หากจะพูดถึงกระแสละครย้อนยุคที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ซึ่งนอกจากจะเป็นละครโรแมนติกคอเมดี้ สนุกครบรสแล้ว ละครเรื่องนี้ยังแฝงไว้ด้วยความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรและตำรับยาแผนโบราณของไทยอีกด้วย ซึ่งกระแสของละครนั้น ทำให้หลายคนหันมาสนใจศึกษาถึงสรรพคุณของสมุนไพรไทยกันมากขึ้น โดยเฉพาะชื่อสมุนไพรที่ปรากฏอยู่ในละคร โดยต้องขอบอกเลยว่า บางชนิดกินอยู่ทุกวัน เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นยาสมุนไพร โดยเฉพาะ 7 อันดับสมุนไพรที่ UndubZapp นำมาฝากนี้ เรียกได้ว่าเป็นรายชื่อสมุนไพรจากละครทองเอกที่หาไม่ยาก แต่สรรพคุณการรักษารอบด้านเลยทีเดียว โดยจะมีสมุนไพรชนิดไหนและรักษาโรคอะไรได้บ้างนั้น เราไปตามรอยหมอยาทองเอกกันค่ะ
7. ตำลึง
ถือเป็นสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่คนส่วนใหญ่รู้จักในนามผักข้างรั้วมากกว่าการเป็นยารักษาโรค แต่นอกจากจะสามารถนำมาทำต้มจืดเต้าหู้หมูสับได้แล้ว ใบตำลึงยังถือเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น สามารถช่วยดับพิษร้อนจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ ด้วยการขยี้ใบตำลึงแล้วนำมาประคบผิว เพื่อช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนและอาการคัน แต่มีเคล็ดลับว่าต้องล้างใบตำลึงให้สะอาด และหมั่นเปลี่ยนใบที่ใช้ประคบบ่อยๆ ด้วยค่ะ
6. โทงเทง
ถือเป็นสมุนไพรที่ไม่คุ้นชื่อเท่าใดนัก ซึ่งหลายคนอาจเพิ่งเคยได้ยินชื่อสมุนไพรชนิดนี้เป็นครั้งแรกจากช่วงต้นๆ ของละคร โดยโทงเทงนั้น จัดเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่ามีสรรพคุณหลากหลาย ตั้งแต่การบรรเทากระหาย แก้ร้อนใน ถอนพิษไข้ ไปจนถึงการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ ปอด ตับ และอาการดีซ่าน ถือเป็นสมุนไพรอันดับ 6 ที่มีสรรพคุณรอบด้านทีเดียว
5. ว่านหอมแดง
หลายคนอาจสับสนระหว่างหอมแดงที่มีไว้สำหรับทำอาหาร และว่านหอมแดงที่เป็นสมุนไพร ซึ่งความจริงแล้วเป็นพืชคนละชนิดกัน โดยว่านหอมแดงนั้นจะมีลักษณะหัวที่เรียวยาวกว่า ถือเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลายได้ ทั้งการขับลม แก้หวัดคัดจมูก เป็นยาขับปัสสาวะ ยาแก้ริดสีดวงทวาร นอกจากนี้ น้ำจากหัวของว่านหอมแดงยังถูกใช้เป็นยาทาแก้แมลงสัตว์กัดต่อยได้อีกด้วย
4. ฝาง
หากพูดถึงฝาง หลายคนอาจนึกภาพไม่ออกว่าเป็นสมุนไพรชนิดไหน แต่หากรู้ว่าฝางนั้นคือส่วนผสมหลักของน้ำยาอุทัย เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ต้องคุ้ยเคยกันดีอย่างแน่นอน โดยนอกจากน้ำต้มฝางที่มีลักษณะเป็นสีแดงสดจะถูกนำมาใช้แต่งแต้มสีสันบนใบหน้ามาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว น้ำฝางยังมีฤทธิ์แก้ร้อนใน บำรุงหัวใจ บำรุงเลือด ซึ่งการดื่มน้ำฝางเย็นๆ ยังช่วยเพิ่มความสดชื่น คลายร้อน ถือเป็นน้ำสมุนไพรที่เหมาะกับการดื่มในช่วงหน้าร้อนนี้สุดๆ ค่ะ
Advertisements
3. บอระเพ็ด
เชื่อว่าเมื่อเอ่ยถึงชื่อบอระเพ็ด หลายคนอาจรู้สึกถึงความขมทั้งที่ยังไม่ได้ลองอมดูสักครั้ง แต่แน่นอนว่า หวานเป็นลมขมเป็นยา ดังนั้น ความขมของบอระเพ็ดจึงทำให้สมุนไพรชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเข้มข้นเลยทีเดียว สำหรับเถาหรือลำต้นของบอระเพ็ดนั้น เป็นยาสมุนไพรโบราณที่นิยมนำมาใช้ลดอาการไข้ชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไข้มาลาเรีย ไข้ทรพิษ รวมทั้งเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ขณะที่ใบของต้นบอระเพ็ดจะถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรในการปรับสมดุลของร่างกาย บำรุงธาตุเพื่อให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส แถมยังสามารถแก้โรคผิวหนังและผดผื่นคันได้ด้วยค่ะ
2. บัวหลวงสีขาว
บัวหลวงถือเป็นดอกไม้ที่อยู่คู่คนไทยมานาน และจะถูกนำมาใช้เป็นดอกไม้ไหว้พระเสียส่วนใหญ่ แต่หากใครได้ดูทองเอกจะจำได้ว่า มีฉากหนึ่งที่พระนางไปพายเรือหาดดอกบัวหลวงสีขาวเพื่อนำมาทำเป็นยาแก้ปวดหัวกัน โดยหมอยาของเรายังย้ำว่าต้องเป็นดอกที่ใกล้จะบานแล้วเท่านั้น ซึ่งตามข้อมูลแล้ว เกสรของดอกบัวจะมีสรรพคุณสรรพคุณแก้อาการปวดหัว ปวดท้ายทอย วิงเวียน หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม โดยปัจจุบันยังถูกนำมาเป็นส่วนผสมของยาหอมอีกด้วย
1. ใบฟ้าทะลายโจร
เชื่อว่า ฟ้าทะลายโจร จะต้องเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ทุกคนรู้จักดี และยังคงได้รับความนิยมสมกับเป็นสมุนไพรอันดับ 1 เนื่องจากสรรพคุณที่ช่วยบรรเทาอาการไข้ อาการเจ็บคอจากโรคหวัดอย่างได้ผล ซึ่งในสมัยนี้การรับประทานฟ้าทลายโจรเพื่อรักษาหวัดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ เพราะปัจจุบันได้มีการทำมาสกัดเป็นผงและบรรจุในแคปซูลเพื่อความสะดวกในการรับประทาน อย่างไรก็ตาม การรับประทานฟ้าลายโจรนั้นมีข้อควรระวัง โดยไม่ควรทานติดต่อกันเกิด 3 วัน รวมทั้งห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์อีกด้วย
Advertisements