อันดับ 1 ชิมได้ที่ไทย!! 10 อันดับ กาแฟที่แพงที่สุดในโลก แก้วละหมื่นก็ยอมจ่าย

กาแฟ จัดเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมทั่วโลก มีผู้คนหลงรักในกลิ่นและรสชาติจนมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ ทำให้ราคาของกาแฟมีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย ขึ้นอยู่กับคุณภาพ แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมคะ ว่ากาแฟที่แพงที่สุดในโลก ราคาเท่าไหร่กัน คงคิดไว้ว่าไม่น่าจะเกิน 500-1000 ใช่ไหมล่ะคะ แต่ความจริงแล้วมันมีราคาสูงถึง 16,000 บาท/ปอนด์ เลยทีเดียวค่ะ! คือกาแฟอะไรนั้น เราตามมาอ่านกันค่ะ

 

10. Hawaiian Kona Coffee – 1,100 บาท / ปอนด์

เมล็ดกาแฟที่ถูกปลูกในเขต Kona บนเกาะฮาวาย ประเทศอเมริกา มีรสชาติที่เฉพาะตัว ติดเปรี้ยวเฝื่อนลิ้นนิดๆ ทำให้ถูกใจคอกาแฟทั่วโลก และสาเหตุที่ทำให้แพง เพราะทางรัฐมีการตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่เข้มงวด ประกอบกับปัญหาด้วงทำลายผลผลิต ทำให้ราคาที่สูงอยู่แล้วยิ่งสูงขึ้นไปอีก ปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยต่อปอนด์ประมาณ 1100 บาท

© รูปต้นฉบับ: walmart

 

9. Los Planes Coffee – 1,200 บาท / ปอนด์

สายพันุธ์กาแฟท้องถิ่นของเมือง El Salvador เริ่มถูกปลูกโดยครอบครัวชาวไร่ครอบครัวหนึ่ง ก่อนจะแผ่ขยายไปเรื่อยๆ เพราะรสชาติที่ไม่ธรรมดา ถึงขั้นเคยได้รางวัลที่ 2 จากการประกวดรสชาติกาแฟจากทั่วโลก ในปี 2006 และที่ 6 ในปี 2011 มักนิยมใส่น้ำตาลทรายแดง และคาราเมล ชูรสชาติให้ยิ่งนุ่มละมุน และกลิ่นหอมที่ช่วยทำให้สดชื่น ดังนั้นคอกาแฟถึงกล้าจ่ายเงินถึง 1,200 บาท/ปอนด์

© รูปต้นฉบับ: financesonline

 

8. Starbucks Quadriginoctuple Frap – 1,500 บาท / แก้ว

พูดถึงร้านกาแฟชื่อดัง อันดับต้นๆ ที่ทุกคนจะนึกถึงคือ “Starbucks” เพราะโดดเด่นเรื่องคุณภาพและสาขาที่อยู่แทบทุกหัวมุมถนน ซึ่งกาแฟถ้วยนี้ถือเป็นเมนูที่แพงที่สุดของร้าน เพราะชงมาจากวัตถุดิบชั้นเลิศมากมาย ทั้งกาแฟมอคค่า เฟร็ปปูชิโน่ 48 ช็อต, เมล็ดวนิลา, ไอศกรีมคาราเมล, กล้วย 2 ลูก, สตรอว์เบอร์รี, ผงโปรตีน, เครมบรูเล่ และคาราเมล เฟร็ปปูชิโน่ชิพ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงมีราคาแก้วละ 1,500 บาท!

© รูปต้นฉบับ: baristaakademia

 

7. Fazenda Santa Ines – 1,600 บาท / ปอนด์

สายพันธุ์กาแฟโบราณที่มีอายุมานานกว่า 100 ปี ถูกปลูกมากในเทือกเขา Mantiquera ประเทศบราซิล ขั้นตอนในการปลูกค่อนข้างพิถีพิถัน มีการฉีดน้ำแร่เพื่อเพิ่มสารอาหารให้กับพืช ทำให้มีรสชาติที่พิเศษ ละมุนละไมไปด้วยความหวานหอม จึงมีราคาถึง 1,600 บาท/ปอนด์

© รูปต้นฉบับ: modernclassics

 

6. Jamaican Blue Mountain Coffee – 1,700 บาท / ปอนด์

ถือเป็นชื่อสายพันธุ์กาแฟที่คอนักดื่มหลายคนต้องรู้จัก เพราะมีชื่อเสียงในเรื่องรสชาติที่ติดขมนิดๆ แต่สัมผัสนุ่มละมุนลิ้น ถูกปลูกมากบริเวณเทือกเขา Jamaican Blue ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 5,000 ฟุต สภาพอากาศเขตร้อนชื้นตลอดปี ทำให้มีน้ำมากเพียงพอต่อความต้องการของต้นกาแฟ ราคาต่อปอนด์สูงถึง 1,700 บาท/ปอนด์

© รูปต้นฉบับ: amazon

 

5. Saint Helena Coffee – 2,500 บาท / ปอนด์

ชื่อเสียงของกาแฟสายพันธุ์นี้โด่งดังมาตั้งแต่สมัยกษัตริย์นโปเลียน โบนาปาร์ต เพราะเป็นกาแฟที่พระองค์ทรงโปรดปราน ทำให้ได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูงของสมัยนั้น ก่อนจะเผยแพร่มาถึงชนชั้นกลาง และต่อมาเรื่อยๆ จนถือเป็นอีกหนึ่งกาแฟที่มีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันถูกปลูกบนเกาะแห่งหนึ่ง กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งห่างไกลจากชายฝั่งมาก ทำให้ต้องเสียค่าขนส่งสูง แต่เพราะรสชาติที่โดดเด่น คนจึงยอมซื้อในราคา 2,500 บาท/ปอนด์

Advertisements

© รูปต้นฉบับ: helena+coffee

 

4. Kopi Luwak – 5,100 บาท / ปอนด์

หรือเป็นที่รู้จักในชื่อว่า “กาแฟชะมด” ซึ่งคอกาแฟหรือคนทั่วไปมักจะเคยได้ยินชื่อกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เหตุเพราะกรรมวิธีในการเก็บที่พิเศษ โดยให้ชะมดกินผลกาแฟเข้าไป ก่อนจะขับถ่ายออกมา แล้วแยกเมล็ดกาแฟออกจากกากอาหารต่างๆ รสชาติที่ได้จะกลมกล่อม และมีกลิ่นหอมเพราะได้รับเอนไซม์จากชะมด ราคาต่อปอนด์เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 5,100 บาท

© รูปต้นฉบับ: longandshort

 

3. Hacienda La Esmeralda – 11,000 บาท / ปอนด์

ความพิเศษของกาแฟสายพันธุ์นี้อยู่ที่รสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอมเฉพาะตัว โดดเด่นมากจนคว้ารางวัลชนะเลิศ จากการประกวดกาแฟจากทั่วโลกหลายปีซ้อน ถือเป็นเครื่องดื่มราคาแพงที่ควรลองสักครั้งในชีวิต แม้ว่าจะมีราคาสูงถึงปอนด์ละ 11,000 บาท ก็ตาม

© รูปต้นฉบับ: squarespace

 

2. Finca El Injerto Coffee – 16,000 บาท / ปอนด์

สาเหตุที่ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 เพราะเป็นกาแฟที่ถูกผลิตมาจากเมล็ดกาแฟที่ขนาดเล็ก รสชาติเป็นเลิศ และที่สำคัญยังหายากอีกด้วย จนในปี 2006 เคยได้รับรางวัล Excellence grand prize ถือเป็นการการันตีรสชาติชั้นเยี่ยมของมัน และบ่งบอกถึงเหตุผลว่าทำไมถึงมีราคา 16,000 บาท/ปอนด์

© รูปต้นฉบับ: alux

 

1. Black Ivory Coffee – 17,000 บาท / ปอนด์

ถูกคิดค้นโดย Mr.Blake Dinkin ซึ่งทั่วโลกต่างรู้จักในชื่อว่า “กาแฟช้างไทย” เพราะกระบวนการผลิตที่ให้ช้างไทย ในมูลนิธิช้างสามเหลี่ยมทองคำ จังหวัดเชียงรายกินเมล็ดกาแฟ จากนั้นรอให้ถ่ายออกมา ซึ่งเมล็ดกาแฟสดที่ถูกกินไป 33 กิโลกรัม จะเหลือปริมาณที่คนบริโภคได้เพียงแค่ 1 กิโลกรัม เอนไซม์ที่แทรกซึมในเนื้อเมล็ดทำให้รสชาติของกาแฟนุ่มนวล ไม่ค่อยมีรสขม ราคาปอนด์ละ  17,000 บาท

© รูปต้นฉบับ: gobeepbeep

 

แม้ว่าผู้คิดค้นจะไม่ใช่คนไทย แต่คุณ Dinkin ได้จดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย จึงถือเป็นกาแฟสัญชาติไทยโดยกำเนิด และรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายจะถูกบริจาคให้กับมูลนิธิช้างสามเหลี่ยมทองคำ ใครที่อยากลิ้มรส สามารถหาทานได้ที่ โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ

 

SOURCE : financesonline

กดติดตาม ADD Line @UndubZapp

Advertisements

Advertisements

Advertisements