“โรคความดันโลหิตสูง” ถือเป็นอีกภัยเงียบที่เราทุกคนควรให้ความสนใจไม่แพ้กับโรคอื่นๆ เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่ค่อยส่งสัญญาณเตือน หรือแสดงอาการใดๆ ให้เราทราบล่วงหน้าสักเท่าไหร่ หลายๆ คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงนั้น กว่าจะรู้ตัวก็มารู้เอาตอนที่เกิดโรคแทรกซ้อนเจ็บป่วยฉุกเฉินเสียแล้ว ที่สำคัญ เป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ควบคุมอาการได้หากดูแลสุขภาพให้ถูกวิธี
ความดันโลหิตคืออะไร?
“ความดันโลหิต” คือ แรงดันที่เกิดขึ้นในหลอดเลือดแดง ทำหน้าที่สูบฉีดเลือด เพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย เครื่องวัดความดันโลหิตจะบอกค่าความดันโลหิตเป็น 2 ค่า ได้แก่ ค่าตัวบน (Systolic) ความดันเมื่อหัวใจบีบตัว และ ค่าตัวล่าง (Diastolic) ความดันเมื่อหัวใจคลายตัว ซึ่งค่าความดันมาตรฐานสำหรับบุคคลทั่วไปจะอยู่ที่ 120/80 อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ความดันโลหิตตัวบนไม่เกิน 120 มิลลิเมตรปรอท ความดันโลหิตตัวล่างไม่เกิน 80 มิลลิเมตรปรอทนั่นเอง
ความดันโลหิตเท่าไหร่จัดว่าความดันโลหิตสูง?
- เมื่อค่าตัวบนอยู่ที่ 121-139 และ ค่าตัวล่างอยู่ที่ 80-89
จัดว่าความดันเริ่มสูง ควรเริ่มควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และหมั่นเช็คความดันสม่ำเสมอ
- เมื่อค่าตัวบนอยู่ที่ 140-159 และ ค่าตัวล่างอยู่ที่ 90-99
จัดว่าความดันสูง ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาตามอาการต่อไป
- เมื่อค่าตัวบนมากกว่า 160 และ ค่าตัวล่างมากกว่า 100
จัดว่าความดันสูงมาก ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยด่วน
ความดันโลหิตสูงเกิดจากอะไร?
- อายุมากขึ้น
- น้ำหนักเกินมาตรฐาน
- อาหารไขมันสูง อาหารรสจัด หวานจัด เค็มจัด
- ความเครียดสะสม
- โรคทางพันธุกรรม
โรคความดันโลหิตสูงมีอาการอย่างไรบ้าง?
ผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการใดๆ เลย หรืออาจพบว่ามีอาการปวดศีรษะ ปวดตา หรือปวดต้นคอเป็นประจำ รู้สึกมึนงง หน้ามืด เวียนศีรษะ ตาพร่ามัว เหนื่อยง่าย หายใจหอบ เลือดกำเดาไหลบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน มือชา มือสั่น ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว แต่ที่น่ากังวลยิ่งกว่าก็คือ ภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูง เพราะหากปล่อยให้ความดันโลหิตสูงต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้ดูแลหรือหาทางควบคุมให้ความดันโลหิตกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดแดง โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง หลอดเลือดในสมองแตก ตีบ หรือตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคไตเรื้อรัง (อ้างอิง โรคความดันโลหิตสูง )
© รูปต้นฉบับ: unsplash.com
ป้องกันโรคความดันโลหิตสูงอย่างไรดี?
1.ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ให้น้ำหนักมากเกินไป หรือจัดอยู่ในโรคอ้วน
2.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างพอเพียง
3.หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด หวานจัด เค็มจัด มันจัด และอาหารให้พลังงานสูงทั้งหลาย
4.จำกัดปริมาณโซเดียม ไม่บริโภคโซเดียมเกิน 2,300 มิลลิกรัมในแต่ละวัน
5.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยๆ วันละ 30 นาที 3 วันต่อสัปดาห์
6.งดหรืดลดการสูบบุหรี่และการดื่มสุรา ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
Advertisements
7.ทำจิตใจให้แจ่มใส มองโลกในแง่บวก ทำให้อยู่ไกลจากความเครียด
8.เข้ารับการตรวจวัดค่าระดับความดันโลหิตเป็นประจำ อย่างน้อยๆ ปีละ 1 ครั้ง
© รูปต้นฉบับ: pexels.com
ความดันโลหิตเริ่มสูงควรดูแลตัวเองอย่างไร?
ส่วนคนที่พบว่าความดันโลหิตเริ่มเข้าข่ายสูงเกินมาตรฐานแล้ว สามารถดูแลตัวเองได้ง่ายๆ ด้วยการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตตัวเองใหม่
1.ปรับพฤติกรรมการกิน
พฤติกรรมการเพิ่มการรับประทานอาหารที่ให้กากใยสูง เช่น พืชผักใบเขียว เลือกรับประทานอาหารที่ให้กรดไขมันดีต่อร่างกาย เช่น ธัญพืช หรือถั่วชนิดต่าง เปลี่ยนจากการรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง มาเป็นเนื้อสัตว์ที่ให้ไขมันต่ำ และมีกรดไขมันโอเมก้า-3 เช่น ปลาชนิดต่างๆ โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นปลาจากทะเลลึก ราคาสูง แต่ปลาไทยๆ หาซื้อได้ในเมืองไทยก็ให้ปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-3 ได้เหมือนกัน ( กินปลา(ไทย)ได้โอเมก้า-3 เหมือนกัน!! 7 ปลาไทยโอเมก้า-3 สูง บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์ )
2.ออกกำลังกายให้เหมาะกับสุขภาพ
สำหรับคนที่มีความดันโลหิตสูง การออกกำลังกายก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยควบคุมความดันโลหิตไม่ให้สูงเกิดค่ามาตรฐาน แต่จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนว่าควรออกกำลังกายอย่างไรเพื่อความปลอดภัย ซึ่งการออกกำลังกายที่ปลอดภัย คือการเดิน เนื่องจากการเดินต่อเนื่อง เป็นการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวและไม่หนักจนเกินไป สำหรับผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกาย แนะนำให้เดินวันละ 20-30 นาที คือให้อยู่ในระดับเบาจนถึงปานกลาง ไม่ให้รู้สึกเหนื่อยเกินไป (อ้างอิง ความดันโลหิตสูงกับการออกกำลังกาย )
© รูปต้นฉบับ: unsplash.com
3.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในปริมาณมากมีผลต่อภาวะความดันโลหิตสูงได้เช่นเดียวกับการรับประทานอาหารไขมันสูง เนื่องจากแอลกอฮอล์จะเข้าไปกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักขึ้น สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น ทำให้เกิดแรงดันสูงในหลอดเลือด
©Feature image pixabay.com
Advertisements