หากพูดถึงหลักในการลดความอ้วน เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้ดีอยู่แล้วว่า การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย ถือเป็นหัวใจสำคัญในการลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม นอกจากหลักการที่ทราบกันดีแล้ว การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดก็ถือเป็นอีกเรื่องที่มองข้ามไปไม่ได้ เพราะหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า กรุ๊ปเลือดแต่ละกรุ๊ปนั้น มีลักษณะแอนติเจนและแอนติบอดีที่แตกต่างกัน ซึ่งจะตอบสนองต่ออาหารแต่ละชนิดในลักษณะที่แตกต่างกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้อาหาร การอ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือการน้ำหนักขึ้นแบบรัวๆ ทั้งที่ไม่ได้กินเยอะ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่ตอบสนองต่ออาหารทั้งสิ้น ดังนั้น การหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดตัวเอง นอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ว ยังดีต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย โดย 8 อันดับอาหารต้องห้ามของแต่ละกรุ๊ปเลือดจะมีอะไรบ้างนั้น ตาม UndubZapp ไปดูกันค่ะ
8. ไส้กรอก vs กรุ๊ปเอบี
โดยส่วนใหญ่แล้ว คนกรุ๊ปเลือดกรุ๊ปเอบีจะมีความสามารถในการย่อยเนื้อสัตว์ได้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากมีกรดในกระเพาะต่ำ จึงอาจส่งผลให้ท้องอืดได้เวลาที่รับประทานเนื้อสัตว์มากๆ แต่สิ่งที่แย่กว่าเนื้อสัตว์ก็คือ การรับประทานอาหารประเภทดองและอาหารสำเร็จรูป เช่น ไส้กรอกและแฮม ซึ่งนอกจากจะย่อยยาก มีไขมันสูงแล้ว คนกรุ๊ปเอบียังเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร โรคหัวใจ และโรคอ้วนจากอาหารประเภทนี้ได้มากกว่ากรุ๊ปอื่นอีกด้วย
7. นม vs กรุ๊ปเอ
กรุ๊ปเอถือเป็นอีกหนึ่งกรุ๊ปที่มีน้ำย่อยในกระเพาะอาหารค่อนข้างน้อย ซึ่งนอกจากจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงเนื้อวัวแล้ว กระเพาะอาหารของคนกรุ๊ปเอก็ยังไม่เหมาะกับอาหารต้องห้ามอันดับ 7 อย่างการนมวัวและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัวอีกด้วย เพราะนมจะไปชะลอระบบเผาผลาญอาหาร รวมทั้งทำให้เกิดเสมหะในลำคอ ทางที่ดีควรเปลี่ยนไปดื่มนมถั่วเหลืองซึ่งสามารถย่อยได้ง่ายสบายท้องมากกว่าค่ะ
6. เนื้อปลา vs กรุ๊ปเอบี
หลายคนคงแปลกใจที่เนื้อปลาติดอยู่ในอันดับ 6 แต่แม้ว่าเนื้อปลาจะถือเป็นอาหารที่ดีต่อสุภาพ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีต่อทุกคน เพราะสำหรับกรุ๊ปเอบีแล้ว เนื้อปลาบางประเภทอาจก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้ อย่างปลาจะละเม็ดและปลาตาเดียวซึ่งมีเลกตินสูง ส่งผลทำให้เลือดหนืดและไหลเวียนช้า ทำให้อ่อนเพลียไม่มีแรง โดยเนื้อปลาที่กรุ๊ปเอบีสามารถทานได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาค้อด ปลากะพง และปลาซาร์ดีน แต่ก็ไม่ควรรับประทานบ่อยจนเกินไปค่ะ
5. ถั่ว vs กรุ๊ปบี
แม้ว่าถั่วจะเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี แต่ถือเป็นอาหารต้องห้ามสำหรับกรุ๊ปเลือดบีจนติดอยู่ในอันดับ 5 เลยทีเดียว เพราะถั่วเปลือกแข็งนั้นมีสารที่อาจส่งผลเสียต่อระบบเลือดของคนกรุ๊ปบีได้ นอกจากนี้ยังมีไขมันที่สะสมในร่างกายและทำให้คนกรุ๊ปบีอ้วนง่ายอีกด้วย แต่สำหรับใครที่อยากรับประทานถั่วจริงๆ สามารถเลือกทานถั่วแดงหลวง และถั่วเหลืองได้บ้างค่ะ
Advertisements
4. กะหล่ำปลี vs กรุ๊ปโอ
เรียกได้ว่าเป็นอาหารต้องห้ามของคนกรุ๊ปโอจนติดอยู่ในอันดับที่ 4 เนื่องจากคนกรุ๊ปโอมักมีการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่ไม่คงที่ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงผักตระกูลกะหล่ำเนื่องจากจะเข้าไปรบกวนการทำงานของไทรอยด์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบการเผาผลาญของร่างกายทำให้อ้วนง่าย อ้วนเร็วได้อีกด้วยค่ะ
3. อาหารทะเล vs กรุ๊ปบี
ถือเป็นอาหารต้องห้ามอันดับ 3 ซึ่งไม่ถูกกับคนเลือดกรุ๊ปบีอย่างมาก เพราะอาหารทะเลประเภท หอยเชลล์ กุ้ง ปู หอยแครง ปลาแซลมอน นั้นมีเลกตินสูง ซึ่งจะไปรบกวนระบบการทำงานในร่างกาย รวมทั้งระบบเผาผลาญด้วย แต่หากจะห้ามไม่ให้รับประทานเลยก็ดูจะใจร้ายจนเกินไป เอาเป็นว่า ไม่ควรรับประทานมากเกินสัปดาห์ละ 1 ครั้งซึ่งยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายค่ะ
2. เนื้อสัตว์ใหญ่ vs กรุ๊ปเอ
อย่างที่เกริ่นกันเบื้องต้นแล้วว่า คนกรุ๊ปเอเป็นกลุ่มที่มีน้ำย่อยในกระเพาะอาหารน้อยที่สุด ซึ่งไม่เหมาะกับการย่อยอาหารประเภทเนื้อสัตว์ใหญ่ อย่างเนื้อวัวและเนื้อหมูอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นของต้องห้ามติดอันดับ 2 ของกรุ๊ปเลือดเลยทีเดียว สังเกตได้ว่า คนกรุ๊ปเอจะมีอาการท้องอืดอย่างรุนแรงหลังจากการรับประทานเนื้อสัตว์เยอะๆ สำหรับสาวกรุ๊ปเอที่ต้อการลดความอ้วน แนะนำให้หันไปทานมังสวิรัติเลยดีกว่าค่ะ เพราะถือเป็นทางของระบบย่อยอาหารของคุณอย่างแท้จริง
1. แป้งสาลี vs กรุ๊ปโอ
ปัญหาของคนกรุ๊ปโอก็คือ ไทรอยด์มักมีการทำงานไม่คงที่ จนส่งผลให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ไม่ดี จึงทำให้อ้วนกรุ๊ปนี้เป็นคนที่อ้วนง่ายมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อทานอาหารประเภทแป้งเยอะ ยิ่งแป้งสาลีนั้นเรียกได้ว่าเป็นอาหารต้องห้ามอันดับหนึ่งของคนกรุ๊ปโอเลยก็ว่าได้ ดังนั้น หากกรุ๊ปโอต้องการลดน้ำหนักควรเลือกที่จะงดคาร์โบไฮเดรต โดยเฉพาะพวกขนมเบเกอรี่ต่างๆ ที่เรียกได้ว่า ทานเข้าไปแล้วสะสมเป็นไขมันแบบเต็มๆเลยค่ะ
Advertisements