หลายคนรู้ดีว่าการทำสมาธิเป็นสิ่งที่ดี เพราะนอกจากจะช่วยให้การเรียนและการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว การทำสมาธิยังช่วยลดความดันเลือด ลดความตึงเครียดและความกังวล แถมยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่หากคุณเป็นคนที่หน้าที่การงานรัดตัว แม้จะหาเวลาพักผ่อนยังไม่ได้ คงมีคำถามว่าจะหาเวลาทำสมาธิได้อย่างไร
โชคดีที่ว่า ความจริงแล้วการทำสมาธิไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากขนาดนั้นค่ะ แถมไม่จำเป็นต้องใช้เวลาที่ยาวนานเป็นชั่วโมงเสมอไป เพราะคุณสามารถทำสมาธิควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตประจำวันได้ โดย UndubZapp ขอแอบกระซิบเรียกน้ำย่อยว่า แม้แต่ตอนแปรงฟันเรายังทำสมาธิได้เลยค่ะ
1. หลังนาฬิกาปลุก
เลือกเสียงนาฬิกาปลุกที่เป็นเสียงนุ่มนวล ในตอนเช้าเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกแล้ว ให้คุณใช้เวลาฟังเสียงนั้นอยู่สักสองนาที หายใจเข้าออกช้าๆ ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าสัมผัสสิ่งรอบตัว ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ
2. ขณะดื่มน้ำแก้วแรกของวัน
คุณควรดื่มน้ำหลังตื่นนอนเสมอ ขณะดื่มให้รู้สึกถึงสัมผัสของแก้วที่อยู่ในมือ หายใจเข้าออกช้าๆ รู้สึกถึงน้ำที่ค่อยๆ ไหลผ่านลำคอลงไปในท้องของคุณ โดยวิธีนี้สามารถนำไปใช้เวลาที่คุณกำลังดื่มเครื่องดื่มหรือกาแฟได้ด้วยค่ะ
3. ขณะถอดหรือใส่เสื้อผ้า
ขณะใส่หรือถอดเสื้อผ้า ให้คุณอยู่กับปัจจุบันและสัมผัสทุกการกระทำที่กำลังทำอยู่ เช่น สัมผัสของเนื้อผ้ากับผิวหนัง กลิ่นของเสื้อผ้าใหม่ เพื่อดึงให้คุณอยู่กับปัจจุบันขณะให้มากที่สุด
4. ขณะอาบน้ำ
สัมผัสถึงความอุ่น หรือ ความเย็นของน้ำที่มากระทบกับผิวหนัง สัมผัสกับกลิ่นสบู่และยาสระผมที่มากกระทบจมูก และเสียงของน้ำไหลซึ่งจะช่วยให้คุณมีสมาธิและรู้สึกผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน
5. ขณะเดินไปเดินมา
คุณไม่จำเป็นต้องเดินช้าเหมือนการเดินจงกลม แต่ขณะที่เดินตามปกติ ให้มีสติรับรู้ถึงแต่ละก้าวย่าง เพราะนอกจากจะเป็นการฝึกสมาธิแล้ว ยังทำให้คุณไม่เดินสะดุดล้มอีกด้วย
6. ขณะแต่งหน้า
การทำสมาธิระหว่างแต่งหน้า เป็นการเตรียมสมองของคุณให้พร้อมต่อการทำงานในระหว่างวัน ด้วยการรับรู้ถึงสัมผัสต่างๆ ของเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นแปรงแต่งหน้า ฟองน้ำ หรือลิปสติก แถมสมาธิยังช่วยให้คุณแต่งหน้าได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
Advertisements
7. ขณะทำอาหาร
การทำสมาธิระหว่างการทำอาหารจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และทำให้อาหารอร่อยขึ้น โดยการมีสติในทุกจังหวะ ใช้จมูกและลิ้น สัมผัสถึงกลิ่นและรสชาติอย่างเต็มที่ จะทำให้มีความเพลิดเพลินในการทำอาหารมากขึ้นด้วย
8. ขณะเดินขึ้นลงบันได
คุณสามารถทำสมาธิระหว่างขึ้นลงบันไดได้ด้วยการนับจังหวะในการก้าวย่าง และสังเกตการทำงานของกล้ามเนื้อในร่างกายส่วนต่างๆ ซึ่งช่วยให้คุณรู้สึกเหนื่อยน้อยลงด้วยค่ะ
9. ขณะได้รับคำชม และขณะพูดขอบคุณ
อย่าปล่อยให้ความดีใจเวลาได้รับคำชมผ่านไปง่ายๆ นะคะ ลองรับรู้สึกปฏิกิริยาของร่างกายตัวเองเมื่อได้รับคำชม รวมทั้งอารมรณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับการพูดขอบคุณที่ให้รู้สึกขอบคุณจากภายในและรู้สึกถึงเหตุผลในการขอบคุณนั้นจริงๆ
10. ขณะขับรถ
แน่นอนว่าการขับรถต้องใช้สติและสมาธิอย่างมาก เพราะต้องโฟกัสกับรถและสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องถนนตลอดเวลา ซึ่งการทำสมาธิจดจออยู่กับปัจจุบันจะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างปลอดภัย
11. ขณะนั่งรอ
อย่าปล่อยให้เวลาเสียเปล่าไปด้วยการเล่นโทรศัพท์ หากคุณจำเป็นต้องใช้เวลานั่งรออะไรบางอย่าง ให้ถือโอกาสนี้เป็นการนั่งสมาธิ หายใจเข้าออก และจดจ่ออยู่กับลมหายใจของตัวเอง
12. ขณะวิ่ง
คุณไม่จำเป็นต้องแยกการออกกำลังกายกับการนั่งสมาธิออกจากกัน ในเมื่อทั้งสองอย่างนี้สามารถไปด้วยกันได้ ด้วยการออกกำลังกายพร้อมกับการบริหารลมหายใจไปพร้อมกันค่ะ
13. ขณะรับประทานอาหารคำแรก
การสัมผัสถึงรสชาติของอาหารในปาก และการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน นอกจากจะทำให้คุณมีสมาธิแล้ว ยังทำให้คุณได้รับรู้ถึงรสชาติอาหารอย่างเต็มที่ แถมยังได้สำรวจตัวเองอย่างมีสติว่าคุณอิ่มแล้วหรือยัง เพื่อป้องกันการทานอาหารมากเกินไป
14. ก่อนนอน
การทำสมาธิก่อนนอนจะทำให้คุณหลับได้ง่าย และหลับสนิท โดยให้คุณนอนหลับตาพร้อมสัมผัสถึงส่วนต่างๆ บนร่างกาย หายใจเข้าออกช้าๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้หลับได้ในเวลาไม่นาน และตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นค่ะ
Advertisements