ผักเป็นอาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายนานาชนิด แต่ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคกังวลคือสารเคมีตกค้างในผัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และก่อให้เกิดโทษแก่ร่างกาย UndubZapp จึงอยากอาสาพาทุกๆ คนมาหาคำตอบว่าผักชนิดใดจัดเป็นผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด เพื่อที่ผู้บริโภคจะได้เพิ่มความระมัดระวังก่อนการกินผักชนิดๆ นั้นๆ ไปดูกันค่ะ!
4 สารพิษตกค้าง อันตรายที่ต้องระวังจากการรับประทานผัก
-
คาร์โบฟูราน (Carbofuran)
พบมากในพืชไร่ เช่น แตงโม แตงกวา ข้าวโพด ถั่วเหลือง
หากร่างกายได้รับสารดังกล่าวมากเกินไป อาจส่งผลให้อาเจียน มองไม่ชัด สูญเสียการทรงตัว
-
เมโทมิล (Methomyl)
พบมากในกะหล่ำปลี หัวหอม มะเขือเทศ
หากร่างกายได้รับสารดังกล่าวมากเกินไป อาจส่งผลให้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เป็นพิษต่อม้าม
-
ไดโครโตฟอส (Dicrotophos)
พบมากในข้าว ผักกาดหัว ถั่วฝักยาว คะน้า ถั่วลิสง
หากร่างกายได้รับสารดังกล่าวมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดเนื้องอก มือเท้าอ่อนแรง เป็นพิษต่อไต
-
อีพีเอ็น (EPN)
พบมากในข้าวโพด พืชผักตระกูลแตง
หากร่างกายได้รับสารดังกล่าวมากเกินไป อาจส่งผลให้ไอ แน่นหน้าอก ปอดบวม ทำลายระบบประสาท
15 ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด ควรปรุงสุกก่อนกิน
ผลวิเคราะห์จากการสุ่มตรวจสารตกค้างในผักจากแปลงและแหล่งจำหน่ายพบว่า ผักที่อยู่ในกลุ่มผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด ยังคงตรวจพบสารตกค้างอยู่บ่อยครั้ง ผู้บริโภคจึงควรล้างผักให้สะอาด และปรุงสุกก่อนกิน ผักที่พบสารตกค้างเกินค่ามาตรฐาน ได้แก่
Advertisements
-
กะเพรา
-
กะหล่ำปลี
-
กวางตุ้ง
-
ต้นหอม
-
คะน้า
-
ถั่วฝักยาว
-
พริก
-
ผักกาดขาว
-
ผักกาดหอม
-
ผักชี
-
ผักบุ้ง
-
มะเขือ
-
มะเขือเทศ
-
หอมหัวใหญ่
-
แตงกวา
วิธีล้างผักให้สะอาดปลอดสารพิษ
-
ล้างผักด้วยเกลือ (ลดสารเคมีตกค้างได้ 27 – 38%)
ใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 4 ลิตร
แช่ผักทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
-
ล้างผักด้วยน้ำส้มสายชู (ลดสารเคมีตกค้างได้ 29 – 38%)
ใช้น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 4 ลิตร
แช่ผักทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
-
ล้างผักด้วยด่างทับทิม (ลดสารเคมีตกค้างได้ 35 – 45%)
ใช้ด่างทับทิม 20 – 30 เกล็ด ผสมกับน้ำ 4 ลิตร
แช่ผักทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
-
ล้างผักด้วยเบกกิ้งโซดา (ลดสารเคมีตกค้างได้ 80 – 95%)
ใช้เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 10 ลิตร
แช่ผักทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
©Resource : กรมวิชาการเกษตร
©Feature image : Pexels
Advertisements