โลก… เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่สาม และเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวในระบบสุริยะจักรวาลนี้ที่พิสูจน์ได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ซึ่งลักษณะของเปลือกโลกนั้น จะมีรูปแบบต่างๆ บางบริเวณมีลักษณะไม่ราบเรียบ สูงๆ ต่ำๆ บางบริเวณเป็นที่ราบลุ่มที่มีน้ำท่วมถึง บางบริเวณเป็นที่สูง เป็นกรวดเป็นทรายกว้างขวาง บางบริเวณเป็นภูเขาสูงสลับกับหุบเขาลึก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่บางครั้งมีสถานที่บนโลกใบนี้ที่แปลกตา และมหัศจรรย์ ที่ดูเหมือนพวกมันถูกสร้างขึ้นโดยสิ่งมีชีวิตนอกโลก วันนี้ UndubZapp จะพาคุณไปพบกับภาพความมหัศจรรย์ของ 10 สถานที่แปลกประหลาดที่สุดในโลกที่คุณไม่อยากจะเชื่อว่ามีอยู่บนโลกใบนี้กันค่ะ
10. Split Apple Rock, New Zealand
สถานที่แห่งนี้เป็นรูปแบบของหินทางธรณีวิทยา ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ในอ่าวแทสมัน หินก้อนนี้เป็นหินแกรนิตมีรูปร่างเหมือแอปเปิ้ลผ่าครึ่ง ตั้งในอุทยานแห่งชาติอาเบลแทสมันห่างจากชายฝั่งประมาณ 50 เมตรระหว่างเมืองแมราฮัวกับเมืองไคร์เทอริเทอ
ส่วนของรอยแยกที่แปลกประหลาดนี้ คาดว่าเกิดจากการแยกออกโดยน้ำแข็งตามธรรมชาติ และเพราะรูปลักษณ์แปลก ๆ ของหินก้อนนี้นี่เองค่ะ ที่ทำให้กลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอ่าวแทสมัน
9. Angel Falls, Venezuela
น้ำตกเอนเจล ตั้งอยู่กลางป่าดงดิบที่เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติคานามา ในประเทศเวเนซุเอลา เป็นน้ำตกที่งดงามและมีความสูงถึง 3,212 ฟุต จนได้รับการบันทึกว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในโลกโดยสูงกว่าน้ำตกไนแอการาถึง 18 เท่า และได้ถูกขึ้นบัญชีเอาไว้เป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก ชื่อจริงของน้ำตกนี้ คือ Jimmie Angel ซึ่งเป็นนักบินสหรัฐฯ คนแรกที่บินผ่านน้ำตกและถือว่าเขาคือผู้ค้นพบน้ำตกแห่งนี้เมื่อ ค.ศ. 1935 ซึ่งผู้ที่จะเข้าชมน้ำตกสามารถเข้าไปโดยทางเรือและเครื่องบินเท่านั้น
8. Buzludzha Monument, Bulgaria
จุดสูงสุดที่อนุสาวรีย์ตั้งอยู่ในเทือกเขาบอลข่านตอนกลางมีความสูงถึง 4,728 ฟุตซึ่งการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างจักรวรรดิออตโตมันกับกลุ่มกบฏบัลแกเรียเกิดขึ้นในปี พ. ศ. 2411 อนุสาวรีย์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ. ศ. 2434 เพื่อระลึกถึงการสู้รบ แต่น่าเสียดายที่อนุสาวรีย์อยู่ในสภาพทรุดโทรมและถูกรุกราน
7. The Seven Giants, Siberia, Russia
หรือเรียกอีกอย่างว่า Manpuper rock formations เสาหินขนาดใหญ่เหล่านี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเทือกเขาอูราล ตำนานท้องถิ่นว่าเอาไว้ว่า เสาหินแหล่านี้ คือ ซากศพของยักษ์ทั้ง 7 ในขณะที่พวกเขากำลังเดินทัพข้ามผ่านภูเขา โดยมีหมอผีผู้ยิ่งใหญ่ตีกลองเพื่อให้ยักษ์เคลื่อนที่อย่างไม่หยุดยั้ง อย่างไรก็ตามเมื่อพวกมันได้เห็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ Volgulsky หมอผีของกลุ่มก็ทิ้งกลองลงกลางคัน ปล่อยให้กลองและยักษ์ทั้งเจ็ดถูกแช่แข็งอยู่จนถึงทุกวันนี้
6. The Great Blue Hole, Belize
หลุมยักษ์แห่งนี้ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของเบลีซ เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง ด้วยความลึกถึง 407 ฟุต และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 984 ฟุต Great Blue Hole นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Barrier Reef Reserve System ซึ่งเป็นมรดกโลก ที่ทาง UNESCO องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติได้ทำการขึ้นบัญชีเอาไว้ และ The Great Blue Hole ก็ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับนักดำน้ำ ที่จะได้พบกับทะเลที่ใสสะอาด และพบสิ่งมีชีวิตทางทะเลมากมายรวมทั้งปลาเขตร้อนและการก่อตัวของปะการังอันตระการตา
Advertisements
5. The Champagne Pool, Waiotapu, New Zealand
สถานที่แห่งนี้มีลักษณะที่โดดเด่น ตั้งอยู่ในเกาะเหนือของ นิวซีแลนด์ น้ำพุร้อนบนพื้นดินนี้อยู่ห่างจาก Rotorua ประมาณ 30 กม. และทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Taupo ประมาณ 50 กม. ชื่อ Champagne Pool มาจากการไหลของคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับพรายฟองในแก้วแชมเปญ ซึ่งสามารถพ่นน้ำพุร้อนออกมาสูงถึง 20 เมตรเลยทีเดียว
4. Door to Hell, Turkmenistan
หลุมแก๊สดาร์วาซา หรือ เดร์เวเซ เป็นหลุมแก๊สขนาดใหญ่กลางทะเลทรายการากุม ในเขตจังหวัดอาฮาล ประเทศเติร์กเมนิสถาน เกิดจากการพังถล่มของเพดานแอ่งเก็บแก๊สธรรมชาติที่เดิมเป็นถ้ำ ทำให้เกิดเป็นหลุมแก๊สมีขนาดความกว้าง 69 เมตร และลึก 30 เมตร นักธรณีวิทยาจุดไฟเพื่อจะกำจัดแก๊สมีเทนซึ่งเป็นพิษและคาดว่าไฟจะลุกไม่นาน แต่กลับไม่เป็นไปตามนั้น โดยไฟได้ลุกโชติช่วงต่อเนื่องตั้งแต่เวลานั้นจนถึงปัจจุบัน คนท้องถิ่นและผู้มาเยือนบางส่วนเรียกว่า ประตูสู่นรก ปัจจุบันหลุมแก๊สเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะในเวลากลางคืน
3. Tiger’s Nest Temple, Bhutan
หรือที่เรียกว่า Taktsang Palphug Monastery เป็นสถานที่ทางพุทธศาสนาของเทือกเขาหิมาลัยที่ตั้งอยู่บนหน้าผาของหุบเขาปาโรในภูฏาน มันถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1692 อารามและบริเวณโดยรอบล้อมรอบอยู่บนหน้าผาที่สูงมากกว่า 10,000 ฟุต แต่ก็มีจุดเชื่อมต่อหลายจุดที่สามารถเข้าถึงได้โดยการเดินป่า
2. Airplane Graveyard, Arizona, USA
สภาพแวดล้อมในทะเลทรายแห่งนี้เหมาะสมอย่างยิ่งในการใช้เป็นสุสานเครื่องบิน พื้นดินก็มีพื้นผิวเหมาะสม ไม่ต้องปูพื้นใหม่ และสภาพแวดล้อมบริเวณนี้ยังสามารถลดการกัดกร่อนเหล็กลงได้ เพราะนอกจากใช้จอดเก็บรักษายังมีเครื่องบินบางส่วนที่จะมีการถอดชิ้นส่วนไปขายต่อ
1. Shiprock, New Mexico หรือ monadnock
เกิดขึ้นประมาณ 30 ล้านปีมาแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปส่วนที่เหลือของภูเขาถูกกัดเซาะออกไปทำให้เกิดรอยขรุขระ โดยสถานที่แห่งนี้ตั้งตระหง่านจังก้าอยู่ตามลำพังในพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ในทะเลทรายของ ประเทศนาวาโฮ ใน San Juan County , New Mexico โดยมีความสูงประมาณ 7,177 ฟุต
เป็นอย่างไรบ้างคะ ภาพแต่ละภาพล้วนแล้วแต่สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ผู้ที่พบเห็นไม่ใช่น้อยทีเดียว และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวไม่น้อยจริงมั้ยคะ
Advertisements