เปิด MemoryCard 10 วิวัฒนาการ “การเล่นเกม” เหล่าเกมเมอร์ในแต่ละยุค

1. ยุคเกม Famicom ,Family

ยังจำได้ไหมเกมที่ต้องเสียบตลับ 1 ตลับมี 100 เกม ซึ่งจริงๆ มีถึงแค่ 20 เกมก็บุญแล้ว ระบบ Joystick ที่มีเพียงปุ่ม A และ B ภาพกราฟิกแบบ 8-bit ซึ่งตอนนั้นคิดว่าภาพสวยมากแล้ว อย่างเกม Mario, Tetris ซึ่งตัวเกมจะยังไม่ซับซ้อนมาก แต่ต้องใช้ความพยายามอดทนสูง โดยเฉพาะเกมแนวภาษา RPG นี่หาจุดเซฟยากมาก

2. ยุคเกมบอยคัลเลอร์ Pokemon ครองเมือง

ยุคนี้ถือว่าเป็นยุคที่สนุกมากอีกยุค โดยเฉพาะเกมซีรีส์ Pokemon ที่เรียกได้ว่าเหล่าเทรนเนอร์ต่างศึกษาข้อมูลโปเกมอนกันอย่างจริงจัง สะสมโปเกมอน แลกตัวโปเกมอน จับโปเกมอนมาสู้ท้าประลอง หรือเกม Zelda, Mega Man, Super Mario Advance สาวก Game Boy ต้องเคยผ่านมาทั้งนั้น

3. ยุคทองคอนโซล PlayStation 1, PlayStation 2

นับว่าเป็นยุคทองของเครื่องเกม Console ถึงการมาของเครื่อง PlayStation 1 และเป็นยุคบุกเบิกของธุรกิจร้านเกม ไม่ว่าจะเป็นเกมยอดฮิตอมตะอย่าง Winning ที่เล่นกันตั้งแต่ดึกยันเช้า เช้ายันดึก หรือเกมภาษา RPG ก็รุ่งเรืองสุดๆ โดยเฉพาะซีรีส์ Final Fantasy เวลาเล่นไม่ผ่านก็ต้องหาซื้อบทสรุปหรือกดสูตร Action Replay อัพเลเวลเต็ม ยิ่งบ้านไหนมีเครื่อง PS2 ก็จะกลายเป็นศูนย์รวมของกลุ่มเพื่อนๆ โดยทันที

4. ยุค PSP, DS Nintendo เครื่องเกมพกพาสะดวก

ยุคที่นำเครื่อง PS2 มาย่อส่วนจนกลายเป็นเครื่องเกมระบบพกพาอย่างเจ้า PSP ที่นอกจากจะเล่นเกมได้แบบเดียวกับ PS2 แล้วสามารถใช้ฟังเพลง ถ่ายรูปได้ด้วยนะ ส่วนทางด้าน Nitendo เองก็ไม่น้อยหน้าส่งเครื่องเกม Nintendo DS เกมบอยพกพาทรงคลาสสิกมี 2 หน้าจอ ที่ขนเกมเจ๋งๆ มาเพียบทั้ง Dragon Quest, New Super Mario Bros

5. ยุคร้านเกม หัดโดดเรียนครั้งแรกก็ Counter Strike นี่แหละ

ตอนเด็กๆ ใครเคยโดดเรียนเข้าร้านเกมไปเล่น Counter Strike คงคุ้นเคยกันดี ในยุคที่ระบบ LAN ในร้านเกมกำลังมาแรงส์ ที่เราสามารถเล่นเกมกับเพื่อนๆ ในร้านเกมเดียวกันได้ จะตะโกนด่าเพื่อน จะหัวเราะเสียงดังโวยวายก็ทำได้เลย

6. ยุคเกมออนไลน์ และอินเตอร์เน็ตรายเดือน

เป็นยุคที่เครื่องคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตเริ่มทั่วถึงเกือบทุกบ้าน จนเกิดเป็นยุคทองของเกมออนไลน์โดยเฉพาะ Ragnarok ซึ่งใครจะคิดว่าเราสามารถเล่นเกมอยู่บ้าน ไปพร้อมๆ กับคนนับล้านทั่วประเทศ สามารถแชทคุยกับคนอื่นได้แบบสดๆ เรียกได้ว่าติดงอมแงมถึงขั้นค่ายเกมออกกฏเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามเล่นหลัง 4 ทุ่มเลยทีเดียว

7. ยุคตีดอท Monster Kill!!

มาถึงยุคที่เกมออนไลน์ MMORPG ใช้เวลาการเล่นนานเกินไป การมาของเกมแนว MOBA อย่าง DotA ก็เริ่มตอบโจทย์เกมเมอร์มากขึ้น เพราะใช้เวลาเล่น 40-50 นาทีก็จบเกมนึงล่ะ โดยเป็นเกมที่ต้องใช้ความสามารถในเรื่องระบบทีม การวางแผนรบ แถมยังเอื้อให้มีการแข่งขันถากถางทีมฝ่ายตรงข้ามได้ จึงเกิดกลายเป็นภาษาศัพท์เกมมากมายทั้งเด็กเกรียน, พวก Noob, ยิ่ง DotA ในยุคนั้นยังพิมพ์ภาษาไทยไม่ได้ ภาษา Karaoke จึงคล่องเชียว

8. ยุคคอนโซล 3 ยักษ์ใหญ่ PlayStation 3, Xbox360, Wii

นับเป็นยุคที่เกม Console พัฒนาอย่างก้าวกระโดดไปอีกขั้นอย่าง PlayStation 3, Xbox360 ที่ภาพสวยสมจริง จนถ้าลองย้อนไปสมัยเกม Famicom แทบจะไม่เชื่อสายตาว่าเกมจะมาถึงจุดนี้กันแล้ว ยิ่งโดยเฉพาะเครื่องเกม Wii ที่เป็นนวัตกรรมสุดอเมซิ่ง ที่ผู้เล่นจะได้ออกท่าทางขยับร่างกายจริงๆ ให้สัมพันธ์กับตัวเกมได้

9. ยุคเกมมือถือ สนุกทุกที่ทุกเวลา

มาถึงยุคที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันล่ะ อันเนื่องจากเครื่องโทรศัพท์ Smart phone ที่ล้ำสมัยเข้าไปทุกวัน จากแต่ก่อนเล่นแค่เกมงู เกม Sudoku ก็หรูล่ะ จึงทำให้เครื่องเล่นเกมในยุคนี้เปลี่ยนจากเครื่องคอมพิวเตอร์  กลายเป็น Smart Phone ที่ผสมกับระบบของ Social Network ในการสื่อสาร ที่มอบความบันเทิงได้ทุกที่ทุกเวลา

10. ยุค Global เล่นทั่วโลก

ยุคที่เกมเมอร์สามารถเลือกซื้อเกมผ่านระบบออนไลน์ได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องไปร้านขายแผ่นเกมหรือสะพานเหล็กให้เสียเวลา โดยระบบที่นิยมมากที่สุดคือ Stream ที่มีเกมให้เลือกหลากหลายจากทั่วโลก ทั้งออฟไลน์ และแบบออนไลน์กับคนทั่วโลก

จริงๆ การวิวัฒนาการของวงการเกมยังมีรายละเอียดปลีกย่อยหลายช่วงเวลาอีกมากมาย นี่ยังไม่นับถึงเครื่อง PS4 เลยนะเนี่ย โดยข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นเพียงความทรงจำเล็กๆ เกี่ยวกับประสบการณ์การเล่นเกมของทีมงานเท่านั้น หากเกมเมอร์ท่านไหนมีประสบการณ์เกี่ยวกับเกมในมุมมองอื่นๆ ก็สามารถร่วมแชร์กันได้เลยนะคะ