ประเทศเรามี!! 6 ความ Thailand Only ที่พี่ไทยยืนหนึ่ง ชาติอื่นยืนงง

1. ฝนตกรถติด…แถว BTS โคตรยาววว

ข้อแรกนี้ก็คืออาจจะไม่ได้อะเมซิ่งร้องว้าว แต่ก็พอให้ได้กัดฟันยิ้มมุมปาก เพราะบอกเลยว่าใครไม่ได้ไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นไม่มีทางเข้าใจ ว่า 6 โมงเย็นวันศุกร์สิ้นเดือนที่ฝนตกและมีน้ำท่วมขังนั้น บน BTS มันคือวันโลกาวินาศอย่างแท้ทรู คุณจะเห็นแถวคนรอขึ้น BTS ยาวตั้งแต่ประตูขบวนลงไปจนถึงถนน อุ่นหนาฝาคั่งยิ่งกว่าเทศกาลเทกระจาด นาทีนั้นบอกเลยว่าเป็นลมก็ไม่ล้ม เพราะคุณได้ถูกอัดด้วยคลื่นมนุษย์จากทุกทิศทุกทางแล้วจ้า กว่าจะรอดชีวิตกลับถึงบ้านได้นั้น บอกได้คำเดียวว่า “นี่มันสงครามชัดๆ”

2. ฝนตกแล้วไงมีสวนน้ำใจกลางกรุงฯ แล้วกัน

มาถึงอีกหนึ่งความอะเมซิ่งจากผลพวงของฝนตก ที่บอกเลยว่าไม่ต้องตกมากแค่ตกโครม ๆ สัก 1 ชั่วโมงติด ๆ กัน เราก็จะได้ “สวนน้ำใจกลางกรุง” ที่ถ้าใครบอกว่ากรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ขอให้มาดูสวนน้ำใจกลางกรุง(เทพฯ) ที่สร้างเสร็จในหนึ่งชั่วโมงเป็นตัวอย่างค่ะ เป็นความอะเมซิ่งที่คุณจะได้พบตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้าน หลังจากฝนหยุดตกใหม่ ๆ ซึ่งร้อยทั้งร้อยสามารถสร้างความอะเมซิ่งให้เกิดขึ้นในหัวแก่ผู้ที่พบเห็นได้ เพราะจะมีแต่คำว่า อิหยังวะ? ในหัวของคนกรุงเทพฯ เราไม่อยากจินตนาการเลยว่าถ้าฝนตกหนัก ๆ ทั้งวันทั้งคืน “สวนน้ำกลางกรุงจะใหญ่ขนาดไหนกัน”

3. สติ๊กเกอร์รถคันนี้สีเหลืองแต่จริง ๆ แล้วสี…?

อีกหนึ่งความอิหยังวะที่อยู่คู่สังคมไทยมา (ค่อนข้าง) นาน กับความเชื่อเรื่องสีรถแบบขัดใจแม่ คือแม่ไปดูดวงเรื่องสีถูกโฉลกมาแต่ลูกอยากขับอีกสี ก็เลยเกิดเป็นนวัตกรรมหลอกพระภูมิเจ้าที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยติ๊กเกอร์ “รถคันนี้สี…” ที่วิธีการง่ายมาก เพียงแค่หาสติ๊กเกอร์สีที่ถูกโฉลกมาแปะไว้ท้ายรถเท่านั้นคุณก็จะได้รับความคุ้มครองและการอำนวยอวยพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทันที แม้ว่าสติ๊กเกอร์รถคันนี้สี “เขียว” ที่ว่าจะติดอยู่บนท้ายรถสี “ขาว” ก็ตาม…(ได้หรา…?) นี่ยังไม่รวมถึงการหลอกแบบอินเซปชั่น ที่ตัวอักษรบนสติ๊กเกอร์ใช้สี “เขียว” แต่เขียนว่ารถคันนี้สี “แดง” แต่ติดอยู่บนท้ายรถสี “ขาว”….เจ้าที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกได้คำว่าเดียวว่า งงในงงเจ้าค่ะเอ๊ย

4. ดราม่าคืออาหารหลักโลกโซเชียล

ของหวานของคนไทยคือขนมชั้นแต่ของหวานของชาวเน็ตนั้นคือ ดราม่า ซึ่งหลายคนอาจจะบอกว่าดราม่าของที่อื่นก็มีไม่ได้มีแค่ที่ไทย แต่ดราม่าของไทยนั้นอายุสั้นกว่ามากจ้า เรียกได้ว่าเน้นมันและเน้นปริมาณ เหมือนเก็บสะสมแต้มว่าปีนี้ต้องมีดราม่าให้ครบร้อยไม่งั้นตก KPI เราจึงได้เห็นดราม่าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสื่อโซเชียลของไทยเยอะมากก ชนิดที่ว่าห้ามกะพริบตาไม่งั้นดราม่าจะจบไปแบบไม่รู้ตัว แถมเวลาดราม่าแต่ละทีคือจัดหนักใส่เต็ม เหมือนจะไม่มีเรื่องอื่นให้ดราม่าอีกแล้ว แต่พอจบก็สงบแบบเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น…ยอมใจจริง ๆ จ้า

5. โหนทุกกระแส นี่แหละสไตล์เรา

ทุกกระแสฟีเวอร์ขอให้ได้ตามเถอะ! ยกตัวอย่างกระแสยอดฮิตในอดีตอย่าง ตุ๊กตาลูกเทพ เรื่องนี้คือต้องยอมใจจริง ๆ จ้า เพราะว่าไม่ใช่แค่อุ้มเดินไปไหนมาไหนเท่านั้น แต่อุ้มขึ้นเครื่องบิน พาไปนั่งทานข้าว เรียกได้ว่ามีอยู่ในทุกกิจกรรมกันเลยทีเดียว ซึ่งในตอนนั้นที่กระแสแรงมาก ๆ ราคาของลูกเทพบางตัวแพงใช่เล่น ซึ่งพอตัดภาพมาที่ปัจจุบันเมื่อมันเลิกฮิต ตุ๊กตาน้อยๆ ตัวนี้ก็นอนเหงาๆ อยู่ในชั้นเก็บของ (และกลายเป็นที่มาของตุ๊กตา Annabelle ไปในที่สุด…ไม่ใช่ล่ะ 555+)

6. ช่างเป็นประเทศที่รักต้นไม้ (ศักดิ์สิทธิ์) ที่แท้ทรู

ถ้ามีลูกเทพแล้วล่ะก็จะขาดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีมาช้านานอย่าง ต้นไม้ ไปไม่ได้เลย เพราะคงไม่มีที่ไหนในโลกที่ต้นไม้จะถูกประดับประดาไปด้วยผ้าสีและมีจุดขาวเป็นหย่อม ๆ (หรือขาวโพลนทั้งต้น) แถวลำต้นด้วยแป้งที่ถูกใช้ถูหาเลข ความอะเมซิ่งก็คือไม่ใช่ต้นไม้ทุกต้นจะได้สิทธิ์แบบนี้แต่ต้องเป็นต้นไม้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือตัวต้นไม้เองต้องมีสตอรี่ที่เอื้อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ว่าจะได้ฐานะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์กันได้ง่าย ๆ นาจา

กดติดตาม ADD Line @UndubZapp