สูญเสียไปมากเท่าไหร่ กับภัยพิบัติธรรมชาติ ที่สร้างความพังพินาศจนนับมูลค่าไม่ได้ หน้าประวัติศาสตร์ที่ไม่มีวันลืมถูกตอกย้ำให้เห็นภาพชัดขึ้น เกิดเป็นแรงบัลดาลใจให้เกิดหนังที่อิงจากเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจริงในอดีต ที่สะท้อนว่ามนุษย์เราช่างตัวเล็กกระจ้อยร่อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ และนี่คือ สุดยอด 5 หนังภัยพิบัติ สร้างจากเหตุการณ์จริง ที่มนุษยชาติไม่มีวันลืม
1.The Impossible
http://cdn.collider.com/wp-content/uploads/the-impossible-poster.jpg
ในหนัง : ครอบครัวหนึ่งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาพักผ่อนช่วงวันหยุดกับหาดสวยๆ ที่ภูเก็ต แต่แล้วคลื่นยักษ์สึนามิสูงเท่าตึก 3 ชั้นซัดทั้งเกาะราบเป็นหน้ากองแบบไม่ทันตั้งตัว สมาชิกในครอบครัวนี้จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอดจากคลื่นยักษ์มฤตยูนี้และออกตามหาครอบครัวที่พลัดหลงกัน
CR : collider
เรื่องจริง : นับเป็นประวัติศาสตร์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ไม่มีวันลืม เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ได้เกิดการเคลื่อนตัวใต้เปลือกโลกในมหาสมุทรอินเดีย ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิสูงราว 30 เมตร ประเทศที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย รองลงมาคือ ศรีลังกา อินเดีย และ ไทย โดยผู้เสียชีวิตในประเทศไทยอยู่ที่ 5,000 กว่าคน และ สูญหายกว่า 2,000 คน
2.Aftershock
ในหนัง : เรื่องราวแผ่นดินไหวในจีน ที่สะเทือนถึงจิตใจแม่ลูกสอง ด้วยสถานการณ์บีบบังคับที่ต้องยอมเสียสละลูกหนึ่งคน เพื่อให้อีกคนรอด ฉากการเห็นลูกตัวเองโดนซากตึกทับต่อหน้าต่อตาคนเป็นแม่ บีบหัวใจคนดูสุดๆ เรียกได้ว่าน้ำตาไหลเป็นสายเลือดเลยทีเดียว
CR : dvdverdict
เรื่องจริง : เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษที่ 20 เกิดขึ้นเพียงชั่วเสี้ยว 23 วินาที ตอนเวลา 03.42 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่าสองแสนคน ทั้งที่ปรากฏและจมหายใต้ซากปรักของอาคารบ้านเรือน ซึ่งพังยับ ประเมินค่าความเสียหายในเวลานั้นเป็นเงินมากกว่า 10,000 ล้านหยวน
3.Sinking of Japan
ในหนัง : ปฏิบัติการอพยพพลเมืองญี่ปุ่นครั้งใหญ่ เมื่อองค์กรวิทยาศาสตร์โลกค้นพบความจริงว่า เกาะญี่ปุ่น กำลังจะจมสู่ก้นทะเล จากภัยพิบัติทั้งแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์ ภูเขาไฟระเบิด ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง สุดยอดหนังภัยพิบัติที่ดูเหมือนจะเว่อร์ไปหน่อย แต่หนังสร้างจากมูลความจริงที่ว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดภัยพิบัติบ่อยครั้งและรุนแรงมากที่สุดประเทศหนึ่งเลยทีเดียว
Advertisements
CR : subscene
เรื่องจริง : อย่างที่ได้กล่าวไป ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ค่อนข้างบอบช้ำจากภัยพิบัติมากที่สุดประเทศหนึ่ง อันเนื่องมาจากภูมิประเทศของเกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่บริเวณของ “วงแหวนไฟ” (Ring of Fire) ซึ่งเป็นจุดทับซ้อนของแผ่นดินใต้เปลือกโลกทำให้พื้นที่ที่อยู่ใต้วงแหวนไฟ มีโอกาสประสบภัยพิบัติบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวที่ฮอกไกโด (1993) แผ่นดินไหวที่โกเบ (1995) ภูเขาไฟระเบิดร่วม 10 ครั้ง ในระยะเวลาเพียง 10 ปี นี่ยังไม่รวมแผ่นดินไหวที่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ พายุไต้ฝุ่น พายุหิมะ หรือฝนตกหนักน้ำท่วม
4.Krakatoa East Of Java
ในหนัง : เหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดเกิดในวันที่ 27 สิงหาคม ปี 1883 เสียงกัมปนาทได้ยินไปไกลถึง 3,000 ไมล์ ตามด้วยคลื่นยักษ์สูงกว่า 40 เมตร คร่าชีวิตผู้คนกว่า 36,000 ราย ม่านควันแผ่ปกคลุมกว้างไกล ทำให้เกิดฝนดำ และอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกลดลง จัดเป็นหนังผจญภัย หายนะธรรมชาติที่มีตัวละครน่าสนใจและสนุกมากเรื่องหนึ่งในอดีต
CR : orsonandwelles
เรื่องจริง : การระเบิดครั้งรุนแรงของภูเขาไฟกรากะตัว บนเกาะกรากะตัว ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 27 สิงหาคม ปี 1883 ได้คร่าชีวิตทุกคนที่อยู่บนเกาะ นอกจากนี้การระเบิดยังทำให้เกิดคลื่นสึนามิ สูงกว่า 30 เมตร เดินทางไปถล่มเกาะหลายแห่ง รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ประมาณ 36,000 คน
5.ตะลุมพุก
ในหนัง : เรื่องราวความรักแสนยากลำบาก ของ พร้าว และ ซากีนะห์ ณ. แหลมตะลุมพุก ภายใต้แรงพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง พร้าวตัดสินใจกลับมาที่ตะลุมพุกอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อซากีนะห์ บทพิสูจน์ความรักครั้งสำคัญ ที่จะเปลี่ยนชีวิตของคนทั้งคู่ไปตลอดกาล และทำให้ทั้งคู่รู้จักคุณค่าของชีวิตที่แท้จริง
CR : thaifilm
เรื่องจริง : เหตุการณ์วาตภัยครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2505 ที่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช คลื่นใหญ่ที่ พัดบ้านเรือน ผู้คน ต้นไม้ หายลงไปในทะเล ผู้คนต่างอยู่ในสภาพขาดแคลนทั้งเสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย อาหาร ยารักษาโรค ไฟฟ้าในจังหวัดก็ดับหมด ยอดรวมผู้เสียชีวิต 911 คน สูญหาย 142 คน บาดเจ็บสาหัส 252 คน ไม่มีที่อยู่อาศัย 10,314 คน
อย่างไรก็ตามภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เป็นสิ่งที่มนุษย์เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ มันเป็นกฎของธรรมชาติที่ไม่อาจฝ่าฝืนได้ แต่ถ้าเราร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แม้ในวันที่เลวร้ายที่สุด ก็สามารถมีรอยยิ้มเล็กๆ ที่แบ่งเบาความทุกข์และอีกไม่นานความสงบสุขก็จะกลับมา เพราะฟ้าหลังฝน ย่อมสดใสเสมอ
Advertisements