5 บริษัทชั้นนำสุดครีเอทีฟ กับวัฒนธรรมองค์กรสนุกๆ น่าเลียนแบบ

วัฒนธรรมองค์กรเปรียบก็คือแนวทางที่ช่วยกำหนดความคิด ค่านิยม รวมทั้งการกระทำของทุกคนในองค์กรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งหมดก็เพื่อให้สอดคล้องไปถึงอนาคตข้างหน้าอีกด้วย ซึ่งก็ถือเป็นรากฐานสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะทำให้บริษัทประสบความความสำเร็จ UndubZapp ก็เลยจะพาไปตามดู วัฒนธรรมองค์กร ของ 5 บริษัทชั้นนำสุดครีเอทีฟ แต่ละบริษัทเขามีแนวคิดที่ยอดเยี่ยม และสามารถนำไปปรับใช้ในองค์กรอื่นๆ ตามได้อย่างไรบ้าง…

 

1. Netflix

น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก Netflix (แพลตฟอร์ม) ดูหนังสตรีมมิ่งออนไลน์อันดับหนึ่งของโลก ซึ่งจริงๆ แล้ว บริษัท Netflix เริ่มต้นมาจากบริการให้เช่า DVD ผ่านการส่งพัสดุ แต่เมื่อธุรกิจซบเซาลง รีด แฮสติงส์ ผู้ก่อตั้งเน็ตฟลิกซ์  จึงปรับรูปแบบธุรกิจโดยเปิดให้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ออนไลน์ กว่าจะประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ วัฒนธรรมองค์กรถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดย Netflix มีวัฒนธรรมที่น่าปรับใช้ตามได้ 5 อย่าง คือ 1. ส่งเสริมให้พนักงานได้ตัดสินใจด้วยตัวเองอย่างมีอิสระ 2. ทุกข้อมูลต้องเปิดเผยอย่างกว้างขวางและเท่าเทียม  3. ต้องวิจารณ์กันต่อหน้า ห้ามพูดลับหลัง  4. เก็บแต่คนที่ทำงานเก่งไว้เท่านั้น  5. มีกฎระเบียบให้น้อยที่สุด  ตัวอย่างคือ ความอิสระของพนักงานเน็ตฟลิกซ์ สามารถลาพักร้อนเมื่อไรก็ได้ไม่มีเวลากำหนด เพราะบริษัทเชื่อว่าเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวของทุกคน ผสมเป็นส่วนเดียวกันอยู่แล้ว ฉะนั้นเขาไม่สนใจว่าคนจะทำงานมากน้อยแค่ไหน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ต้องออกมายอดเยี่ยม

 

2. Google

Google ถือเป็นบริษัทชั้นนำ ที่ทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเว็บไซต์ google บริษัทเสิร์ชเอนจินรายใหญ่ของโลกอย่างแน่นอน ทางบริษัทใช้แนวคิดแบบ Startup ตั้งแต่แรกเริ่มทำให้เติบโตรวดเร็ว และที่สำคัญมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีเยี่ยมอันดับต้นๆ ที่ควรเอาเป็นแบบอย่างมากก็คือ ความโปร่งใสภายใน ซึ่งในวันแรกของการทำงานพนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงโค้ดๆ ต่างของ Google ได้แทบทั้งหมดเลย  ซึ่งนอกจากนั้นยังสามารถดูเป้าหมายจุดประสงค์ของตัวเอง และคนอื่นในบริษัทได้ด้วย อย่างการให้อิสระพนักงานแต่งกายแบบฟรีสไตล์มาทำงานก็ด้วย มีหลายคนเข้าใจว่ากูเกิลเน้นความหรูหราแน่นอน แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่กูเกิลพยายามสร้างขึ้นคือ “บรรยากาศแบบมหาวิทยาลัย” ซึ่งนักศึกษาใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยเกือบตลอดเวลา กูเกิลมองว่าถ้า smart creative อยากมาทำงานในสถานที่แบบนี้ พวกเขาก็จะยินดีใช้เวลาอยู่ในที่ทำงานอยู่กับเพื่อนร่วมงานมากขึ้น  ที่สำคัญบริษัทมีช่วงรีแลกซ์ให้ ทุกวันศุกร์ เป็นกิจกรรมพิเศษ TGIF พนักงานทุกคนจะต้องปิดคอมพิวเตอร์ใน เวลา 16.00 น. แล้วหันมาทำกิจกรรมสังสรรค์กับเพื่อนๆ รวมทั้งเปิดโอกาสถามตรงถึงผู้บริหารได้โดยตรงด้วย

 

3. Starbuck

บริษัท Starbuck (สตาร์บัคส์) จัดเป็นผู้คั่วบดกาแฟและผู้ค้าปลีกกาแฟคั่วพิเศษระดับพรีเมียมของโลก ที่สำคัญไม่ได้มีเพียงจุดเด่นอยู่ที่กาแฟเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งความรู้สึกผูกพันอีกด้วย เป็นองค์กรที่เปี่ยมไปด้วยการบริการ เน้นให้ลูกค้าคือหัวใจหลักขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการจดจำชื่อลูกค้า หรือการสร้างรอยยิ้ม ก็ถือเป็นจุดเด่นๆ ในเรื่องความใส่ใจในการบริการของ Starbuck นับว่ากินขาดคู่แข่ง ที่สำคัญเลยวัฒนธรรมของ Starbuck นั้นมีเป้าหมายให้พนักงานทุกคนรู้สึกถึงการเป็นเจ้าของร้านร่วมกัน สร้างทัศนคติแบบ Pro-Active ให้กับพนักงาน สร้างนิสัยที่หากเห็นว่าสิ่งใดเป็นผลดีต่อร้าน ก็จะทำโดยทันทีไม่ต้องรอสั่งการ โดยวัฒนธรรมขององค์กร Starbuck มี 4 องค์ประกอบ ดังนี้ค่ะ 1. การคัดเลือกพาร์ทเนอร์ 2. การเรียนรู้และวัฒนธรรมขององค์กร 3. การเรียนรู้ 4. การมีส่วนร่วมในพาร์ทเนอร์

Advertisements

 

4. Facebook

ความใส่ใจในวัฒนธรรมองค์กร ทำให้ Facebook ได้รับการจดจำในฐานะบริษัทเทคโนโลยีอันดับ 1 ที่น่าทำงานด้วยมากที่สุด วัฒนธรรมองค์กร ทำให้ Facebook มีความแตกต่าง ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลกด้วยกัน แต่ยังไม่เคยละเลยวัฒนธรรมเลยแม้ความเครียดในการแข่งขันจะสูง  ทางบริษัทจึงจัดสรรสถานที่ให้เกิดความผ่อนคลายแก่พนักงาน โดยสร้างพื้นที่เอาท์ดอร์เพื่อพักผ่อน และยังมีสถานที่ทำงานแบบเปิด ที่ขาดไม่ได้คือพยายามสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อที่เข้าถึงระดับผู้บริหารให้ง่ายขึ้น และนี่ก็คือ  5 วัฒนธรรม ที่ Lori Goler ผู้บริหารด้านทรัพยากรมนุษย์ (Vice President of People) ของ Facebook ให้สัมภาษณ์เอาไว้กับ Glassdoor  คือ 1. ใส่ใจและใช้เป้าหมายเป็นตัวตั้ง  2. ผู้บริหารต้องสนับสนุน 3. ดึงสิ่งที่ดีที่สุดในตัวคนออกมาให้ได้ 4. สนับสนุนให้ทุกคนทำงานด้วยวิธีการของตัวเอง 5. ใส่ใจพนักงาน ทั้งในและนอกเรื่องงาน

 

5. Uniqlo

uniqlo(ยูนิโคล่) แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยแท้  uniqlo จัดเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่ใหญ่เป็น อันดับ 4 ของโลก กว่าจะเติบโตและแข็งแกร่ง uniqlo ได้ผสานวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ให้แก่พนักงานกว่า 1,000 คน โดยการปฏิวัติแนวทางจากธุรกิจเสื้อผ้าทั่วไป สู่การดำเนินการทางเทคโนโลยีที่มากขึ้น แต่กว่าจะลงตัวประสบความสำเร็จ เป็นแบรนด์ดังติดอันดับโลกได้ขนาดนี้ บริษัทก็มีหลักวัฒนธรรมองค์กรอยู่ 5 ประการ ที่องค์กรอื่นๆ สามารถนำไปเป็นแนวทางได้ดี ดังนี้ค่ะ  1. จุดยืนในตลาดชัดเจน 2. สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ  3. ต้นทุนต่ำเพราะยุทธศาสตร์การจัดการ 4. การบริหารงานมีความเป็นเอกลักษณ์ 5. วิธีบริหารงานร้าน และยิ่งไปกว่านั้นคือทางบริษัทวางเป้าหมายว่าต้องการเพิ่มยอดขายให้ได้ถึงห้าหมื่นล้านภายใน ปี 2020 และที่สำคัญต้องการเป็นร้านเสื้อผ้าอันดับ 1 ในอนาคตอีกด้วย

กดติดตาม ADD Line @UndubZapp

Advertisements

Advertisements

Advertisements