เชื่อว่ายังมีอีกหลายๆ คนบนโลกที่มีอาการ “บ้างาน” ไม่สามารถหยุดสมองจากการทำงานหรือคิดเรื่องงานได้ อารมณ์ประมาณว่าเลิกงานแล้ว แต่ก็ยังกังวลเรื่องงานไม่รู้จักจบจักสิ้น การบ้างานไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตัวเองในระยะยาว การรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอยู่หรอก แต่มันจะไม่ใช่เรื่องดีถ้าคุณทำงานมากจนไม่มีเวลาพักผ่อนเลย ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีอาการข้างต้นนี้ รีบตาม UndubZapp มาด่วนๆ เลย ไปดูพร้อมๆ กันว่าจะลด ละ เลิก อาการบ้างานได้อย่างไรบ้าง
1. ไม่รับประทานอาหารที่โต๊ะทำงาน
บางครั้งเวลามีงานชุก หลายๆ คนเลือกที่จะนั่งรับประทานอาหารมันที่โต๊ะทำงานนี่แหละ พอนั่งอยู่ตรงที่นั่งทำงานประจำแล้ว เวลากินข้าวก็จะต้องเห็นงานกองโตตรงหน้าไปด้วย ทีนี้เหล่าคนบ้างานทั้งหลายก็เลยอดไม่ได้ที่จะตักข้าวคำ แล้วเคี้ยวข้าวไปทำงานไปด้วย ดังนั้น แทนที่ช่วงพักกลางวันอันแสนมีค่า คุณจะได้พักสมองให้ปลอดโปร่งจากเรื่องเครียดเสียหน่อย ก็กลับกลายเป็นว่าต้องมานั่งทำงานต่อเนื่องไปอีก ทางที่ดีคือให้ไปกินอาหารที่โรงอาหาร หรือถ้าเป็นไปได้ก็ออกจากตึกทำงานไปหาร้านอาหารบริเวณใกล้เคียงก็ยิ่งดี เพราะนอกจากจะได้หยุดคิดเรื่องงานแล้ว ยังได้เดินออกกำลังกายอีกด้วย การได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับตัวเอง (แม้เพียง 5 นาที) จะช่วยให้สมองของคุณปลอดโปร่ง ทั้งยังกระตุ้นประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย
2. ไม่เอางานกลับบ้าน
จริงอยู่ว่าเราทุกคนทำงานเพื่อ “เงิน” เพื่อหาเลี้ยงปากท้องตัวเองด้วยกันทั้งนั้น และเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต เราจึงต้องตั้งใจทำงานตามที่รับมอบหมายให้ได้ดีที่สุด แต่การที่เราเอาแต่คิดว่าต้องทำงานเพื่อเงินๆ จนถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ และต้องแบกงานกลับไปทำที่บ้าน เพราะมัวแต่กังวลว่าถ้าทำงานไม่เสร็จ เงินก็จะไม่เข้ากระเป๋านั้น มันไม่ได้ช่วยให้งานของคุณเสร็จไวขึ้นเลยแม้แต่น้อย แล้วการเอางานกลับไปทำที่บ้านก็ทำให้คุณมีภาระหน้าที่เพิ่มขึ้น ปวดหัวขึ้นอีกด้วย ทุกบริษัทบอกชั่วโมงการทำงาน เวลาเข้างานออกงานที่ชัดเจน ถ้าคุณอยากแสดงประสิทธิภาพในการทำงานให้หัวหน้าเห็น ทำให้เต็มที่ในชั่วโมงทำงานตามที่บริษัทกำหนดก็พอแล้ว เวลานอกเหนือจากนั้น คุณต้องให้ร่างกายตัวเองได้พักผ่อนบ้าง
Advertisements
3. ไม่อยู่แต่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์
คงเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ใช้คอมพิวเตอร์ในที่ทำงาน เพราะงานของคนส่วนใหญ่ก็ล้วนต้องพึ่งพาอาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น หากว่าคุณต้องใช้ชีวิตอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน ขอแนะนำให้คุณพักสายตาทุกๆ 1-2 ชั่วโมง โดยละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ แล้วมองออกไปไกลๆ หรือหลับตาสักระยะหนึ่งแทนก็ได้ นอกจากจะช่วยถนอมสายตาแล้ว คุณยังได้มีเวลาพักผ่อนทำสมาธิกับตัวเองด้วย อีกทั้งการอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน ยังทำให้คุณจำเป็นต้องทำงานอยู่ตลอด เมื่อสแตนด์บายอยู่หน้างาน ก็เป็นเรื่องยากที่จะไม่กดเข้าไปเช็กอีเมลจากลูกค้า หรือรับงานจากหัวหน้า จำไว้ว่าคุณเป็นคน ไม่ใช่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คุณจึงต้องการการพักผ่อน ผ่อนคลายความตึงเครียดจากเรื่องงานบ้าง ถ้ามีเวลาว่างก็ลองหันไปทำกิจกรรมอื่นนอกเหนือจากการอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ คุณจะได้หยุดคิดเรื่องงานเสียที
แซ่บกันต่อ…
>> แข่งกับตัวเองให้หนักที่สุด!! 10 กฏการใช้ชีวิต ประสบความสำเร็จแบบ Oprah Winfrey
>> เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด!! 5 เคล็ดลับ “ปฏิเสธงานเพิ่ม” เซโนว์รักษาน้ำใจ
Advertisements