15 สรรพคุณ ว่านหางจระเข้ รักษาสิวฝ้า ลดรอยแตกลาย บรรเทาริดสีดวง

สมุนไพรใกล้ตัวสุดเจ๋งที่คนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดี คงหนีไม่พ้น “ว่านหางจระเข้” ไม้ล้มลุก ใบหนา อวบน้ำ ข้างในเป็นเนื้อวุ้นใสๆ สีเขียวอ่อน อุดมไปด้วยสารสำคัญนานาชนิด ใครที่ยังไม่รู้ว่าว่านหางจระเข้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ขอเชิญมาเปิดโพย 15 สรรพคุณว่านหางจระเข้กับ UudubZapp ตามเรามาดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะว่าสมุนไพรยอดฮิตชนิดนี้มีประโยชน์ด้านใดบ้าง

 

 

ว่านหางจระเข้ ช่วยอะไร?

 

1.รักษาสิวฝ้า

ว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ช่วยรักษาสิวฝ้า แผลสดภายนอก ลดความมันบนใบหน้า และยับยั้งการติดเชื้อได้เป็นอย่างดี เพียงนำวุ้นในใบสดว่านหางจระเข้มาล้างด้วยน้ำสะอาด ฝานบางๆ แล้วทาผิว หรือปิดวุ้นลงบนผิวหนัง จะรักษาอาการดังกล่าวได้

 

2.บรรเทาผิวไหม้แดด

ใบว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ฝาดสมาน สามารถนำมาผสมกับน้ำมันพืช ทาก่อนออกแดด เพื่อปกป้องผิวจากการถูกแดดเผา บรรเทาผิวไหม้แดด รวมถึงผิวที่ไหม้จากการฉายแสงได้ โดยนำวุ้นว่านหางจระเข้มาทาผิวหนังบ่อยๆ อาการอักเสบจะทุเลาตามลำดับ

 

3.บำรุงผมดกดำเงางาม

วุ้นจากใบว่านหางจระเข้สดทำให้รากผมเย็น มีฤทธิ์สมานแผลบนหนังศีรษะ ส่งผลให้ต่อมที่รากผมมีสุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆ เพียงชโลมผมทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วล้างออก ผลลัพธ์ที่ได้คือผมดกดำ เงางาม เส้นผมพลิ้วสลวย ลดปัญหาผมร่วง ศีรษะล้าน

 

4.เติมน้ำให้ผิว

หากนำวุ้นว่านหางจระเข้มาบำรุงผิวพรรณ ทั้งผิวหน้าและผิวกาย จะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ชะงัด เพียงแค่ใช้วุ้นจากใบว่านหางจระเข้มาพอกทั่วบริเวณ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก วิธีนี้จะช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้น สดใส เต่งตึง ไร้ริ้วรอย

 

5.ลดรอยแตกลาย

ลดเลือนรอยแตกลายง่ายๆ ด้วยการใช้วุ้นว่านหางจระเข้สดมาทาบริเวณที่มีริ้วรอยแตกลาย ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด หมั่นทำเช่นนี้เป็นประจำ ทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น ผิวที่แตกลายจะค่อยๆ จางลงทีละนิดอย่างเป็นธรรมชาติ

 

6.รักษาโรคสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงินที่มีระดับความรุนแรงเล็กน้อยถึงปานกลาง รักษาให้หายได้โดยใช้ว่านหางจระเข้แบบครีมหรือแบบขี้ผึ้ง ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ลดอาการคัน ลดการตกสะเก็ด ทำให้ผิวหนังดูดีขึ้น เมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน

 

7.ทำความสะอาดบาดแผล

วุ้นว่านหางจระเข้เป็นยาฆ่าเชื้อชั้นดี สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรค ลดการอักเสบของแผลสดภายนอก แผลถลอก แผลไฟไหม้ แผลน้ำร้อนลวกได้ โดยล้างว่านหางจระเข้ให้สะอาด ฝานบางๆ นำวุ้นไปแปะตรงแผลให้มิด หยอดน้ำเมือกตรงแผลให้เปียกอยู่เสมอ

 

8.แก้โรคกระเพาะอาหาร

เมื่อนำใบว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกออกให้เหลือแต่ส่วนที่เป็นวุ้น นำไปรับประทาน วันละ 2 เวลา ในปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ/ครั้ง จะสามารถแก้อาการกระเพาะและรักษาแผลลำไส้อักเสบได้ เนื่องจากว่านหางจระเข้มีสารที่ออกฤทธิ์ขจัดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้

 

9.ใช้เป็นยาระบาย

Advertisements

น้ำยางสีเหลืองที่ไหลออกมาระหว่างผิวนอกของว่านหางจระเข้กับวุ้น มีรสขม หากนำไปเคี่ยวแล้วทิ้งไว้ให้เย็น จะได้ยาดำ ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มการบีบตัวของลำไส้ ใช้เป็นยาระบายตามตำรับยาแผนโบราณ หรือจะทานสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ชนิดแคปซูลก็ได้

 

10.บรรเทาริดสีดวง

บรรเทาริดสีดวงทวารง่ายๆ ด้วยการนำว่านหางจระเข้มาปอกส่วนนอกของใบ เหลาปลายให้แหลมเล็กน้อย ใช้เหน็บช่องทวาร อาจนำไปแช่ตู้เย็นให้แข็งจะทำให้สอดได้ง่าย หมั่นเหน็บวันละ 1-2 ครั้ง จนกว่าจะหาย สูตรนี้สามารถบรรเทาอาการคันได้ด้วย

 

11.แก้ปวดตามข้อ

แก้ปวดตามข้อโดยการดื่มว่านหางจระเข้ ทั้งน้ำและวุ้น หรืออาจปอกใบออกให้เหลือแต่วุ้น นำไปแช่ตู้เย็น รับประทานเย็นๆ จะช่วยให้รับประทานง่ายขึ้น โดยรับประทานวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ จะช่วยให้อาการปวดตามข้อทุเลาทันที

 

12.ลดอาการปวดไมเกรน

ลดปวดไมเกรนด้วยวิธีธรรมชาติ โดยตัดใบสดว่านหางจระเข้มาฝานบางๆ ล้างยางสีเหลืองออกให้เรียบร้อย จากนั้นนำปูนแดงมาทาที่ตัววุ้นว่านหางจระเข้ที่ฝานไว้ และนำว่านหางจระเข้ที่ทาปูนแดงไว้ประคบขมับ 5-10 นาที จะช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้

 

13.ลดเลือนจุดด่างดํา

ถ้าผิวหน้าถูกแสงแดดจนไวต่อการถูกทำร้าย หรือผิวเป็นจุดด่างดำง่าย สามารถนำวุ้นว่านหางจระเข้มาทำความสะอาด แล้วทาใบหน้าบริเวณที่มีจุดด่างดำหลังการล้างหน้า ว่านหางจระเข้จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำให้จางลง พร้อมคงความชุ่มชื้นของผิวหน้า

 

14.ป้องกันฮ่องกงฟุต

บรรเทาและป้องกันอาการฮ่องกตฟุตอันเกิดจากเชื้อรา ด้วยการนำว่านหางจระเข้ที่ล้างทำความสะอาดแล้ว ไปประคบบริเวณที่เกิดโรคฮ่องกงฟุต หรือบริเวณที่มีอาการคัน หมั่นเปลี่ยนเนื้อวุ้นบ่อยๆ ประคบอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้อาการคันหายไปในที่สุด

 

15.แก้ปวดฟัน

ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการกำจัดเชื้อโรค นำมาใช้แก้ปวดฟันได้เช่นกัน เพียงล้างว่านหางจระเข้ให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 2-3 ซม. เหน็บไว้ที่ซอกฟัน หรือใช้ไม้พันสำลีจุ่มน้ำว่านหางจระเข้ป้ายตรงจุดที่ปวด จะบรรเทาอาการปวดฟันได้ชั่วคราว

 

ว่านหางจระเข้ ข้อควรระวังที่ควรทราบ

 

  • วุ้นของว่านหางจระเข้ไม่คงตัวนัก เมื่อปอกแล้วควรใช้ให้หมดภายใน 6 ชั่วโมง
  • ไม่ควรรับประทานว่านหางจระเข้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
  • ถ้าใช้เป็นยาภายนอก ให้สังเกตอาการหลังใช้งาน หากผิวหนังแดง หรือรู้สึกเจ็บแสบ แปลว่าแพ้ว่านหางจระเข้ ให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาด และเลิกใช้ในทันที
  • ถ้าใช้เป็นยาภายใน หรือยาถ่าย ห้ามใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หญิงตั้งครรภ์ รวมถึงหญิงที่กำลังมีประจำเดือน กรณีที่เป็นริดสีดวงทวาร ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้
  • ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือด ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ไม่ควรรับประทานว่านหางจระเข้

 

 

 

 

 

©Resource : สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

©Featured image : freepik

 

 

Advertisements

Advertisements

Advertisements