10 เรื่องโกหก ขี้จุ๊ลวงโลกที่สุดในประวัติศาสตร์ สุดท้ายไม่พ้นถูกจับได้

1 เมษา วันเอพริลฟูลส์ (April Fools day) หรือวันเมษาหน้าโง่  เชื่อว่าในวันนั้น หน้าฟีดของใครหลายคนคงได้เจอกับเรื่องโกหกกันบ้างแล้ว วันเอพริลฟูลส์เดย์นี้ คนไทยรับมาจากชาติตะวันตกที่วันนี้ทั้งวันอนุญาตให้พูดโกหกกันได้โดยไม่ถือโทษกัน แต่วันรุ่งขึ้นต้องมาเฉลยว่าที่พูดนั้นเป็นเรื่องโกหก เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ วันนี้อันดับแซ่บ ขอรวบรวมเอา 10 เรื่องโกหก ขี้จุ๊เบ่เบ๊ช็อคโลกมาให้ชมกัน จะมีเรื่องขี้หกอะไรบ้างที่ฟังแล้วต้องเหงิบแทบหงายหลัง  มาดูกันค่ะ

อ่ะๆ ช้าก่อนค่ะ มารู้จักกับวันเอพริลฟูลส์เดย์กันหน่อยค่ะ วันที่ 1 เมษาหรือที่เรียกวันเมษาหน้าโง่นี้ เริ่มขึ้นครั้งแรกที่ฝรั่งเศส ศตวรรษที่16  เมื่อพระสันตปาปา ประมุขแห่งคริสต์จักร ประกาศให้ชาวคริสต์ทั่วโลกหันมาฉลองวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคม แทนวันที่  1 เมษายน  แต่เนื่องจากสมัยก่อน ยังไม่มีทวิตเตอร์ เฟซบุคหรือไลน์แชท ที่จะแชร์ข่าวการเปลี่ยนแปลงวันฉลองขึ้นปีใหม่ให้คนฝรั่งเศสที่อยู่ห่างไกล (ตกสำรวจ) ได้ทราบกัน ชาวฝรั่งเศสกลุ่มนี้จึงยัง Happy new year กันในวันที่ 1 เมษายนเหมือนเดิม เรื่องราวนี้เลยทำให้ชาวฝรั่งเศสที่อัปเดตข่าวสารได้เร็วกว่า มองเป็นเรื่องตลกขบขันและเปรียบเปรยว่า เป็นพวกล้าหลัง ตกยุค โง่เขลา อะไรทำนองนั้น ก็เลยกลั่นแกล้งแต่งเรื่องหลอกให้หลงเชื่อกันเป็นที่สนุกสนานกันในวันนั้น จากนั้นมา วันที่ 1 เมษายนทุกปีจึงกลายเป็นวันที่คนจะแต่งเรื่องหลอกกัน แล้วมาเฉลยในวันรุ่งขึ้น แต่จะมาหลอกแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะคะ ต้องหลอกอย่างมีจรรยาบรรณค่ะ ห้ามหลอกจนต้องเดือดร้อน เลือดตกยางออก และฝ่ายที่ถูกหลอกก็จะต้องไม่ถือโทษโกรธเคืองกัน เพราะถือว่าเป็นการหยอกล้อกันค่ะ

เอาล่ะค่ะ มาดูกันว่า 10 เรื่องโกหกช็อคโลก มีอะไรกันบ้าง

 

10.ม้าโทรจัน อุบายม้าไม้ตีเมืองทรอย

กลศึกสุดแนบเนียนในสงครามเมืองทรอยทีทำให้ชาวเมืองทรอยต้องชอกช้ำเพราะกลศึก ถูกเล่าขานเป็นตำนานการสู้รบระหว่าง ชาวกรีกและชาวเมืองทรอย ที่ยืดเยื้อมานานถึง 10 ก็ไม่มีฝ่ายใดเพลี้ยงพล้ำ จนกระทั่งนายทหารที่ชื่อ โอดิสเซียส ออกอุบายสร้างม้าไม้ยักษ์ขึ้นมาแล้วให้ทหารชาวกรีกลากไปวางไว้หน้ากำแพงเมืองทรอย แล้วให้ทหารถอยออกไป ฝั่งชาวเมืองทรอยที่ยืนส่องอยู่บนกำแพงสูงเห็นทีท่าของทหารกรีกแบบนี้ ก็เลยเข้าใจว่าทหารกรีกส่งม้าไม้มาเป็นบรรณาการเพื่อบูชาเทพเจ้า จึงเปิดประตูลากม้าไม้เข้าไปในเมือง จัดงานฉลองชัยชนะ ตกดึกทหารกรีกจำนวนมากที่หลบซ่อนอยู่ในม้าไม้ได้ลอบออกมาปล้นบ้านเผาเมืองจนราบเป็นหน้ากลอง

ม้าโทรจัน อุบายม้าไม้ตีเมืองทรอย

 

9.คดีปลอมผลงานภาพวาดโยฮันส์ เวร์เมร์

ฮันฟาน เมียเกอเร็น ศิลปินชาวดัดช์ ใช้ความสามารถของตัวเองสร้างเรื่องโกหกสะเทือนวงการศิลปินครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ด้วยการลงมือปลอมแปลงผลงานภาพวาดชุดพระคัมภีร์ไบเบิล (The Disciples at Emmaus) ของจิตรกรชาวดัตช์ โยฮันส์ เวร์เมร์ ในยุคศตวรรษที่ 17 แต่ก็ไม่พ้นสายตาอันเฉียบคมของเหล่านักวิจารณ์และผู้เชียวชาญด้านศิลปะที่จับไต๋และเปิดโปงเขาได้ว่า เขาปลอมแปลงผลงานของโยฮัน เวร์เมร์ แม้ว่า ฮันฟาน เมียเกอเร็นจะพยายามปลอมแปลงได้อย่างแนบเนียนที่สุด ทั้งรอยแตกต่างๆ การเลียนแบบภาพให้ดูเก่าแก่เท่ากับภาพต้นฉบับที่มีอายุเก่าแก่หลายศตวรรษ เพื่อขาย แต่ก็ไม่อาจหนีพ้นความจริงได้

ฮันฟาน เมียเกอเร็น ศิลปินชาวดัดช์ ในห้องพิจารณาคดี

Cr.eastcoaststories.com

 

8.Ponzi Scheme แชร์ลูกโซ่สะท้านโลก

หากคดีแชร์แม่ชม้อยคือคดีฉ้อโกงที่โด่งดังที่สุดในของไทยแล้ว คดีแชร์ Ponzi Scheme คือคดีฉ้อโกงที่ดังระบือโลกไม่แพ้กันอีกคดีหนึ่ง เพราะผู้ต้องหาในคดีนี้คือ เบอร์นาร์ด แมดอฟฟ์ อดีตประธานตลาดหุ้นแนสเดคซะเอง ที่สร้างมูลค่าความเสียหายให้กับนักลงทุนไปอย่างมหาศาล ด้วยจำนวนเงินที่สูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยเบอร์นาร์ด แมดอฟฟ์ สารภาพว่า เขาได้ฉ้อโกงประชาชน ซึ่งประกอบไปด้วยสถาบันการเงิน มูลนิธิ มหาเศรษฐี บุคคลมีชื่อเสียง นักการเมือง แม้แต่เพื่อนสนิทของเขาเอง โดยโน้มน้าวให้เหยื่อมาลงทุน ซึ่งมีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ แลกกับผลตอบแทนจากการลงทุนในอัตราสูงๆ หากสามารถหาลูกค้า (ดาวน์ไลน์) มาลงทุนต่อเนื่องได้เรื่อยๆ

เบอร์นาร์ด แมดอฟฟ์

Cr. abcnews.go.com

 

7.แอนนา แอนเดอร์สัน เจ้าหญิงกำมะลอแห่งราชวงศ์โรมานอฟ

การล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟแห่งรัสเซีย จบลงอย่างแสนเศร้าก่อนการก่อตั้งสหภาพโซเวียต เมื่อพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 และสมาชิกเชื้อพระวงศ์ทั้งหมด ถูกจองจำก่อนจะถูกปลงพระชนม์ด้วยการยิงเป้า แต่หลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ กลับพบว่า ไม่พบที่ฝังพระศพ เจ้าหญิงอนาสตาเซีย เหมือนกับเชื้อพระวงส์คนอื่นๆ ทำให้เกิดข่าวลือว่า เจ้าหญิงพระองค์นี้อาจจะรอดชีวิตจากราชภัยในครั้งนี้ไปได้ หลังข่าวลือนี้แพร่ออกมา ก็มีการพบหญิงที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหญิงอนาสตาเซียขึ้นมากมาย แต่ที่เป็นเรื่องราวใหญ่โตมากที่สุด คือ หญิงสาวที่ชื่อว่า แอนนา แอนเดอร์สัน ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหญิงอนาสตาเซีย เรื่องราวลุกลามใหญ่โตจนถึงกับต้องมีการตรวจยีนส์เพื่อหาข้อพิสูจน์ความเกี่ยวพันกับราชวงศ์โรมานอฟ แต่แล้วผลทดสอบก็ออกมาว่า แอนนา แอนเดอร์สัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับราชวงศ์โรมานอฟ

เจ้าหญิงอนาสตาเซีย(ซ้าย) แอนนา แอนเดอร์สัน (ขวา)

 

6.ข่าวลือแผนลอบปลงพระชนม์ พระเจ้าชาร์ลที่ 2

ราชวงศ์อังกฤษอันยิ่งใหญ่ต้องสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ ในระหว่าง ค.ศ. 1678-1681 เมื่อมีข่าวลือออกมาจากปากของ ไททัส โอตส์ บาทหลวงชาวอังกฤษนิกายโรมันคาทอลิก ว่า มีการคบสมคิดในหมู่ผู้นับถือนิกายโรมันคาทอลิกวางแผนลอบปลงพระชนม์พระเจ้าชาร์ลที่2 กษัตริย์อังกฤษในเวลานั้น หลังข่าวลือหลุดออกมา ทำให้มีผู้ที่ถูกจับกุมและถูกประหารชีวิตอย่างน้อย 15 คน หลังการสืบสวนอย่างหนัก จึงพิสูจน์ได้ว่า โอตส์ สร้างเรื่องเท็จขึ้น ทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจต่อนิกายโรมันคาทอลิกไปทั่วอังกฤษในเวลานั้น

บาทหลวง ไททัส โอตส์ (ซ้าย) พระเจ้าชาร์ล ที่ 2 (ขวา)

Cr. warwick.ac.uk

Advertisements

 

5.โครงกระดูกแห่งพิลท์ดาวน์

ชาร์ลส์ ดอว์สัน นักโบราณคดีได้สร้างเรื่องลวงโลกขึ้นมาหวังต่อยอดทฤษฏีของชาลส์ ดาร์วิน นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ ผู้ทำลายความเชื่อเดิมๆ ของที่มาของสิ่งมีชีวิต และเสนอทฤษฏีที่เป็นรากฐานทฤษฏีวิวัฒนาการสมัยใหม่ ที่ว่ามนุษย์ไม่ได้วิวัฒนาการมาจากลิง แต่มนุษย์และลิงเคยมีบรรพบุรุษร่วมกันมาก่อน เป็นแรงบันดาลใจให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ๆ ต้องการหาหลักฐานการเชื่อมโยงทฤษฏีนี้ให้ได้ ดอว์สันอ้างว่าได้ค้นพบเศษกะโหลกมนุษย์คล้ายมนุษย์และ กระดูกขากรรไกรคล้ายลิงไม่มีหาง ในหลุมกรวดแห่งหนึ่งในเมืองพิลท์ดาวน์ ประเทศอังกฤษ แต่แล้วก็เป็นเพียงเรื่องหลอกลวงประชาชนเมื่อมีการพิสูจน์ว่าเศษกะโหลกนั้นเป็นของมนุษย์ในยุคกลาง ส่วนกระดูกขากรรไกรเป็นของลิงอุรังอุตัง และฟันของชิมแปนซี

โครงกระดูกแห่งพิลท์ดาวน์

Cr. stripes.com

 

4.เหตุการณ์เดรย์ฟุส ฉนวนความแตกแยกในฝรั่งเศส

ต้นเหตุแห่งวิกฤตการณ์ทางการเมืองและสังคมในฝรั่งเศส เริ่มต้นขึ้นเมื่อมการจับกุมร้อยเอกอัลเฟรด เดรฟุส นายทหารกรมเสนาธิการในข้อหาทรยศชาติจากการขายความลับทางการทหารให้กับ พันเอกมากซ์ ฟอน ชวาทซ์คอพเพิน ผู้ช่วยทูตทหารบกเยอรมัน สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากเชื้อชาติของเดรย์ฟุส ที่เขามีเชื้อสายยิว ในการไต่สวนความผิดในทางลับ ฝ่ายทหารได้แสดงเอกสารลับที่อ้างว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ใช้มัดตัวและยืนยันความผิดของเดรย์ฟุส โดยที่เดรย์ฟุสและทนายของเขาไม่มีโอกาสได้เห็นเอกสารชิ้นดังกล่าว สุดท้ายเดรย์ฟุสถูกเนรเทศให้ไปอาศัยในดินแดนอันโดดเดี่ยวในทวีปอเมริกาใต้ ต่อมาพันเอกชอร์เช ปีคการ์ หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับคนใหม่ ค้นพบว่าโทษเนรเทศของเดรย์ฟุสนั้นไม่เป็นธรรม จึงพยายามเรียกร้องให้มีการรื้อคดีขึ้นมาไต่สวนใหม่อีกครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จแถมตัวเองยังถูกปลดออกจากตำแหน่งอีกด้วย

ร้อยเอกอัลเฟรด เดรฟุส

Cr.nybooks.com

 

3.สัมพันธ์ลับ บิล คลินตันกับนักศึกษาฝึกงานทำเนียบขาว

กลายเป็นประเด็นอื้อฉาวสะเทือนทำเนียบขาวกันเลยทีเดียว เมื่อประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา บิล คลินตัน ถูกเปิดโปงครั้งใหญ่ว่ามีความสัมพันธ์ลับๆ กับโมนิกา ลูวินสกี้ นักศึกษาฝึกงานในทำเนียบขาว  แรกๆ บิล คลินตันออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่แล้วก็มีการค้นพบจดหมายที่เขาเป็นคนเขียนขึ้นเอง และเทปเสียงจากการดักฟังโทรศัพท์ ที่กลายเป็นหลักฐานสำคัญมัดตัวประธานาธิบดีแห่งสหรัฐคนนี้ถึงจริยธรรมทันที

บิล คลินตัน

Cr. pixabay.com

 

2.คดีวอเตอร์เกต ลวงลับตับแตกสะเทือนทำเนียบขาว

คดีทางการเมืองอื้อฉาวสุดอัปยศของชาวอเมริกันเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกาก็ว่าได้ เมื่อมีการจับกุมชาย 5 คนที่ลักลอยเข้าไปโจรกรรมข้อมูลในสำนักงานใหญ่ของพรรคเดโมเครต บนอาคารวอเตอร์เกต  วอชิงตัน ดี.ซี. ในปี 1972 หลังการสืบสาวราวเรื่องของ FBI  จนไปเชื่อมโยงเส้นทางการเงินของคนร้ายทั้งห้าคน จนไปถึงกองทุนหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มระดมทุนในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของ ประธานาธิบดีริชาร์ต นิกสัน ซึ่งหลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่ทีมทำงานของประธานาธิบดีนั่นเอง แต่ทีมทำงานพยายามปกปิดหลักฐานนี้ซึ่งนำไปสู่การลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีของนายริชาร์ต นิกสัน เนื่องจากเหตุอื้อฉาวนี้ได้สั่นคลอนแนวคิดเรื่องเสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย์ที่อเมริกาเคยเชิดชู

ริชาร์ด นิกสัน

Cr. history.com 

 

1.เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิวในเยอรมัน

โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้น เมื่อ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำพรรคนาซีเรืองอำนาจในเยอรมนี เขามีแผนที่จะแบ่งแยกเชื้อชาตินาซีออกจากชาวยิวอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มีการเสนอกฏหมายที่ชื่อ “เนือร์นแบร์ก” ห้ามไม่ให้ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวสมรสกับชาวเยอรมันที่ไม่ใช่เชื้อสายยิว บังหน้า มีการโยนความผิดและกล่าวหาว่าปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องชาวบ้าน ความวุ่นวายต่างๆ รวมถึงการที่เยอรมันต้องเป็นฝ่ายแฟ้สงครามล้วนเป็นความผิดของชาวยิวทั้งหมด จากนั้นเป็นต้นมาชาวยิวก็ต้องพบชะตากรรมอันแสนโหดร้าย ทั้งถูกกดขี่ข่มเหง ลิดรอนสิทธิ์ในสังคม ไร้ที่ยืนในสังคม และจบลงด้วยการสังหารล้างเผ่าพันธ์ชาวยิว ร่วม 6 ล้านคนในระหว่างสงครามโลกครั้งที่2 กล่าวกันว่า การกระทำของฮิตเลอร์นั้นเป็นการโกหกหลอกลวงครั้งสำคัญในประวัตศาสตร์โลกเลยทีเดียว

อดอล์ฟ ฮิตเลอร์

ที่มา howstuffworks.com

Advertisements

Advertisements

Advertisements