เรียกได้ว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญแห่งการนับถอยหลังเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 8 ปีของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นสิทธิ์และหน้าที่ของประชาชนชาวไทยที่ต้องไปใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เข้ามาบริหารประเทศ โดยในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2562 นี้ นอกจากเราจะต้องศึกษานโยบายของแต่ละพรรคเพื่อเลือกผู้ที่ไว้วางใจมากที่สุดเข้ามาทำงานแล้ว กฎกติกาการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เปลี่ยนไปจากเดิม ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนการเดินทางเข้าคูหาในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมนี้ โดย 5 อันดับเรื่องต้องรู้สำหรับการเลือกตั้งที่ UndubZapp นำมาฝากนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้สิทธิ์ของตัวเองได้อย่างถูกต้อง เพราะหากพลาดไปแล้ว เสียสิทธิ์ไปฟรีๆ ขอแก้ทีหลังไม่ได้อย่างแน่นอนค่ะ
5. เลือกตั้งได้ถึง 5 โมงเย็น
หลายคนที่ติดธุระในวันที่ไปเลือกตั้งอย่างพอดิบพอดีนั้น อย่าเพิ่งถอดใจละทิ้งสิทธิ์ของตัวเองไปค่ะ เพราะในปีนี้ คูหาเลือกตั้งทุกแห่งทั่วประเทศได้ขยายเวลาการเลือกตั้งให้ตั้งแต่ 8.00 – 17.00 น. เลยทีเดียว เรียกได้ว่า เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาใช้สิทธิ์กันอย่างเต็มที่ ดังนั้น นอกจากตัวกับหัวใจแล้ว ในวันที่ 24 มีนานี้ ก็อย่าลืมพกบัตรประชาชนหรือหลักฐานทางราชการที่มีรูปถ่ายอย่างใบขับขี่หรือพาสปอร์ตติดตัวไว้ด้วยค่ะ เพราะไม่เช่นนั้น ถึงมาทันห้าโมงเย็นก็อดใช้สิทธิ์กันอยู่ดี
4. ห้ามทำอะไรบ้างในคูหา?
การเลือกตั้งก็มีกฏข้อห้ามที่ถ้าใครฝ่าฝืนอาจจะต้องถึงขั้นโดนดำเนินคดีตามกฏหมายเป็นเรื่องราวใหญ่โตทีเดียว ทางที่ดีประชาชนทุกคนควรปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด อย่างเช่น ห้ามส่งเสียงดังรบกวน, บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้าไปในเขตคูหาเด็ดขาด ยกเว้นคนที่สมควรได้รับการช่วยเหลือจริงๆ เช่น บุคคลทุพพลภาพ สามารถขอให้กรรมการเขตเลือกตั้งช่วยเหลือในเบื้องต้นได้, คุณมีสิทธิ์เข้าคูหาเลือกตั้งได้แค่ครั้งเดียว และที่กฏข้อนี้สำคัญในยุคที่คนชอบแชทชอบแชร์ในโลกโซเชียล คือ ห้ามถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งโพสต์ลงโซเชียลเด็ดขาด รวมถึงห้ามฉีกหรือทำลายบัตรเลือกตั้ง มิเช่นนั้น จะมีความผิดจำคุกไปเกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งนานถึง 10 ปีเชียวคุณ
3. Vote No ดีกว่าไม่มาใช้สิทธิ์
ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของการเลือกตั้ง เพราะหลายครั้งที่เดียวที่เรารู้สึกไม่อยากไปเลือกตั้งเพียงเพราะยังไม่มีผู้สมัครคนไหนที่โดนใจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้คุณจะไม่อยากเลือกใครเลย การเดินทางไปลงคะแนนเสียงในช่อง “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด” ก็ยังถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ของตนเองเช่นเดียวกัน เพราะหากคะแนน Vote No นั้นมีมากกว่าคะแนนเสียงของผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งในเขตนั้น เขตดังกล่าวก็จะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ แถมผู้สมัครรายเดิมก็ยังไม่มีสิทธิ์ลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งใหม่อีกด้วย นอกจากนี้ การไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งยังอาจทำให้คุณเสียสิทธิ์บางประการไป โดยเฉพาะสิทธิ์ทางการเมือง เพราะใครจะไปรู้ว่า ในอนาคตคุณอาจจะต้องลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เสียเอง ถึงเวลานั้นจะเสียสิทธิ์ไปเพราะเมื่อก่อนเคยนอนหลับทับสิทธิ์ ก็คงเป็นเรื่องทีน่าเสียดายทีเดียวค่ะ
Advertisements
2. ต่างเขตต่างเบอร์
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทยที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ และถือเป็นเรื่องจำเป็นต้องรู้อันดับ 2 ของการเลือกตั้งในปี 2562 นี้ โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้สมัครจะจับสลากเบอร์ตัวเองตามลำดับการสมัครของแต่ละเขต ดังนั้น แม้จะเป็นผู้สมัครที่มาจากพรรคเดียวกัน แต่หากอยู่กันคนละเขตก็ไม่จำเป็นจะต้องมีเบอร์ที่เหมือนกันค่ะ กติกานี้เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ว่า ผู้สมัครในแต่ละเขตจะต้องแสดงความรู้ความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่พึ่งแค่เบอร์ของพรรคดังเช่นแต่ก่อน ดังนั้น จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต้องทำการศึกษาข้อมูลของผู้สมัครแต่ละคน รวมทั้ง สังกัดของพรรคและเบอร์ที่ต้องกาในใบเลือกตั้งด้วย โดยงานนี้จะโทรไปขอลอกจากเพื่อนที่อยู่เขตข้างๆ ไม่ได้เป็นอันขาดค่ะ
1. เข้าคูหา กาเบอร์เดียว
ถือเป็นกฎใหม่อันดับหนึ่งที่ต้องรู้ในการเลือกตั้ง 62 เพราะหากคุณไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน อาจต้องเข้าไปยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ในคูหาเลยทีเดียว เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกคนจะได้รับบัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียวเท่านั้นค่ะ โดยคุณต้องลงคะแนนเสียงเพื่อเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต ซึ่งคะแนนดังกล่าว จะถูกนำไปคำนวณอีกครั้งเพื่อหาจำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคพึงจะได้รับ โดยหลังจากหักลบกับจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตที่ได้รับเลือกแล้ว ก็จะได้เป็นจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคนั่นเอง นั่นหมายความว่า กากบาทเพียง 1 ครั้ง เท่ากับคุณเลือกทั้ง ส.ส. และพรรคในเวลาเดียวกัน แต่พรรคที่ได้จำนวน ส.ส. ไม่น้อยกว่า 25 คนเท่านั้นจะมีสิทธิ์ในการเสนอชื่อผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อให้รัฐสภาลงมติต่อไปค่ะ
จะเห็นได้ว่า หนึ่งเสียงของคุณนั้นมีความหมายกับประเทศ และถึงแม้บางคนจะเบื่อการเมืองมากแค่ไหน ไม่ว่าคนรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า ก็ขอให้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางของประเทศไทยที่เรารักกันค่ะ
Advertisements