ย่างเข้ามาถึงในปีนี้ 2561 ที่เป็นปีจอ หรือปีหมา นั่นเอง สำหรับใครหลายๆ คนที่ดูตำราจากหลายๆ สำนัก หรืออะไรก็ตามแต่ แล้วพบว่าปีนี้ เป็นปีชงของตัวเอง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องแก้ชงอย่างไร ต้องไปไหว้พระ ทำบุญวันไหน เพื่อจะได้เพิ่มความเป็นสิริมงคลและแก้ชง ให้ผ่านพ้นปีนี้ไปได้ด้วยดี และสำหรับปีนักษัตรที่ชงในปี 2561 ได้แก่ ปีมะโรง ปีจอ ปีฉลู และปีมะแม ส่วนจะแก้ชงอย่างไร สถานที่ไหนนั่น ตามมาดูกันเถอะ
1. วัดเล่งเน่ยยี่ (วัดมังกรกมลาวาส)
สถานที่คุ้นหูและติดอันดับของการแก้ชงมากที่สุด ก็ควรจะหนีไม่พ้นสถานที่แห่งนี้ วัดเล่งเน่ยยีหรือวัดมังกรกมลาวาส เป็นหนึ่งในวัดจีนแต้จิ๋วในยุคแรกๆ ที่มีชื่อเสียงมากๆ แห่งหนึ่งในไทย เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ และองค์เทพเจ้าองค์สำคัญอยู่หลายองค์ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่มาไหว้เพื่อขอความสิริมงคลให้เกิดแก่ตัวเอง เสริมดวงซะตา และที่สำคัญที่สุดก็คือการแก้ปีชง
2. วัดกัมโล่วยี่ (วัดทิพยวารีวิหาร)
วัดจีนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยธนบุรี และแน่นอนว่ามีเทพองค์สำคัญๆ อยู่อย่างมากมาย จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่มีคนนิยมกันเข้ามากราบไหว้ขอพรและทำบุญแก้ชง และสำหรับผู้ที่เกิดในปีมะโรงขอบอกเลยว่า ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าควรมากราบไว้เทพบุ๋งเชียง คนเกิดปีมะเส็ง ก็ควรมากราบไว้เทพไท้อิม หรือ จันทราเทพ ในส่วนของคนที่เกิดปีมะแมนั้น ก็ควรมากราบไหว้เทพไท้เอี๊ยง หรือ สุริยะเทพ ปีจอ ก็ให้มาไว้เทพฮั้วกวงไต่ หรือเทพสามตา และคนเกิดปีระกาก็ควรมากราบไว้เทพอั่วท้อ จะเห็นได้ว่าคนเกิดในปีต่างๆ สามารถมากราบไว้ที่นี่ จะได้รับสิริมงคลครบอย่างตั้งใจแน่นอน
3. วัดนาจา (วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม)
หรือเรียกอีกอย่างว่า ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื่อ โดยรูปแบบของการสร้างจะเป็นวิหาร 4 ชั้น โดนถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติครบรอบ 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายในประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรม ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านศิลปะเป็นอย่างมาก อาทิ รูปปั้นมังกร ซึ่งมีจำนวนมากถึง 2,840 ตัว มากไปกว่านั้น ยังมีกระถางธูปศักดิ์สิทธิ์ เสาฟ้าดิน และที่สำคัญ ก็คือ สถานที่แห่งนี้ยังมีองค์ไท้ส่วยเอี้ย หรือ เทพคุ้มครองดวงชะตาประจำปีเกิดของเหล่ามวลมนุษย์ ครบทั้ง 60 องค์ ทำให้ผู้ที่เข้ามาภายในสถานที่แห่งนี้ สามารถที่เข้ามากราบไว้เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคล หรือแก้ชงก็ได้ นับว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ควรมาแก้ชงเป็นอย่างยิ่ง
Advertisements
4. วัดเล่งเน่ยยี่ 2 (วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์)
สร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 50 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เป็นสถานที่ ที่ให้เหล่าพุทธศาสนิกชนได้มีสถานที่ใช้ในการปฏิบัติธรรม และประกอบพิธีทางศาสนา และแน่นอนว่าภายในประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมไทยจีน ที่มีความสวยงามและผสานกันได้อย่างลงตัว และยังเป็นอีกหนึ่งในหลายๆ สถานที่ คนมีความนิยมในการมาแก้ชงของผู้ที่ชงในปีนั้นๆ เพราะเชื่อว่าเป็นสถานที่ ที่เทพเจ้าลงมาปกปักรักษาและคุ้มครอง หากคุณชงในปีนี้ ก็ควรหาเวลาเพื่อจะมาสถานที่แห่งนี้ให้ได้สักครั้งนะ
© รูปต้นฉบับ: novotelbangkokimpact
5. วัดโพวมิ้งปออึงยี่ (วัดโพธิ์แมนคุณาราม)
สถานที่ดังกล่าวเป็นวัดจีน ในพุทธศาสนานิกายมหายาน โดยอยู่ภายใต้สังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย โดยที่นี่มีความพิเศษอยู่หลายอย่าง อาทิ ด้านสถาปัตยกรรม ที่มีการผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน และทิเบต เข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งขอบอกเลยว่าในประเทศไทยนั้น รูปแบบดังกล่าวหาดูได้ยากมากในปัจจุบัน และยังมีสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่าง ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไปทำบุญ เสริมสิริมงคลและแก้ชงเป็นอย่างยิ่ง ก็คือ พระคัมภีร์ของวัชรยาน (ทิเบต) นิกายมนตรายาน ซึ่งถือว่าเป็นฉบับที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก เห็นไหมว่า นอกจากจะได้ความสิริมงคลกลับไปด้วยแล้วนั้น ยังสามารถรับชมความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมอีกด้วย
การทำการใดๆ ในชีวิต ล้วนแต่ต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งอยู่เสมอๆ แต่เพื่อความสบายใจ สถานที่ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น ก็คงจะเพียงพอทำให้ทุกคน มีที่พักพิงจิตใจ และสบายใจมากขึ้น เมื่อได้ไปทำการสักการะ ไหว้บูชา และแก้ชง เชื่อได้เลยว่าหากเรามีจิตใจที่ดี ทำแต่สิ่งดีๆ แล้วชีวิตจะต้องได้พบเจอกับสิ่งดีๆ เข้ามาอย่างแน่นอน
Cover Photo Credit : IG@aiwiii
Advertisements