อย่างที่รู้กันดีว่า อาหารไทย เป็นที่ชื่นชอบทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม จึงมีร้านอาหารติดอันดับโลกมากมาย และในวันนี้ UndubZapp จะมาพูดถึงร้านอาหารไทยที่ติดอันดับโลกและในเอเชียกัน รับรองเลยว่างานนี้ฟินแน่
1. Gaggan
ร้านอาหารที่มีสไตล์การทำอาหารที่เก๋ไก๋ ชวนทาน ให้อารมณ์แบบ Surprise นิดหน่อย นั่นคือ การปกปิดภาพบางส่วนในเมนูไว้ เผยให้เห็นแค่บางส่วน เพื่อต้องการให้คุณเปิดใจในการทานและรอคอยอย่างตื่นเต้นนั่นเอง
ถ้าคุณยังไม่เคยมา ก็อยากให้ลองดูที่รีวิวของคนที่เคยไปเยือนมาก็ได้ หรือถ้ายังไม่มั่นใจลองดูรางวัลการันตีที่ได้มาก็ได้ เช่น ในปี 2018 ร้าน Gaggan ได้รับการจัดอันดับใน The World’s 50 Best Restaurants อยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก และเคยได้อันดับที่ 1 ของโลกมา 5 ปีซ้อน และได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ของเอเชียประจำปี 2018 อีกด้วย และได้รับรางวัลนี้มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 อีกด้วย และที่สำคัญร้าน Gaggan เพิ่งคว้ารางวัลมิชลิน สตาร์ไป 2 ดวง เห็นรางวัลขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคุณภาพกันเลยว่ามีดีขนาดไหน
เป็นร้านแนว “progressive indian cuisine และที่สำคัญต้องมีการจองคิวก่อนล่วงหน้าเป็นเดือน เพราะคิวแน่นจริงๆ โดยร้านนี้เป็นของ เชฟชาวอินเดีย Gaggan Anand ที่เคยทำงานอยู่ในร้านที่ได้รับมิชลิน สตาร์ 3 ดวงจาก elBulli ของประเทศสเปนมาเปิดร้านอยู่ที่ 68/1 ซอยหลังสวน ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10330 [เขตปทุมวัน] นั่นเอง ร้านไม่ใหญ่มาก แต่บรรยากาศอบอุ่นสุดๆ เมนูมีให้เลือกหลากหลายและจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด 3-4 เดือนเปลี่ยนครั้งหนึ่ง และเมนูมีถึง 25 ชุดให้คุณได้เลือกสรรรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
เมนูแนะนำคือ Yogurt explosion โยเกิร์ตนมแพะ อร่อย ละลายในปาก ถือเป็นเอกลักษณ์ของร้านเลย
และยังมีอาหารน่ากินอย่างอื่นๆ ที่มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ คงต้นตำหรับแบบอินเดียไว้อย่างเหนียวแน่นเช่น แกงหอยเชลล์ฮอกไกโดเย็นที่เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมรสมะพร้าว ใส่รวมกับเครื่องเทศของอินเดีย ต้องบอกเลยว่าสุดยอด
Cedar Wood Paturi เนื้อปลากะพงเผาใบตองมาพร้อมกับซอสพริกน้ำมันมัสตาร์ดรสเข้มข้น ละมุนลิ้น อร่อยสุดๆ
สำหรับคนรักล็อบสเตอร์ห้ามพลาดเมนูนี้เด็ดขาด นั่นคือ Lobster Dosai เนื้อล็อบสเตอร์ผสมกับแกงอินเดียรสชาติเข้มข้น รับรองว่ากินแล้วจะติดใจ
ความจริงแล้วเมนูได้รับการจัดเป็นคอร์ส แต่ขอเอามาให้ดูสัก 5 เมนูก็พอ เมนูนี้เป็นเมนูสุดท้ายแล้ว นั่นคือ เมนูแครกเกอร์ Foie Gras Yuzu Marshmallow คือ ฟัวกราส์ครีมส้มยูสุ อร่อยรสชาติดีจนต้องยกนิ้ว
2.Nahm
ร้านอาหารไทย รสจัดจ้าน ที่ถูกอกถูกใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ภายใต้ชื่อเรียกง่ายๆ ว่า น้ำ ซึ่งเชฟเจ้าของร้าน เคยเปิดสาขาแรกที่ออสเตรเลีย และได้รับความสำเร็จได้รับดาวจากมิชลินสตาร์ภายใน 6 เดือนเท่านั้น ถือเป็นร้านอาหารไทยแห่งแรกในออสเตรเลียที่ได้รับดาวจากมิชลินทีเดียว ส่วนในปี 2018 นี้ ร้าน Nahm ได้รับการจัดอันดับใน The World’s 50 Best Restaurants อยู่ในอันดับที่ 49 ของโลก
สไตล์การตกแต่งร้านได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะอยุธยาในช่วงศตวรรษที่ 14-18 ไม่ว่าจะเป็นเสาก่ออิฐสีแดง และการแกะสลักไม้ด้วยมือหรือแม้กระทั่งชามเบญจรงค์ที่ใส่อาหาร รวมถึงความใส่ใจของ David Thompson และหัวหน้าเชฟ นามว่า ปริญญ์ ผลสุข และถึงแม้ว่าเจ้าของจะเป็นชาวต่างชาติ แต่อาหารยังคงจัดจ้านในแบบไทยอยู่ ถ้าใครทานเผ็ดไม่เก่ง แต่อยากกินรสจัด แนะนำให้ทานข้าวเยอะๆ หน่อย คิดดูสิ ข้าวหอมมะลิหอมฟุ้งทานคู่กับกับข้าวรสจัด แค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว
ร้าน Nahm นี้ตั้งอยู่ที่ โรงแรม COMO Metropolitan เขตสาธร กรุงเทพ เปิดตั้งแต่เวลา 18.30-22.15 น.อาหารตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่น แต่รับรองว่ากินแล้วคุ้มค่าแน่นอน
ร้านนี้จัดเป็น Set เมนูมาให้ ซึ่งเราจะเลือกเองหรือให้ทางพ่อครัวเลือกให้ก็ได้
ตัวอย่าง Set เมนู
แกงกะทิปูม้า ถือว่าเป็นเมนูเด็ดของที่นี่เลยก็ว่าได้ หอมกลิ่นกะทิ ปูม้าก็เรียกได้ว่ามาเยอะมาก รสชาติกลมกล่อมมากๆ
พล่าหอยเชลล์ หอยสดมากๆ ไม่คาวเลย แถมมีรสชาติของกะทิและมะพร้าวด้วย
แหนมผัดผักกูด อร่อย รสชาติดี ใครชอบแหนม ห้ามพลาดเลย
Advertisements
น้ำพริกมะขามเปียก ใครชอบความจี๊ดจ๊าดแบบลงตัว ห้ามพลาดเมนูนี้เด็ดขาด
ส้มฉุน แปลกแต่จริง คือ เป็นมะปรางแช่อิ่ม แต่ว่าน้ำคล้ายกับมะม่วงเบาแช่อิ่ม แต่ว่าไม่เปรี้ยวจนแสบไส้ และก็ไม่เชื่อว่าในเมนูนี้จะใส่หอมเจียวลงไปด้วยได้ หวานคาวกลมกลืนจริงๆ
ขนมครก สุดยอดเมนู ละมุนลิ้น กัดนิดหนึ่งก็ได้ลิ้มรสไส้ข้างใน ใครชอบขนมไทยที่ไม่ธรรมดาห้ามพลาด
3. Suhring
ร้านอาหารเยอรมันของเชฟฝาแฝด นามว่า Thomas และ Mathias เชฟที่มีประสบการณ์สูงระดับโลก ร้าน Suhring เป็นร้านอาหารสไตล์ Fine Dining ที่มีบรรยากาศร่มรื่น ร้านน่านั่ง เปิดประตูเข้ามาเป็นโซนแบบ
โซน Green Glass ใครชอบที่เย็นๆ ใบไม้ใบหญ้า รักความเป็นธรรมชาติต้องนั่งโซนนี้เท่านั้น
ส่วนใครที่อยากใกล้ชิดเชฟ ได้เห็นขั้นตอนการทำ แนะนำให้จองโต๊ะในโซน Kitchen Room แต่ต้องรีบจองกันหน่อย เพราะว่ามีเพียง 6 โต๊ะเท่านั้น
ความโดดเด่นของอาหารเยอรมันของร้านนี้ คือการนำเอาอาหารที่เชฟชอบในวัยเด็ก และคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากแต่ละแคว้นของเยอรมันกลายมาเป็นสุดยอดของเซตเมนูที่เพียบพร้อมให้คุณได้ลอง รับรองเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ราคาก็ไม่แพงเกินไปเมือเทียบกับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ โดยเราจะเรียกเป็นคอร์สเมนู เช่น 6 จานก็ราคา 1800 บาทขึ้นไป ถ้า 12 จานก็ราคา 2500 บาทขึ้นไปเป็นต้น หากคุณยังไม่มั่นใจว่าที่นี่ดีจริงไหม เรามีรางวัลการันตีมาดูด้วย นั่นคือ ได้รับการจัดอันดับจาก Top Tables 2018: Bangkok’s 100 best restaurants และเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย ได้รับรางวัลมิชลิน สตาร์ 1 ดวง ดูจากตรงนี้แล้ว คงหายสงสัยกันไปเลย
ตัวอย่างเมนูอาหาร
Soft pretzel & Obatzda ขนมปังจิ๋วน่ารัก จิ้มกับซอสครีมชีส พร้อมแก้วเบียร์เล็กๆ ที่มีรสชาติหวานซ่าน่าลองสุดๆ เลยเมนูนี้
Homemade Spätzle เยอรมันพาสต้าที่ทำจากมันฝรั่งและราดด้วยชีสจากแคว้น Allgäu เป็นแคว้นที่อยู่ทางตอนใต้ของเยอรมัน โปรยด้วย black truffle จากฝรั่งเศส ต้องบอกว่ารสชาติอร่อยมากจริงๆ
rhubarb ice cream สตอรอเบอร์รี่ กินแล้วมีความสุขมาก ๆ ได้รสชาติ สดชื่นสุดๆ
ปลาทูดอง สลัดและ Simmentaler roast beef เนื้อวัวที่อร่อยผสมผสานกับปลาทูดองใครจะเชื่อว่าจะเข้ากันได้ แต่มันเกิดขึ้นแล้วที่นี่
บานาน่าสปริท ไอกรีมรสขิง มีกล้วย และบราวนี่รสพริกด้วย ใครจะรู้ว่าจะมีไอติมแบบนี้ในโลกล่ะ ถ้าอยากรู้เป็นอย่างไรก็รีบมากินเลย
Sturgeon & caviar ไข่ปลาคาเวียร์บนกรวยแป้งเปาะเปี๊ยะ อร่อยลืมเลยล่ะ รสชาติของคาเวียร์กับความกรอบมันของแป้งเปาะเปี๊ยะเข้ากันดีจริงๆ
ใครมองหาร้านอาหารน่าทาน ให้คุณคิดถึงร้านติดอันดับโลกที่คุณไม่ควรพลาด แล้วคุณจะมีความสุขกับการกินมากขึ้น
แซ่บกันต่อ…
Advertisements