้อมกับเครื่องยนต์ Block V12 ขนาด 6.5 ลิตร ออกแบบโดยคอสเวิร์ธ ให้กำลังประมาณ 1,000 แรงม้า ทำให้ Aston Martin Valkyrie (แอสตัน มาร์ติน วัลคีรี่) มีอัตราเร่งที่เร็วมากและมีสมรรถนะใกล้เคียงกับรถฟอร์มูล่าวันเลยทีเดียว
อันดับที่ 3 Lamborghini Veneno Roadster — $3.3 million (ประมาณ 103,000,000 บาท)
Veneno Roadster เป็นรถ Lamborghini ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก รถสองที่นั่งแบบเปิดโล่งนี้ ทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ มีความเร็ว 740 แรงม้า จากเครื่องยนต์ Block V12 ความจุกระบอกสูบ 6.5 ลิตร ด้วยเกียร์ธรรมดาแบบเกียร์เดี่ยวแบบ ISR ซึ่งใช้ความเร็ว 740 แรงม้าซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่พบในรถเก๋ง Veneno โดยน้ำหนักรวมของรถคันนี้อยู่ที่ 3,285 ปอนด์ มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 354 กม./ชม.
อันดับที่ 2 Lykan HyperSport — $3.4 million (ประมาณ 107,000,000 บาท)
สร้างโดย W Motors ที่ตั้งอยู่ในประเทศเลบานอน และถูกผลิตเพียง 7 คันเท่านั้น ด้วยดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร มีไฟหน้าเป็น titanium LED ประดับด้วยเพชร 15 กะรัต ส่งผลให้ Lykan Hypersport มีราคาสูง ในขณะที่เครื่องยนต์ใช้ระบบ Twin Turbo 6 ลูกสูบขนาด 3.7 ลิตร ขุมพลังความเร็ว 780 แรงม้า สามารถเร่งสปีดจาก 0 – 100 กิโลเมตรได้ภายในเวลา 2.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 240 ไมล์ต่อชั่วโมง
อันดับที่ 1 McLaren P1 LM — $3.7 million (ประมาณ 116,000,000 บาท)
McLaren P1 LM เป็นรถที่แพงที่สุดในโลกที่ผลิตเพียงแค่ 6 คันเท่านั้น ทำให้มันเป็นไฮเปอร์คาร์ที่หายากที่สุด P1 LM นั้นก็เหมือนๆ กับ P1 GTR ซึ่งมีความแรงของกำลังและใช้เครื่องยนต์พลังงานไฮบริดมาทดแทน มีการเคลือบทองในห้องเครื่อง โดยเครื่องยนต์ที่มีทองล้อมรอบอยู่นั้นเป็นแบบทวินเทอร์โบ V-8 ขนาด 3.8 ลิตร เมื่อรวมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสามตัวที่กระจายตัวระหว่างเครื่องยนต์และล้อหลัง P1 LM แล้วทำให้มีกำลังผลิตแรงม้าสูงถึง 1000 แรงม้า
Advertisements