กว่าจะมีวันนี้ได้ชีวิตจริงไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้ 5 พระเอกต้นทุนน้อย ผ่านความยากลำบากมาก่อน ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้รู้เพียงขยันและความสามารถล้วนๆ จึงได้รับการสนับสนุนจนมีอย่างทุกวันนี้
1. ตุ้ย เกียรติกมล
หนุ่มนักล่าฝันจากบ้าน AF หนุ่มตุ้ย เกียรติกมล เคยเปิดเผยถึงความลำบากและความมานะมาตั้งแต่สมัยได้แชมป์ ว่าเมื่อก่อนเคยทำงานมามากมายเพราะต้นทุนน้อย ตั้งแต่อายุ 16 ปี ตนเป็นทั้งเด็กส่งน้ำแข็ง พนักงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้า พนักงานขายซาลาเปา แม้กระทั่งเด็กเดินตั๋วหนัง แต่พอเข้าร่วมประกวดเวทีแห่งฝันจนได้เป็นแชมป์ ทำให้ชีวิตของ ตุ้ย เปลี่ยนเป็นดีขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นทั้งนักร้องคนติดตาม และบทพระเอกที่หยิบยื่นมาให้ เมื่อได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่จึงเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น ที่สำคัญ หนุ่มตุ้ย ภูมิใจที่สุดเพราะทำให้แม่และพ่อไม่ลำบากเหมือนที่ผ่านมาแล้ว
© รูปต้นฉบับ: tuibadboy, อินสตาแกรม
2. กอล์ฟ อนุวัฒน์
คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี กอล์ฟ อนุวัฒน์ ก่อนที่จะก้าวสู่วงการชีวิตลำบากถึงขั้นอดมื้อกินมื้อ คุณพ่อเป็นช่างทาสีคุณแม่ขายผลไม้ซึ่งส่วนมากไม่ค่อยได้กำไร เหตุนี้ครอบครัวจึงมีรายได้ไม่พอใช้จ่าย หนุ่มกอล์ฟ เคยได้เงินไปโรงเรียนวันละ 10 บาท กินเพียงแค่ผลไม้แต่ต้องอยู่ให้ได้ทั้งวัน บางครั้งคุณพ่อเสียสละให้ลูกกินข้าวก่อนไปโรงเรียนจึงค่อยมากินที่เหลือต่อจากลูกชาย ซึ่งพออายุ 17 ปี เจ้าตัวย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ตัดสินใจประกวดเวทีของช่อง 7 เรียกว่าชีวิตพลิกตั้งแต่ตอนนั้น หลังจากนั้นก็เริ่มขยับฐานะกลายเป็นพระเอกในหลายเรื่อง เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวให้กับครอบครัว ปัจจุบันกลายเป็นนักแสดงอิสระ
© รูปต้นฉบับ: golfanuwat, อินสตาแกรม
3. โตโน่ ภาคิน
สำหรับหนุ่ม โตโน่ ภาคิน ก่อนจะเป็นนักร้องดังและพระเอกในจอ ชีวิตก่อนเข้าวงการลำบากสุดๆ สูญเสียคุณพ่อตอนอายุ 9 ขวบ ครอบครัวเคยเป็นหนี้ธนาคารถึง 18 ล้านบาท เป็นตัวเลขสูงมาก คุณแม่ต้องขายทุกอย่างที่มีเพื่อใช้หนี้คุณแม่เสียความสุขไป โตโน่ ทนเห็นผู้หญิงที่รักที่สุดลำบากไม่ได้ เมื่อโตขึ้น โตโน่ เดินทางไปทำงานที่ประเทศเยอรมัน เสิร์ฟอาหาร ล้างจาน ขัดห้องน้ำ วันแรกที่ทำถึงกับพูดไม่ออก ไม่ว่าจะกลิ่นหรือภาพที่เห็นโดยต้องใช้มือตักอ้วกในโถฉี่ ได้ค่าเเรงวันละ 1,000 บาท ชีวิตตอนนั้นลำบากเอาการ จนในที่สุดเริ่มประกวดเวทีเดอะสตาร์จนกลายเป็นที่รู้จักในนาม โตโน่ ภาคิน ทุกวันนี้ผู้ชายนักสู้สามารถปลดหนี้สินมูลค่ามหาศาลไปได้ ทำให้แม่กลับมายิ้มได้อีกครั้ง
Advertisements
© รูปต้นฉบับ: mootono29, อินสตาแกรม
4. เอก รังสิโรจน์
ต่อกันที่ เอก รังสิโรจน์ น้อยคนจะรู้ว่าตอนเด็กๆ ต้องอาศัยอยู่ที่วัดมาก่อน เพราะต้นทุนน้อยและบ้านอยู่ไกลออกไป การเดินทางไปกลับจากโรงเรียนค่อนข้างลำบาก พ่อกับแม่เลยพามาฝากไว้ที่วัดตั้งแต่อายุ 15 อยู่วัดจนอายุ 23 ปี ซึ่ง เอก ทำทุกอย่างเป็นเหมือนเด็กวัดทุกคนเช้าเดินตามพระบิณฑบาตร ซึ่งพอช่วงเข้าสู่วัยรุ่นก็ยังอาศัยอยู่ที่วัดอยู่ แต่เจ้าตัวก็หางานทำนั่นคือเล่นดนตรีเพื่อหารายได้ กลับมานอนที่วัดตี 2- 3 พอ 6 โมงเช้า ต้องตื่นไปเดินตามพระบิณฑบาตร สุดท้ายมานะจนได้รับโอกาสสู่บทพระเอกภาพยนตร์ดัง เรื่อง แม่นาค 3d รวมถึงละคร อังกอร์ 2 ชีวิตต่อสู้มาจนดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ทุกวันนี้เจ้าตัวยังคงติดดินมาก มีชีวิตพอเพียงน่าเอาเป็นแบบอย่างค่ะ
© รูปต้นฉบับ: ake.rangsiroj_fanclub, อินสตาแกรม
5. บอส โตนนท์
ปิดท้ายที่พระเอกคนนี้ บอส โตนนท์ เคยลำบากถึงขั้นสุดมาแล้ว เมื่อคุณพ่อเสียคุณแม่ต้องแบกรับภาระเพียงคนเดียว คุณแม่ต้องทำงานหนักมีหนี้จากบ้านหลังใหม่ที่ครอบครัวเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ได้เพียง 3 สัปดาห์ ตัดสินใจขายทิ้งต่อมาต้องขายรถถึง 3 คัน คุณแม่รับภาระหนักทำงานหลังขดหลังแข็งหารายได้เข้าบ้านคนเดียว โตนนท์ เข้าใจถึงความลำบากตอนนั้นที่ต้องนั่งรอลูกค้า ถึงขนาดที่วันไหนไม่มีลูกค้าจะไม่มีเงินกินข้าวกันเลย ผู้เป็นแม่ต้องสละบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีอยู่ห่อเดียวให้ลูกอิ่มหลายครั้ง จากนั้น โตนนท์ จึงหางานทำรับจ้างตัดหญ้าค่าแรงวันละ 200 บาท ทำงานเป็นตัวการ์ตูนมาสคอตเช้าจรดบ่ายยอมทำทุกอย่างที่ได้เงิน กระทั่งมีโอกาสเล่นละครของช่อง 7 ยอมรับชีวิตเปลี่ยนมาก โตนนท์ เปิดร้านอาหารเหนือตามที่คุณแม่ฝันอยากทำ ความลำบากที่ผ่านมาทำให้ หนุ่มโตนนท์ เติบโตขึ้นเป็นเสาหลักของบ้านอย่างแข็งแกร่งได้
Advertisements