เว็บไซต์วอยซ์ทีวี ได้เผยแพร่หลักการทรงงาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จากหนังสือธรรมดี ที่พ่อทำ ซึ่งเป็นการนำข้อความการบรรยายของศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี มาเปิดเผย เรื่องหลัก 23 ข้อ ในการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงขออัญเชิญหลักการทรงงาน นำมาเผยแพร่ เพื่อให้เราทุกคนได้น้อมนำเอาหลักการทรงงานของพระองค์ มาเป็นแบบอย่างในการทำงานของตนเอง
หลักทรงงาน 23 ข้อ
ข้อที่ 1 จะทำอะไรต้องศึกษาข้อมูลให้เป็นระบบ
ข้อที่ 2 ระเบิดจากภายใน หมายถึงสร้างความเข้มแข็งจากภายในให้เกิดความเข้าใจและอยากทำ มิใช่สั่งให้ทำ คนไม่เข้าใจจะไม่ทำ แยกให้ออกระหว่างคุณค่ากับมูลค่า ว่ามีเหตุผลอย่างไรจึงควรทำ
ข้อที่ 3 แก้ปัญหาจากจุดเล็ก คือ มองภาพรวมก่อนเสมอ แต่การแก้ปัญหาต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ และควรมองในสิ่งที่มักจะมองข้าม ถ้าปวดหัวคิดอะไรไม่ออก ให้คิดแก้ปวดหัวก่อน เป็นคำพูดที่ฟังดูตลก แต่ลึกซึ้ง คิดใหญ่ทำเล็ก คิดกว้างทำแคบ ลงมือทำในจุดเล็กๆ ก่อน สำเร็จแล้วจึงค่อยขยาย มิใช่สั่งทำพร้อมกันทั่วประเทศ ดูดี แต่ลงทุนสูง ได้ผลน้อย ในที่สุดทุกคนก็จะหมดแรง เพราะมีแต่คนสั่ง คนทำมีอยู่ไม่กี่คน
ข้อที่ 4 ทำตามลำดับขั้น โดยเริ่มจากสิ่งที่จำเป็นหรือสิ่งที่ขาดก่อนเสมอ
ข้อที่ 5 ภูมิสังคม ภูมิศาสตร์ สังคมศาสตร์ นั้นสำคัญ เพราะการงานทุกอย่างต้องคำนึงถึงภูมิศาสตร์ว่าอยู่แถบไหน อากาศเป็นอย่างไร ติดชายแดน ติดทะเล และสังคมของเราเป็นอย่างไร นับถือศาสนาอะไร คนนิสัยใจคอเป็นอย่างไร รวมไปถึงพวกเราเองด้วย ถ้าไม่รู้เขารู้เรา จะรบชนะได้อย่างไร
ข้อที่ 6 ทำงานแบบองค์รวม โดยคิดความเชื่อมโยง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและทรงมีแนวทางแก้ไขอย่างเชื่อมโยง องค์รวม ครบวงจร เชื่อมโยง “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” เป็นคำพูดที่ฟังแล้วเกินจริงไปหน่อย แต่ก็จริง ทุกสิ่งล้วนเกี่ยวพันกัน แยกออกจากกันโดยเด็ดขาดไม่ได้
ข้อที่ 7 ไม่ติดตำรา เพราะความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด บางครั้งเรายึดทฤษฎีจนเกินไป ทำอะไรไม่ได้เลย สิ่งที่เราทำบางครั้งต้องโอบอ้อมต่อสภาพธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สังคม จิตวิทยาด้วย
ข้อที่ 8 ประหยัด เรื่องง่ายได้ประโยชน์สูงสุด
ข้อที่ 9 ทำให้ง่าย
ข้อที่ 10 การมีส่วนร่วม มีส่วนร่วมและคิดถึงส่วนรวม
ข้อที่ 11 ต้องยึดประโยชน์ส่วนรวม เมื่อส่วนรวมได้ประโยชน์แล้ว เราเองก็ได้ประโยชน์ด้วย
ข้อที่ 12 บริการจุดเดียว วันนี้เราพูด วันสต๊อปเซอร์วิส แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสไว้เกิน 20 ปีมาแล้ว ศูนย์ศึกษาพัฒนา 6 แห่งทั่วประเทศ ให้บริการจุดเดียวมากว่า 20 ปี ใครทันสมัยกันแน่
ข้อที่ 13 ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ โดยมองธรรมชาติให้ออก กักน้ำตามลำธารช่วยให้ป่าสมบูรณ์ ช่วยให้ชาวเขามีอาชีพ เราก็จะลดปัญหายาเสพติดลงไป การช่วยดูแลผู้ติดยา เขาจะไม่กลับไปเสพซ้ำและสามารถกลับมาช่วยเราอีกแรง ทำให้ได้แนวร่วมเพิ่มขึ้นอยู่แบบสมดุล ซึ่งการจะมองปัญหาออกต้องมีใจว่าง ไม่ลำเอียง ต้องมีจิตอันพิสุทธิ์
Advertisements
ข้อที่ 14 ใช้อธรรมปราบอธรรม เอาผักตบชวาที่เป็นปัญหาของเราในประเทศมากำจัดน้ำเสีย เอาปัญหามาช่วยขจัดปัญหา เอาปัญหายาเสพติดมาช่วยพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของคนไทยกันดีกว่า แผ่นดินธรรม แผ่นดินทองควรจะเฟื่องฟูได้แล้ว
ข้อที่ 15 ปลูกป่าในใจคน ต้องปลูกที่จิตสำนึกก่อน ต้องให้เห็นคุณค่าก่อนที่จะลงมือทำ การดูแลปัญหายาเสพติด ถ้าคนทำหน้าที่นี้ยังทำเพราะเป็นหน้าที่ งานสำเร็จได้ยาก แต่ถ้าทำด้วยความดีใจที่ได้ช่วยลูกเขาให้กลับคืนสู่อ้อมอกพ่อแม่ได้เพียงหนึ่งคน ซึ่งคุ้มค่ากว่าได้เงินทองเป็นล้าน แสดงว่าพลังต่อสู้กับยาเสพติดได้เกิดขึ้นในใจของท่านแล้ว จงปลุกสิงโตทองคำในหัวใจให้ตื่นขึ้นมาได้ก่อน
ข้อที่ 16 ขาดทุนคือกำไร อย่ามองกำไรขาดทุนที่เป็นตัวเงินมากจนเกินไป บางครั้งเราได้กำไรจากการขาดทุน
ลงทุนมหาศาล ได้ธรรมชาติกลับคืนมา ลงทุนมหาศาล ได้ลูกคืนมา ลงทุนมหาศาล ได้คนดีๆ กลับมา
ลงทุนมหาศาล ได้ความรู้ไว้คอยช่วยเหลือ
ข้อที่ 17 การพึ่งตนเอง
ข้อที่ 18 พออยู่พอกิน
ข้อที่ 19 เศรษฐกิจพอเพียง ยึดแนวคิดประหยัด เรียบง่าย ประโยชน์สูงสุด
ข้อที่ 20 ความซื่อสัตย์สุจริต จริงใจต่อกัน
ข้อที่ 21 ทำงานอย่างมีความสุข
ข้อที่ 22 ความเพียร
ข้อที่ 23 รู้ รัก สามัคคี
รู้ คือ ต้องรู้ปัจจัย รู้ปัญหา รู้ทางออกของปัญหา รู้จักทุกคนทั้งหน้าที่การงาน ชีวิต ครอบครัว ทำอย่างไรจึงจะรู้จักให้ดี ได้รู้จุดอ่อน จุดแข็ง โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชา
รัก คือ เมื่อรู้แล้ว ต้องเกิดความอยากในทางที่ดีก่อน คือฉันทะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ภูมิใจ อยากทำ เน้นความดี ใส่ใจกันและกัน มองกันในแง่ดี
สามัคคี คือลงมือปฏิบัติ ต้องร่วมมือเพื่อเกิดพลัง แยกกันไร้ค่า
Advertisements