เรื่องจริงโคตรหลอน! 5 เรื่องผีจากปากดารา ที่น่ากลัวที่สุด

1.เรื่องเล่าผีเจ้าที่มาบอกทาง ของ ดีเจมะตูม

ไม่น่าเชื่อเลยว่าดีเจอารมณ์ดีอย่าง มะตูม-เตชินท์ จะเป็นคนเคยเจอประสบการณ์ลึกลับที่หาคำตอบไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยเจอผีจังๆ แต่จะสัมผัสได้เสมอ เริ่มจากตอนบวชเณรเมื่อออายุ 13-14 ระหว่างที่นั่งสมาธิ เณรที่นั่งข้างๆ เกิดอาการชัก กรี๊ด และตาเหลือก จนวงแตก และเมื่อพระอาจารย์มาถึง ท่องมนต์อะไรสักอย่างและราดน้ำมนต์ใส่ ก็มีควันเป็นก้อนๆ ผุดออกมาจากตัวเณรคนนั้น ถือเป็นเหตุการณ์ประหลาดที่หาคำอธิบายไม่ได้

นั่นคือประสบการณ์ครั้งแรก หลังจากนั้น ดีเจมะตูมก็เริ่มเห็นสิ่งแปลกๆ มาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้เจอแบบจังๆ เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นตอนเดินทางไปสุพรรณบุรี มะตูมนั่งรถกระบะไปกับน้าเขยน้าสาว โดยมะตูมนั่งตอนในของรถ ส่วนด้านหลังใช้ขนของ มีคนงานเฝ้า 2 คน วันนั้นฝนตก ตอนใกล้ถึงที่หมายก็ได้แวะปั๊มฝั่งตรงข้ามวัดทับกระดานเพื่อซื้อขนมเล็กๆ น้อยๆ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเกือบ 5 ทุ่ม

เสร็จแล้วก็ขึ้นรถขับกันต่อ ฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงทางแยก แต่ไม่มีใครจำได้ว่าเลี้ยวซ้ายหรือขวา น้าเขยตัดสินใจเลี้ยวขวา แต่มีเสียงเคาะกระจกจากข้างหลังดังมาก มะตูมคิดว่าคนงานเคาะเตือนว่าเลี้ยวผิด น้าเขยเลยถอยรถออกมา จนถึงแยกแล้วเลี้ยวซ้ายใหม่ ปรากฏว่าเป็นทางที่ถูกต้องและไปถึงบ้าน แต่พอลงมาจากรถ พบว่าท้ายกระบะมีแต่ของไม่มีคน มะตูมและน้าก็คิดว่าคนงานรีบไปเพราะไม่อยากขนของ แต่ 40 นาทีต่อมา คนงานก็เดินเข้ามาถึงในสภาพขาเลอะโคลน แล้วต่อว่ามะตูมและน้าๆ ว่าลงไปเข้าห้องน้ำหน้าวัดแป๊บเดียว ออกมาไม่เจอใครแล้ว ทำไมถึงไม่รอกัน

แล้วอย่างนี้ใครกันที่เป็นคนเคาะกระจกบอกทาง ??

2.เรื่องผีบ้านร้างชวนขนหัวลุก ของ บุ๋ม ปนัดดา

นางงามอย่าง บุ๋ม-ปนัดดา ก็เคยเจอเรื่องสุดสะพรึงมาแล้วเหมือนกัน เหตุเกิดตอนที่บุ๋มเป็นพิธีกรวาไรตี้ทอล์ค เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งในรายการมีช่วงท้าพิสูจน์ผี ที่จะเชิญแขกทางบ้านมา 3 คน เทปนั้นไปบ้านร้างหลังใหญ่แถวหนองจอก เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ถ้าเดินเข้าบ้านไปจะเจอบันไดอยู่ตรงกลาง ตัวบ้านมีปีกซ้ายขวา และมีชั้นลอย โดยทีมงานได้นำโลงศพจริงไปวางที่ชั้นลอยเพื่อให้แขกทางบ้านเข้าไปนอน

ในตอนนั้นบุ๋ม ป๋อง-กพล แขก 3 คน ตากล้อง และผู้ช่วยตากล้อง ต้องเข้าไปในบ้าน บุ๋มถือเครื่องจับสัญญาณ (โกสต์บัสเตอร์) และกล้องหนึ่งตัวไปด้วย ขณะกำลังเดินสำรวจบ้าน อยู่ๆ ก็มีเสียงอิฐหล่น ทั้งที่ผนังเพดานบ้านราบเรียบมาก พอเดินต่อถึงชั้นบน ตากล้องโดนผึ้งต่อย ขณะเดินกลับลงมาข้างล่าง บุ๋มแวะถ่ายรูปโลงศพซึ่งมีกล้องตั้งอยู่ เพื่อจับภาพใบหน้าคนที่นอนอยู่ เมื่อเดินลงมาถึงชั้นล้าง เครื่องในมือบุ๋มส่งสัญญาณ บุ๋มเองก็เห็นเงาคนดำๆ และมีเสียงอิฐหล่นอีกครั้ง บุ๋มจึงวิ่งขึ้นไปดูโลงศพเพราะอยากรู้ ปรากฏว่าเจออิฐก้อนใหญ่วางอยู่กลางโลงศพ ทั้งที่ในรูปที่ถ่ายมาก็เป็นโลงเปล่าๆ บุ๋มจึงพาคนออกจากบ้าน เพราะกลัวว่าถ้าไปนอนแล้วอิฐหล่นใส่อาจเป็นอันตรายได้ แต่มีผู้เข้าแข่งขันคนนึงจากทางบ้านขอเล่นต่อเพราะต้องการเงินรางวัล เนื่องจากภรรยาจะคลอดลูก ขณะที่ยืนตกลงกันอยู่หน้าจอมอร์นิเตอร์ กล้องที่อยู่หน้าโลงศพก็เลื่อนลง ทำให้ทีมงานต้องเข้าไปเซ็ตกล้องใหม่ อยู่ๆ ก็มีเสียงอิฐหล่นครั้งที่สาม ทีมงานจึงรีบวิ่งลงมา บุ๋มก็รีบซูมกล้องเข้าไปถ่าย เห็นภาพชายแก่ผมหงอก เสื้อยืดขาว กางเกงขาก๊วยสีดำ วิ่งผ่านหลังทีมงานเข้ากำแพงไปด้วยสีหน้าที่โกรธมาก แต่รูปที่บุ๋มถ่ายได้เป็นดวงไฟ บุ๋มจึงบอกว่าจะกลับแล้วไม่เล่นแล้ว

เมื่อออกมานอกบ้าน ชาวบ้านแถวนั้นก็บอกว่าเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นชายจีนแก่ๆ ที่รักบ้านมาก มาดูการก่อสร้างทุกวัน แต่ตายที่หน้าบ้าน โดยชาวบ้านเล่ารายละเอียดชุดที่ชายแก่คนนั้นใส่ในวันที่ตายให้บุ๋มฟัง ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่บุ๋มเห็นชายแก่ในบ้านใส่

3.‘อาร์ต’ ของขลังเต็มตัว มีเซ้นส์เห็นคนใกล้ตาย!

หนุ่มหล่อและท่าท่างทันสมัยแบบ อาร์ต-พศุตม์ ก็เป็นอีกคนที่เชื่อในเรื่องลี้ลับทั้งหลาย โดยอาร์ตเล่าว่าเริ่มรู้ตัวว่ามีเซนส์เห็นผีตอนอายุ 10 กว่าขวบ ความสามารถนี้ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ เพราะพ่อของปู่เป็นหมอผี อาร์ตเห็นผีครั้งแรกคือปู่ของตัวเอง หลังจากปู่เสียได้สามวัน อาร์ตเห็นปู่อยู่ในบ้าน

พอโตมาอาร์ตก็เป็นพวกชอบลองของ ตอนอายุ 16-17 ไปเล่นผีถ้วยแก้วที่บ้านร้าง ซึ่งบ้านนั้นมีคนเจอผีบ่อยมาก อาร์ตกับเพื่อนเจอผีถ้วยแก้วเป็นวิญญาณคนพม่าที่อยู่ที่นั่นมานานมาก แต่เป็นวิญญาณที่ใจดี อาร์ตกับเพื่อนเลยไปเล่นกันบ่อยๆ จากนั้นก็ลองของมาเรื่อยๆ

นอกจากมีเซนส์แล้ว อาร์ตยังเชื่อและชื่นชอบในของขลังมาก อาร์ตฝังเข็มฝังตะกรุดกันภัยทั่วตัว ตอนเกิดอุบัติเหตุเข็มพวกนี้จะกระตุกเตือนให้รู้ตัว ตอนอาร์ตไปแข่งมอเตอร์ไซค์ตอนอายุ 17 ก่อนออกจากบ้านก็รู้สึกว่าเข็มพวกนี้กระตุก แต่อาร์ตไม่สนใจ จนมอเตอร์ไซค์ล้มขณะแข่งจนเป็นแผลทั่วตัว แต่รู้สึกได้ว่าเหมือนมีคนมาดึงไว้ไม่ให้เจ็บหนักทั้งที่ล้มไปแรงมาก

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของที่อาร์ตเจอเท่านั้น ไปฟังเต็มๆ กันได้ที่ลิงค์ด้านล่าง ที่สำคัญมีฟิล์มเอ็กซเรย์ที่เห็นเข็มที่ฝังในตัวอาร์ตให้ดูด้วย

4.ใหม่ สุคนธวา หลอน เจอดีรูปผีสิง!

ใหม่- สุคนธวา ก็เคยเจอประสบการณ์หลอนเช่นกัน เหตุการณ์เกิดเมื่อใหม่ไปงานแต่งงานที่รีสอร์ทของคนรู้จัก เขาให้เลือกบ้านที่จะพักเองตามใจชอบ ใหม่ไปติดใจบ้านหลังหนึ่ง รู้สึกแปลกๆ เหมือนเคยอยู่มาก่อน จึงนอนในบ้านหลังนั้นกับเพื่อน 2 คน

ตกกลางคืนใหม่หลับแล้วรู้สึกเหมือนมีคนเดินวนรอบบ้านด้านนอก เหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง ใหม่สะลึมสะลือ จนรู้สึกว่ามีคนจ้อง เห็นเป็นเงาดำๆ มองดีๆ แล้วเห็นเป็นหน้าผู้หญิงใส่ชุดม่อฮ่อมแขนกระบอก จ้องตาใหม่แบบโกรธมากแล้วพึมพำว่าไม่เห็นกูเหรอ ใหม่สะดุ้งตื่นมาดูเวลา ปรากฏตอนนั้นประมาณตีสามครึ่งจึงนอนต่อ แต่ก็ยังรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นเดินวนรอบบ้านพร้อมพึมพำว่า มันไม่เห็นกูเหรอๆ ซ้ำไปซ้ำมา สุดท้ายใหม่ทำอย่างไรถึงหลุดจากเหตุการณ์สุดขนลุกนั้นมาได้ ต้องไปกันฟังต่อที่

5.’เอ้ ชุติมา’ มีเซนส์สุดสะพรึง เปิดเนตรเห็นวิญญาณ!

เป็นที่รู้กันว่า เอ้-ชุติมา เป็นคนชอบทำบุญ แต่น้อยคนจะรู้ว่าเอ้เองมีเซนส์!

เอ้เล่าว่ายายของเธอมีเซนส์ ตกทอดมาถึงแม่และเอ้ ครั้งแรกที่เอ้สัมผัสได้คือตอนเด็กๆ ที่นั่งสวดมนต์กับแม่แล้วอยู่ๆ เสียงแม่เปลี่ยนไป แต่แม่บอกให้เอ้สวดมนต์ไปเรื่อยๆ พอจิตบริสุทธิ์พอก็จะสื่อสารกับสิ่งลี้ลับและช่วยคนได้ หลังจากนั้นเอ้ก็เริ่มเห็นเจ้าที่ เห็นวิญญาณ

ครั้งหนึ่งเอ้ไปวัดที่กาญจนบุรีกับเพื่อน ไปนั่งสมาธิในบนเขาตั้งแต่เย็นจนค่ำ บรรยากาศน่ากลัว พระอาจารย์บอกว่าคนที่อยู่ได้ต้องจิตแข็ง ระหว่างนั่งสมาธิ เอ้ได้ยินเสียงเด็กกรีดร้องให้ช่วย จึงตั้งจิตถามว่าเป็นใครเป็นอะไร เสียงที่ได้ยินบอกว่าตนเองกับแม่ติดอยู่ในถ้ำหลังเขาเพราะโดนถล่มลงมาทับ ขอให้มาช่วยปล่อยวิญญาณ พอไปบอกพระที่วัด พระ เอ้ และเพื่อนๆ จึงไปนั่งทำพิธีปล่อยวิญญาณบนเขาตอนห้าทุ่ม เอ้รับรู้ได้ด้วยจิตว่ามีดวงไฟสีทองๆ จำนวนมากผุดขึ้นมาจากพื้น หลังออกจากสมาธิ พระกล่าวว่าดวงไฟนั่นคือวิญญาณที่ได้ไปดีแล้ว ซึ่งไม่ได้มีแค่วิญญาณแม่ลูกคู่นั้นที่หลุดพ้น แต่มีวิญญาณอื่นๆ ที่ตายในถ้ำได้ไปเกิดใหม่ด้วย

อ่านและดูแล้วก็อย่าลืมใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ แต่ก็อย่างที่เค้าพูดๆ กัน เรื่องแบบนี้ ไม่เจอด้วยตัวเองไม่รู้!