สู้ต่อไปซิส! 3 วิธีดูแลใจ ในวันที่อายุ 30 ปี แต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

คนเก่งมากมายหลายคนบนโลกนี้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ความรัก และชีวิตครอบครัวตั้งแต่ตอนที่ยังอายุน้อยๆ แต่ก็มีคนอีกมากมายบนโลกที่ต่อให้อายุขึ้นเลขสาม ขึ้นเลขสี่ หรือกระทั่งขึ้นเลขห้าไปแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ประสบความสำเร็จในด้านใดๆ กับเขาเลย เหมือนกับว่าตัวเองแค่ใช้ชีวิตไปวันๆ เท่านั้น คุณเป็นอีกคนหรือเปล่าที่กำลังประสบภาวะเช่นนั้น แล้วสงสัยไหมว่าควรรับมือกับสภาวะความกดดันในวันที่สิ่งที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่ตัวเลขเงินในบัญชี แต่เป็นตัวเลขอายุเช่นไรดี ใครที่กำลังสับสน กำลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ ตาม UndubZapp ไปดูพร้อมๆ กันเลยว่า คุณจะบำรุงรักษาหัวใจตัวเองอย่างไรได้บ้าง

1. ตรวจสภาพจิตใจ

ในวันที่อายุขึ้นเลขสามแล้ว คนส่วนใหญ่เริ่มกังวลถึงการสร้างฐานะและการสร้างครอบครัวในอนาคตกันมากขึ้น มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ถูกสมาชิกในครอบครัวและญาติผู้ใหญ่ กดดันเรื่องการแต่งงาน มีบุตรสืบสกุล หรือบางคนแม้จะไม่มีความกังวลใจเรื่องการสร้างครอบครัว แต่ก็ยังมีความกดดันเรื่องการสร้างฐานะเพิ่มทรัพย์สิน รู้อะไรไหม ส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนทุกข์ใจ เป็นเพราะยังคงเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนนั้นคนนี้ การที่คุณคิดว่าคุณยังมีไม่เท่าคนอื่น เป็นเหตุหลักที่ทำให้คุณสร้างความกดดันขึ้นมาให้ตัวเองโดยไม่รู้ตัว การสร้างครอบครัวก็เช่นกัน แม้ว่าคุณจะมีวัยวุฒิสูงแล้ว แต่หากยังไม่มีความพร้อม ก็ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบอะไร ถ้าตรวจสภาพจิตใจแล้วว่าคุณโอเคกับชีวิตที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ไม่เห็นว่าจะต้องกังวลอะไรนี่

2. กำหนดเป้าหมายในชีวิต

ถ้าคุณยังไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก่อนอื่นหากระดาษปากกามาจดเป้าหมายในชีวิตของคุณลงไป หรือจะจดลงบนโทรศัพท์แท็บเล็ตก็ได้ตามสะดวก เป้าหมายในชีวิตที่ว่านี้จะเป็นอะไรก็ได้ เป็นภาพชีวิตในอุดมคติที่คุณอยากมี สินทรัพย์ที่คุณอยากได้ไว้ในครอบครอง หรือแผนการเที่ยวรอบโลกก็สามารถจดลงไปได้เช่นกัน อย่าเพิ่งไปสนใจว่ามันจะขัดแย้งกับความจริงอย่างไรบ้าง เช่นว่า คุณอยากมีรายรับเพิ่มขึ้นจำนวนเท่านี้ต่อเดือน อยากมีคอนโดไว้ปล่อยเช่าสักที่ เป็นต้น หลังจากที่คุณจดออกมาได้ครบแล้วว่าสิ่งที่เป้าหมายในชีวิตของคุณมีอะไรบ้าง ให้ลองนำลิสต์เหล่านั้นมาลำดับขั้นตอนดูว่าคุณสามารถทำอะไรจากลิสต์นี้ได้เป็นอย่างแรก บางทีไม่ใช่ว่าคุณทำมันไม่ได้หรอก แต่คุณแค่ไม่เคยได้ลงมือทำจริงจังต่างหาก

3. ยอมรับความเป็นจริง

ต่อให้คุณสามารถไปถึงเป้าหมายในชีวิตได้อีกอย่างจริง ซึ่งเราก็ต้องขอชื่นชมคุณนะถ้าคุณทำได้ แต่เราก็เชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะสามารถไปสู่เส้นทางตามที่ตัวเองกำหนดเป้าหมายชีวิตเอาได้ ใช่ว่าถ้าเราอยากไปเที่ยวรอบโลก เราเขียนลิสต์ประเทศที่อยากไปออกมา แล้วเราจะสามารถซื้อตั๋วไปเที่ยวรอบโลกเองเลยได้ แล้วก็ใช่ว่าถ้าเราอยากมีบ้านของตัวเอง เขียนลิสต์ออกมา ตั้งใจทำงานวันสองวันเราจะได้บ้านมาครอบครองเลย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลา ก็เหมือนธรรมชาติที่สวยงามบนโลกนี้นั่นแหละ กว่าที่ทุกสิ่งจะเป็นอย่างที่เราเห็นได้ โลกก็ต้องใช้เวลากว่าร้อยปีเพื่อรังสรรค์ธรรมชาติเหล่านั้น แม้ว่าคนเราจะมีอายุสั้นกว่าจักรวาล แต่ก็ใช่ว่าถ้าอายุมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเราจะต้องหยุดฝันเสียหน่อย ขอให้คุณพยายามทำในสิ่งที่ฝันต่อไป ในขณะที่กำลังพยายามอยู่นี้ ก็ขอให้ยอมรับความเป็นจริงและพอใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่ให้ได้ ไม่ต้องไปสนใจข้อครหาจากคนรอบข้างว่าทำไมอายุสามสิบกว่าแล้วยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเสียที สิ่งสำคัญไม่ใช่การทำให้คนอื่นมีความสุข แต่เป็นการทำให้ตัวเรามีความสุขในทุกๆ วันของชีวิตต่างหาก