ขนหัวลุก!!…ย้อนความหลอนสิบกะโหลก 5 ซุปตาร์เจอผีตัวเป็นๆ!

1. ปราง กัญญ์ณรัณ – เสียงร่ำไห้ปลายเตียง

คนแรกเธอคือนักแสดงสาวสวย “ปราง กัญญ์ณรัณ” ช่วงวัยเด็กเจ้าตัวเล่าว่าไม่เคยเจอแต่ได้ยินมาเยอะมาก กระทั่งโตมา คิดว่าตัวเองเริ่มมีเซ้นต์แล้ว แต่เรื่องที่สาวปรางกลัวที่สุดคือเป็นการที่ได้ไปพักโรงแรมหนึ่ง เจ้าตัวนอนห้องเดียวกับคุณพ่อ ส่วนอีกห้องเป็นห้องคอนเนคที่สามารถเปิดประตูเชื่อมกันได้ จะเป็นพี่สาวและแฟน โรงแรมนี้มีสภาพใหม่กริบ!

กลางดึกที่สาวปรางผลอยหลับไป เธอลืมตาแล้วพบเห็นชายปริศนาเดินอยู่ในห้องที่ปลายเตียง ในมือชายผู้นั้นถือดอกไม้แล้วก็เปลี่ยนอริยาบทคือเขาค่อย ๆ ย่างก้าวไปยังประตู พร้อมกับเสียงร้องไห้กระซิก ๆ จากชายคนดังกล่าว ด้วยความที่สะลึมสะลือใจคิดว่าร่างที่เห็นคือคุณพ่อแต่ต้องตกใจที่ได้ยินเสียงร้องไห้จึงคิดว่า พ่อเป็นอะไรหรือเปล่า จึงตะโกนเรียก “พ่อ” แต่ปรากฏว่า มานึกขึ้นได้ว่าคุณพ่อนอนอยู่ข้าง ๆ นี่หน่า ก็เลยหันขวับไปข้าง ๆ เห็นคุณพ่อกำลังหลับอยู่ไม่ได้ลุกไปไหน

ตอนนั้นสาวปรางกลัวมาก…ถึงมากที่สุด ตัดสินใจหันไปมองทางประตูให้แน่ใจ แต่ก็ไม่พบใครแล้ว ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือการที่ต้องนอนที่นี่อีกคืน สุดท้ายก็กลัวว่าทุกคนจะกลัว จึงยอมเก็บงำไม่เล่าให้ใครฟัง แต่สิ่งที่น่าสะพรึงยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เพราะวันรุ่งขึ้นจู่ ๆ พี่สาวเล่าให้ปรางฟังว่าแฟนของพี่ถามว่า เมื่อคืนปรางทะเลาะกับแฟนหรือเปล่า เพราะได้ยินเสียงร้องไห้มาจากห้องที่ปรางนอน ซึ่งตอนนั้นยิ่งเพิ่มเลเวลความกลัวให้กับเจ้าตัวขึ้นไปอีกค่ะ

ภาพจาก : @ladiiprang

แหล่งที่มา : youtu.be

2. อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม – ใคร? ที่ข้างเตียง

สำหรับบักจ่อย “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ซุปตาร์หนุ่มชวนฝันผู้ไม่เชื่อเรื่องผีแต่ใช่ว่าไม่เคยประสบพบเจอกับเรื่องราวที่อนันดาเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้ คืนหนึ่งจากปากอนันดา เขาเล่าว่าในช่วงที่ถ่ายหนังเรื่อง ชัตเตอร์ฯ  มีช่วงนอนไม่ค่อยหลับเลยขอให้ทีมงานเปิดโรงแรมที่อยู่ละแวกเดียวกับกองถ่ายให้ ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก

สภาพเป็นโรงแรมเก่า ๆ อยู่ในซอยเปลี่ยว ทั้งโรงแรมมีอยู่สองคนคือคนต้อนรับกับแม่บ้าน คืนนั้นได้ห้องสวีท ตนได้พกไวน์ไปขวดดื่มให้พอง่วง หลับไปได้สักพักก็รู้สึกอึดอัด มันเหมือนฝันร้าย พอสะดุ้งตื่น ภายในห้องค่อนข้างใหญ่ มีแสงไฟอันน้อยนิด ห้องสลัว ๆ เรียกว่ามืดได้เลย สายตาก็มองหาจุดโฟกัสในห้อง จึงเลือกที่จะมองไปยังม่านเพราะพอจะมีแสงผ่านเข้ามาบ้าง จากนั้นก็มองเห็นมีเงาคนยืนอยู่ตรงม่าน แต่ตอนนั้นตนขอปล่อยผ่านเพราะต้องการนอน บวกกับไม่ได้เชื่อเรื่องผีสาง

แต่ไม่นานกลับรู้สึกอึดอัดขยับตัวยาก แม้เปลี่ยนมานอนตะแคงข้างก็ยังอึดอัดอยู่ หลับไปแล้วสะดุ้งตื่นอีกครั้ง ผงะเลยมองไปเห็นที่ข้างเตียงเป็นลักษณะร่าง ๆ หนึ่งซึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ ห่างจากตนไม่มาก ร่างนั้นก้มหัวมีลักษณะตัวสั่นเทา เห็นแบบนั้นเจ้าตัวยอมรับว่าช็อกไปเลย เขาช็อกชนิดที่ขยับตัวไม่ได้เลย เหมือนโดนตรึงอยู่กับที่ แม้พยายามยื่นมือไปเปิดไฟข้างเตียงแต่ไม่เป็นผล ร่างนั้นก็นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานพอสมควร กระทั่งเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น เหมือนหลุดจากภวังค์ จึงเอื้อมมือไปเปิดสวิตช์ พอเปิดมาก็เห็นอะไรแล้ว

ภาพจาก : @ananda_everingham

แหล่งที่มา : hamburger

3. แคทรียา อิงลิช – โรงเรียนประจำ

น่ากลัวอีกเรื่อง มาต่อกันที่ประสบการณ์สุดหลอกหลอนของตัวแม่เอวพริ้วที่พบเจอเรื่องสุดหลอนมามากมายหลายครั้ง “แคทรียา อิงลิช” ในเรื่องของรั้วโรงเรียนสาวแคทเล่าว่า ตอนเด็กอยู่โรงเรียนประจำซึ่งนับว่ามีหอพักหลายตึก สร้างบนพื้นที่ของสุสานเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ห้องพักของแคทมีนักเรียนนอนทั้งหมด 8 เตียง เตียงที่เธอนอนอยู่ตรงกลางห้อง คืนหนึ่งเวลาประมาณตี 2 เจ้าตัวสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเด็กหลายคนหัวเราะเหมือนกำลังเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่น ตอนนั้นก็แปลกใจว่าใครมาวิ่งเล่นกลางดึก พอหันไปมองเพื่อนก็เห็นว่าทุกคนหลับอยู่ จึงลุกเดินตามหาเสียงนั่นแต่ก็ไม่พบใคร สักพักได้ยินเป็นเสียงผู้หญิงพูดเสียงดังขึ้นมาว่า “เร็ว ๆ เอาพวกเด็ก ๆ ไปซ่อน…เร็ว” แล้วก็ได้ยินเสียงกรี๊ดของเด็ก ๆ ดังไปทั่ว

เสียงนั้นดังและชัดมากเหมือนอยู่ใกล้ตัว ตอนนั้นจึงรีบกระโดดขึ้นเตียงคลุมโปง พอเช้าก๋ถามเพื่อนแต่ว่าไม่มีใครได้ยินอะไรเลย หลังจากนั้น 2-3 วัน เพื่อนห้องถัดไปที่นอนเตียงตำแหน่งเดียวกับแคทมาเล่าให้ฟังว่าได้ยินเสียงเด็กเล่นตอนกลางคืน เหมือนที่สาวแคทได้ยินทุกอย่าง อาจเป็นดวงวิญญาณของเด็กที่เสียชีวิตจากสงคราม และถูกนำมาฝังที่สุสาน วิญญาณยังคงวนเวียนอยู่รอบหอพักก็เป็นได้

ภาพจาก : @katreeya_e

แหล่งที่มา : praew

4. เขื่อน ภัทรดนัย – เสียงร้องขอความช่วยเหลือ

“เขื่อน ภัทรดนัย” กับประสบการณ์สุดหลอนยังโรงแรมแห่งหนึ่งทางภาคใต้ เรื่องราวเกิดขึ้นสมัยที่อยู่ในวง k-otic ซึ่งนานมากแล้ว ทั้งวงจะมี เขื่อน ป๊อปปี้ จองเบ เคนตะ และโทโมะ ก่อนที่จะเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตทางบ้านของเจ้าตัวเป็นห่วง และได้พูดถึงเหตุเคยมีผู้เสียชีวิตเยอะในภาคใต้ ตอนนั้นที่บ้านแนะนำให้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนเข้านอน

เล่นคอนเสิร์ตจบกลับมาถึงโรงแรมก็ต่างแยกย้ายกันอาบน้ำ ตอนนั้นเป็นเวลาตี 3  สักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ของโรงแรมดังขึ้น เคนตะเป็นคนไปรับสายได้ยินเป็นเสียงงึมงำฟังไม่ได้ศัพท์ พอวางสายไป ก็มีสายโทรเข้ามาอีกในช่วงเกือบตี 4  คราวนี้เขื่อนเป็นคนไปรับสายเอง ปรากฏว่าได้ยินแบบเดียวกับที่เคนตะบอก

เหมือนเสียงคนบ่นจากในลำคอแต่จับใจความไม่ได้ เขื่อนจึงวางสายไป แล้วปรึกษากันว่าจะดึงสายโทรศัพท์ออก ไม่มีใครสามารถโทรเข้ามาได้แน่นอน ก่อนนอนก็ได้พูดลอย ๆ ว่า “โทรมาสองครั้งแล้วถ้าจะเอาอะไรจริง ๆ ก็ให้มาอีกครั้งนึงแล้วกัน” พูดยังไม่ทันจบ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาได้ยังไงไม่รู้ ตอนนั้นมองหน้ากันพอจะรู้คำตอบแล้วว่าไม่ใช่สายจากคนเป็นแน่ ก็พากันย้ายไปนอนที่ห้องผู้จัดการกันทั้งหมด

พอกลับมากรุงเทพทีมงานก็ได้สืบรู้ว่า โรงแรมที่ไปพักเคยมีเหตุถูกก่อการร้ายมีผู้เสียชีวิตมากมาย พอมาปะติดปะต่อดู คาดว่าอาจเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ต้องการมาสื่อขอความช่วยเหลือก็เป็นได้

ภาพจาก : @koendanai

แหล่งที่มา : youtu.be

5. เจ เจตริน – วิญญาณเพื่อนหลอกหลอน

ขอปิดท้ายที่เรื่องเล่าสุดขนพองสยองเกล้าของ คุณพ่อแรปเปอร์สุดฮอต เรื่องนี้อาจเคยได้ฟังมาบ้างแล้ว พี่เจนั้นเคยเล่าไว้ในรายการ คนอวดผี เมื่อปี 2554 เรื่องนี้เกิดกับเจ้าตัวโดยตรง เรื่องของเพื่อนที่เล่นเจสกีด้วยกัน ชื่อว่าพี่ “เจมส์” ซึ่งมีอาชีพไกด์ทัวร์ แต่เสียชีวิตจากเหตุถูกฆาตกรรม เพื่อนคนนี้เป็นคนนิสัยดีและอารมณ์ดีมาก แล้วก็เป็นคนชอบแต่งเจสกีมาก อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนคนนี้ขอซื้อเจสกีลำแต่งต่อจากพี่เจ ก่อนจะบินไปไกด์ทัวร์ที่ต่างประเทศ แต่ยังไม่ทันได้ไป มาทราบข่าวการเสียชีวิตหลังจากวันนั้น

ด้วยความที่เพื่อนคนนี้เป็นอิสลาม ช่วงค่ำจึงต้องมีการฝังศพเลย เรื่องเกิดขึ้นตอนไปร่วมงานศพตอนนั้นกำลังอาบน้ำศพ เพื่อนทุกคนก็มารวมกันมุงดูเห็นเป็นผู้ตายกำลังฉีกยิ้ม ซึ่งพิจารณาแล้วไม่ใช่อาการเส้นกระตุกแต่อย่างใด หลังจากนั้นพี่เจและเพื่อนอีกหนึ่งคนได้กลับไปยังบึง ที่เอาไว้ซ้อมเจสกี

ซึ่งที่นี่จะมีบ้านริมบึงอยู่เมื่อซ้อมเสร็จทุ่มสองทุ่ม พี่เจกับเพื่อนก็ได้ทานข้าวกัน สักพักเด็กช่างซึ่งเป็นลูกน้องของพี่เจจู่ ๆ ก็เปิดประตูเข้ามา มีสีหน้าหวาดกลัว ทำทีกระซิบเรียกให้ออกไปดูเอง จากนั้นก็เปิดประตูไปดู ทั้งสามคนเห็นเหมือนกันหมด คือเห็นเพื่อนที่เสียไปแล้ว นั่งห่างออกไปจากริมบึง 4-5 เมตร ตรงปลายท่าน้ำที่เอาไว้จอดเจส เขาอยู่ในท่านั่งหันหลังพอรู้ว่ามีพี่เจและเพื่อนพากันออกมามอง เขาก็หันหน้ามายิ้มให้

ถึงแม้จะกลัวมากแค่ไหน แต่ตัดสินเปิดประตูแล้วเดินจับมือกันสามคนค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ ระหว่างเดินยังเห็นว่ายิ้มให้อยู่ตลอด พอเข้าใกล้ไม่ทันถึงตัว สุดท้ายร่างนั้นก็สลายไปต่อหน้าต่อตา พี่เจ เพื่อน และเด็กช่างจึงได้ยกมือไหว้บอกลา เข้าใจว่าเพื่อนรุ่นพี่คงอยากมาลา

ภาพจาก : @jjetrin

แหล่งที่มา : youtu.be

• รู้แล้วทึ่ง! 5 เรื่องสุดว้าว “มิว ศุภศิษฏ์” หนุ่มตี๋ที่มีดีมากกว่าหน้าตา

      แจ้งเกิดไปเลยสิคะ! 6 นักแสดงโด่งดังเพราะเล่นหนัง-ละครแนวผี

      ท้องแล้วไง แซ่บได้แล้วกัน! มัดรวมซุปตาร์ อุ้มท้องอวดความต๊าซ