หนีโลกวุ่นวาย มาซ่อนตัวลับๆ ที่ 13 หมู่บ้านเล็กๆ น่าเที่ยว ใช้ชีวิตเรียบง่าย

สายเที่ยวที่ชอบเที่ยวแบบชิล ๆ และสายธรรมชาติที่ชอบความเป็น Local นี่คือสถานที่เที่ยวในฝันของคุณ! เพราะนี่คือ 13 หมู่บ้านเล็กจิ๋วที่ขนาดเล็กแต่ทิวทัศน์ไม่เล็ก มีผู้คนท้องถิ่นอาศัยกันอยู่ไม่กี่ครัวเรือน วัฒนธรรมท้องถิ่นและธรรมชาติโดยรอบยังคงอยู่ครบถ้วน! เราจะพาคุณเดินทางไปพบกับหมู่ในหุบเขา หมู่บ้านติดชายฝั่ง และหมู่บ้านบนผาสูง ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน บางที่เราขอบอกเลยว่าสวยอลังการมาก

 

13. หมู่บ้าน Tenby, Wales

เมืองเล็ก ๆ น่ารักติดอ่าวที่เป็นปากทางออกสู่ทะเลไอริชและมหาสมุทรแอตแลนติกแห่งนี้มีชื่อ Tenby ที่แปลว่า ป้อมปราการเล็กแห่งมัจฉา เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในเวลส์ เมื่อนานมาแล้วเมืองแห่งนี้เคยถูกกำแพงสูงโอบล้อมไว้เพื่อป้องกันกบฏแห่งเวลส์ แต่ในปัจจุบันมันคือเมืองเล็ก ๆ ที่สวยงาม

 

12. Eze, France

หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีประชากรไม่ถึง 3,000 คนแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สวยงามในพื้นที่ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสอย่าง French Riviera ที่นี่คุณจะได้วิวทิวทัศน์เหนือเนินเขาที่มองเห็นน้ำสีฟ้าไกลสุดลูกหูลูกตา

 

11. Pucisca, Croatia

เกาะ Brac คือแหล่งของหินที่มีคุณภาพที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมหมู่บ้าน Pucisca จึงถูกสร้างขึ้นมา และด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันโบราณซึ่งสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพโรมันอย่างจูปิเตอร์ จึงไม่น่าแปลกใจที่หมู่บ้านแห่งนี้จะสวยงามทั้งสิ่งก่อสร้างและวิวทิวทัศน์

 

10. Morro de Sao Paulo, Brazil

หมู่บ้านแห่งนี้อาจจะเรียกได้ว่าแทบจะตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะทางเดียวที่จะเข้าถึงหมู่บ้านได้คือ ทางเรือ หรือ ทางเครื่องบิน เหตุผลหนึ่งก็เพราะ รถยนต์ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาวิ่งในเกาะแห่งนี้ ตัวหมู่บ้านตั้งอยู่บนเนินเขาของป่าไม้ที่สวยงามที่ที่คุณจะสามารถมองเห็นน้ำสีฟ้าสวยของมหาสมุทรแอตแลนติกได้อย่างชัดเจน

 

9. Shirakawa-wo Village, Japan

หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นอันเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม กสิกรรมและรูปทรงของบ้านเรือน ยิ่งไปกว่านั้นธรรมชาติโดยรอบของตัวหมู่บ้านยังเป็นหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งให้บรรยากาศและทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยม

 

8. Bibury, England

เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มักจะได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดในอังกฤษ เพราะทั้งเมืองเหมือนหยุดเวลาเอาไว้เมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสภาพบ้านเรือนหรือสภาพภูมิทัศน์โดยรอบ จนคุณเหมือนย้อนเวลากลับไปในอังกฤษยุคอดีต

 

7. Manarola, Italy

เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและบ้านเรือนสีรุ้งที่มีเสน่ห์ นี่คือเมือง Manarola ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1338 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกอย่างหนึ่งของเมืองนี้คือ ไวน์ รสเลิศที่ไม่ควรพลาด

Advertisements

 

6. Hallstatt, Austria

Hallstatt ถือเป็นหมู่บ้านผู้อพยพที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในออสเตรีย ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ 5,000 ปีก่อนคริสตกาล เพื่อสำรวจแหล่งเกลือธรรมชาติและหุบเขาในบริเวณนั้น Hallstatt ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านทางประวัติศาสตร์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรีย

 

5. Bled, Slovenia

หมู่บ้านเล็ก ๆ น่ารักที่มีประชากรประมาณ 5,000 คนแห่งนี้ มองผ่าน ๆ ก็คือเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ที่สวยจนครั้งหนึ่งจักรพรรดิของโรมันถึงกับยกให้เป็นของขวัญแก่บิชอปแห่งบริก นอกจากนี้ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งสปาชั้นยอดอีกด้วย

 

4. Colmar, France

หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงแห่งไวน์ของเขต Alsatian ด้วยกลิ่นไวน์หอมละมุนอันเป็นเอกลักษณ์ และด้วยความสวยของบรรยากาศโดยรอบ ก็ทำให้ Colmar ได้รับอีกหนึ่งฉายาว่าเป็น เวนิชน้อย หรือ Little Venice

 

3. Village in the Himalayas, Tibet

หนึ่งในหมู่บ้านที่สร้างขึ้นอย่างลับ ๆ เพื่อสนับสนุนราชวงศ์ในสมัยโบราณ ซี่งซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาหิมาลายัน มีทางเข้าออกที่ต้องอาศัยการเดินเท้าหรือขี่ม้าเข้าไปเท่านั้น

 

2. Garmisch-Partenkirchen, Bavaria, German

หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของเขา Zugspitze ภูเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน ที่ความสูงกว่า 3,000 เมตร วิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านนี้จึงไม่ต้องพูดถึงว่าจะสวยขนาดไหน

 

1. Gasadalur Village, Faroe Islands

หมู่เกาะฟาโรห์ถือเป็นหมู่เกาะที่ยากจะเข้าถึงที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสกอตแลนด์ ด้วยหน้าผาที่สูงชันจากพื้นหาดและทางเข้าคือบันไดเดี่ยว ๆ ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีประชากรเพียง 18 คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ แต่สิ่งที่ได้มาคือทิวทัศน์ที่สวยจนคุณอาจจะไม่อยากเชื่อสายตา

SOURCE : fixstay

กดติดตาม ADD Line @UndubZapp

 

Advertisements

Advertisements

Advertisements