คนสร้างไม่บ้า ก็อัจฉริยะ!! 7 อันดับอนุสาวรีย์ แปลกพิสดารจากทั่วโลก

รูปปั้น อนุสาวรีย์ และ อนุสรณ์สถาน หลายๆ แห่งรอบโลกถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการยกย่องเทิดทูนวีรกรรมของบุคคลในประวัติศาสตร์บางท่าน หรือสร้างเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในท้องที่นั้นๆ แต่ทุกคนรู้ไหมว่าบนโลกใบใหญ่ใบนี้ยังมีอนุสาวรีย์สุดแปลกมากมายถูกสร้างขึ้น เพื่อเหตุผลที่แปลกประหลาดไม่แพ้กัน ถ้าอยากรู้แล้วว่าอนุสาวรีย์แปลกๆ ที่ว่ามานั้นแปลกยังไง มีอะไรบ้าง ตาม UndubZapp ไปดูพร้อมๆ กันเลย

7. Carhenge รัฐเนแบรสกา สหรัฐอเมริกา

ถ้าฟากเกาะอังกฤษมีสโตนเฮนจ์ กลุ่มหินขนาดใหญ่ยักษ์ไม่ทราบที่มาตั้งเรียงกันเป็นวงกลม จนกลายเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางแล้วล่ะก็ ฟากรัฐเนแบรสกาก็มีคาร์เฮนจ์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1987 โดย Jim Reinders ศิลปินสุดติสท์และพวกพ้องของเขา Jim ได้นำรถเก่าๆ มาเรียงเป็นวงกลมในองศาและสัดส่วนเดียวกับกลุ่มก้อนหินสโตนเฮนจ์เด๊ะๆ เพื่อระลึกถึงพ่อผู้ล่วงลับของเขา จนกลายมาเป็นแลนด์มาร์กอนุสาวรีย์สุดแปลกพิศดารไปในที่สุด

6. Floralis Generica รัฐบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา

อนุสาวรีย์ดอกไม้ใหญ่ยักษ์ขนาด 105 ฟุต (≈ 32 เมตร) หนักถึง 18 ตัน จำลองมาจากดอกไม้จริงตามธรรมชาติ ทั้งยังถูกติดตั้งด้วยกลไกพิเศษ ทำให้ดอกไม้จะบานในทุกๆ วันตอนเช้าและจะหุบในตอนเย็นเสมอ เจ้าดอกไม้ยักษ์นี้ตั้งอยู่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในอาร์เจนตินา ถูกสร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวอาร์เจนตินานามว่า Edurado Catalano ซึ่งได้อุทิศอนุสาวรีย์ดอกไม้นี้ให้ประชาชนชาวบัวโนสไอเรสได้ชื่นชมความงามในทุกๆ วัน

5. The Giant Turd โปนตากรอสซา ประเทศบราซิล

อนุสาวรีย์รูปทรงแปลกประหลาดนี้แต่เดิมถูกสร้างเพื่อเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ประจำภูมิภาค ซึ่งก็คือ ต้นสน กับ ก้อนหิน ฟังดูก็น่าจะเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันไม่น่าจะเอามารวมกันรอด แล้วมันก็ออกมาเป็นตามภาพที่คุณเห็นนี่แหละ แปลกประหลาดสุดๆ จนโดนชาวเมืองแซวว่าเป็นอุนจิยักษ์ และเนื่องจากว่าชาวเมืองไม่ค่อยพิสมัยอนุสาวรีย์ก้อนๆ นี่สักเท่าไหร่ แถมมันยังเป็นแหล่งก่อดราม่าประจำเมือง ตอนนี้ก็เลยโดนปลดระวางไปแล้ว

4. Totem เลอเฟิน ประเทศเบลเยียม

อนุสาวรีย์แมลงปีกแข็งสีเขียวถูกเข็มใหญ่ยักษ์เสียบ มีระดับความสูงถึง 23 เมตรจากพื้น ตั้งอยู่บริเวณหน้าสนามสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองเลอเฟิน ประเทศเบลเยียม อนุสาวรีย์เข็มยักษ์นี้เป็นผลงานของศิลปินชาวเบลเยียม Jan Fabre จุดมุ่งหมายของอนุสาวรีย์นี้คือสร้างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสวยงามและระบบกลไกการทำงานที่คล้ายคลึงกันระหว่างแมลงกับนาฬิกา อ่านแล้วพอจะเข้าใจไหม? มันเป็นศิลปะน่ะ

3. The Traffic Light Tree ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

สัญญาณไฟจราจร เป็นอุปกรณ์สัญญาณไฟที่ปรากฏตามแยกถนนต่างๆ ซึ่งให้สัญญาณกับผู้ใช้ท้องถนน เพื่อควบคุมการจราจรบนท้องถนน ใครๆ ก็เข้าใจว่าไฟแดงหมายถึงให้หยุดรถ ไฟเหลืองหมายถึงเตรียมให้รถหยุด ไฟเขียวหมายถึงให้ขับรถผ่านไปได้ แต่ถ้าคุณขับรถผ่านวงเวียนใกล้ตลาด Billingsgate ในลอนดอน คุณจะอึ้งกิมกี่เลยทีเดียว Peter Vivantin สร้างอนุสาวรีย์นี้เลียนแบบต้นเพลนทรี ให้สัญญาณกับเมืองที่ไม่เคยหลับใหล

2. Hand of the Desert ทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี

หากคุณเดินทางจากเมืองอันโตฟากัสตา ประเทศชิลี ไป 75 กิโลเมตร จนถึงแถบทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี คุณจะพบกับทัศนียภาพของทะเลทรายสุดลูกหูลุกตา แทบไม่เห็นสิ่งก่อสร้างอื่นใด จะมีก็แต่อนุสาวรีย์มือใหญ่ยักษ์ซึ่งผุดขึ้นมาจากพื้นทราย มือยักษ์ที่ว่านี้ถูกสร้างโดยศิลปินชาวชิลีชื่อ Mario Irarrazabal ผู้หลงใหลในรูปทรงของมือมนุษย์ เขายังมีรูปปั้นมืออีกแห่งชื่อ Monument to the Drowned ในอุรุกวัยด้วยนะ

1. The Child Eater of Bern กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

Kindlifresser หรือรูปปั้นคนกินเด็ก ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1546 มีเรื่องเล่าว่ามีที่มาจากการที่พี่ชายของดยุค Berchtold อิจฉาหน้าที่การงานของน้องชาย เลยไปไล่จับเด็กในเมืองเบิร์นมากิน บ้างก็ว่าเป็นการสร้างขู่ชาวยิวให้กลัวเฉยๆ เพราะเจ้ายักษ์ซึ่งกำลังจับเด็กกินนี้ใส่หมวกแบบเดียวกับที่พวกยิวเคยถูกบังคับให้ใส่เพื่อแสดงตนว่าเป็นยิวด้วย ลงท้ายแล้ว จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่พบบันทึกว่ารูปปั้นน่ากลัวนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์อันใด