ยูเนสโก้ได้มีการจัดอันดับสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยในแต่ละที่นั้น มีความแตกต่างกันทั้งความงดงาม และประวัติศาสตร์เรื่องราว แต่ก็ล้วนมีเอกลักษณ์ในตัวเองซึ่งหาชมได้ยากยิ่ง วันนี้ UndubZapp ได้คัดเลือกสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลก ภายใต้นิยามที่ว่า ชีวิตนี้ ต้องไปเหยียบให้ได้สักครั้ง มาฝากกันค่ะ
อันดับ 10 นครวัด ประเทศกัมพูชา
เริ่มที่ประเทศเพื่อนบ้านกันก่อน จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือสถาปัตยกรรมที่สร้างมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 เป็นสถานที่ที่มีมนต์ขลังของประวัติศาสตร์ แถมยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในอาเซียนอีกด้วย
อันดับ 9 อะโครโพลิส ประเทศกรีซ
เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่แสดงให้เห็นถึงอารยธรรมโบราณ โดยอะโครโพลิสเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่สร้างอยู่ตามแนวเทือกเขาที่ทั้งสูงและชัน ซึ่งนอกจากจะได้ดูสิ่งปลูกสร้างสมัยโบราณแล้ว ยังได้ตื่นเต้นไปกับการเดินลัดเลาะบนเทือกเขาสูงอีกด้วย
อันดับ 8 หมู่เกาะกาลาปาโกส ประเทศเอกวาดอร์
เป็นหมู่เกาะที่คงความธรรมชาติไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะเกาะกาลาปาโกสเป็นแหล่งรวมรวมสัตว์ถึง 9,000 สายพันธุ์ และส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ที่หาชมได้ยากอีกด้วย เอกลักษณ์ของหมู่เกาะนี้คือ หินที่เกิดจากการสะสมตัวของลาวา จึงทำให้ดูแปลกตากว่าหาดทรายขาวทั่วไป
อันดับ 7 อุทยานแห่งชาติเกอเรเม คัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี
เอกลักษณ์ของที่นี่คือ แนวหินประหลาดที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 3 ล้านปีที่แล้ว ทำให้แนวหินที่มีลักษณะแปลกตา แถมยังมีมีรูปร่างเป็นโพรงซึ่งในปัจจุบันมีคนนำมาสร้างเป็นถ้ำที่พักอาศัยสำหรับนักท่องเที่ยว ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังแถมยังติดอันดับสถานที่ที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย
อันดับ 6 เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ ประเทศออสเตรเลีย (Great Barrier Reef)
สถานที่นี้โดดเด่นด้วยแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก โดยมีความยาวกว่า 2,000 กิโลเมตร และเป็นที่รวบรวมสิ่งมีชีวิตทั้งสัตว์น้ำและปะการังหายากในทะเลมากมาย เหมาะกับผู้ที่นิยมดำน้ำชมปะการังอย่างยิ่ง
© รูปต้นฉบับ: australiangeographic
Advertisements
อันดับ 5 น้ำตกอีกวาซู ประเทศบราซิลและอาร์เจนติน่า
น้ำตกอีกวาซู จัดว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีขนาดใหญ่กว่าน้ำตกไนแอการาประมาณ 30 เท่าและมีแนวน้ำตกยาวออกไปถึง 4 กิโลเมตร หากใครได้ไปเที่ยวน้ำตกอีกวาซู จะสามารถได้ยินเสียงน้ำตกดังไปไกลถึง 24 กิโลเมตรทีเดียว
© รูปต้นฉบับ: rainforestcruises
อันดับ 4 มง แซ็ง มิแชล ประเทศฝรั่งเศส (Mont Saint-Michel)
วิหารของฝรั่งเศสแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำ แถมยังมีความสวยงามแปลกตาเป็นอย่างมาก ด้วยศิลปะแบบโกธิก ที่มียอดของวิหารสูงอยู่กลางเกาะ ซึ่งเรียกกันว่า ยอดมหัศจรรย์ ทำให้สถานที่นี้มีสเน่ห์และหาชมได้ยากยิ่ง
อันดับ 3 มหาพีระมิดแห่งกีซา ประเทศอิยิปต์
เป็นพีระมิดที่เก่าแก่และใหญ่โตที่สุดในบรรดาพีระมิดทั้งหมดของอียิปต์ เชื่อกันว่ามีอายุมากกว่า 4,600 ปี โดยเสน่ห์ความยิ่งใหญ่และความลึกลับสไตล์อียิปต์นี้ ควรต้องหาโอกาสชมของจริงสักครั้งในชีวิต
© รูปต้นฉบับ: nationalgeographic
อันดับ 2 เกาะราปานูอี ประเทศชิลี
เอกลักษณ์ของเกาะราปานูอีแห่งนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเกาะ แต่เป็นรูปปั้นโมอาย ซึ่งเป็นหินสลักรูปคนขนาดใหญ่ วางเรียงรายกัน 15 ตัวบริเวณใกล้ชายฝั่ง และอีกหลายตัวที่กระจายไปทั่วเกาะแห่งนี้ โดยแต่ละตัวมีความสูงประมาณ 3.5 เมตร และมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 20 ตัน ซึ่งยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ว่ารูปปั้นเหล่านี้เกิดขึ้นจากอารยธรรมของเผ่าใดหรือในสมัยไหน
อันดับ 1 อุทยานแห่งชาติเยลโลว์ สโตน ประเทศสหรัฐอเมริกา
เยลโลว์ สโตนถือเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของโลก ซึ่งตั้งอยู่ในที่ราบสูงบนเทือกเขาร็อคกี้ โดยสถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้เกิดร่องรอยของชั้นหินละลายที่เป็นสีสันสวยงามมหัศจรรย์ แถมยังเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำร้อนมากกว่า 10,000 แห่งอีกด้วย
Advertisements