“โรคตาแห้ง” อีกหนึ่งโรคยอดฮิตสำหรับคนทำงาน และคนที่ต้องใช้สายตาจ้องคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน ยิ่งเราใช้สายตาในการทำงานมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคตาแห้งได้มากขึ้นเท่านั้น UndubZapp ขอชวนเพื่อนๆ ทุกคนมาทำความรู้จักกับภาวะตาแห้งและอาการบ่งชี้ของโรค เพื่อเรียนรู้ที่จะรับมือกับปัญหาดังกล่าวให้ทันท่วงที ถ้าเพื่อนๆ เป็นหนึ่งในคนที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน ชอบเล่นโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตบ่อยๆ แนะนำให้อ่านไว้ เผื่อเกิดภาวะตาแห้งระหว่างชั่วโมงการทำงานค่ะ
สาเหตุของโรคตาแห้ง
- ใช้สายตาเป็นเวลานาน เช่น ใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ อ่านหนังสือ หรือเพ่งสิ่งหนึ่งสิ่งใดนานๆ เป็นต้น
- ใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน หรือคอนแทคเลนส์ไม่มีคุณภาพ
- เคยทำเลสิก หรือผ่าตัดตา
- อยู่ในบริเวณที่อากาศแห้ง หรือมีลมแรงเป็นเวลานาน
- เป็นภูมิแพ้ที่ตา หนังตา หรือเยื่อตาอักเสบเรื้อรัง
- ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิด
- อายุมากขึ้น
- ดื่มน้ำน้อย
อาการตาแห้ง
- ระคายเคืองตา
- แสบตา
- รู้สึกเหมือนมีเศษฝุ่นอยู่ในตาตลอดเวลา
- น้ำตาไหล
- มีขี้ตาเป็นเมือกเหนียว
- ผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกปวดหัวหรือปวดตาร่วมด้วย
การป้องกันภาวะตาแห้ง
-
พักสายตาทุก 1 ชั่วโมง
ถ้าทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ หรือตรวจทานเอกสารตลอดทั้งวัน ควรพักสายตาจากการทำงานทุกๆ 1 ชั่วโมง หรือครึ่งชั่วโมงถ้าเป็นไปได้ หลับตาสัก 1-2 นาที เพื่อให้สายตาคลายความเมื่อยล้า
-
กะพริบตาบ่อยๆ
การกะพริบตาบ่อยๆ ส่งผลให้ดวงตาสร้างน้ำตาเคลือบตาตลอดเวลา จึงสามารถบรรเทาอาการตาแห้งได้ในระดับหนึ่ง
-
หยอดน้ำตาเทียม
หากปฏิบัติตามวิธีการอื่นๆ แล้วยังไม่รู้สึกดีขึ้น ควรหยอดน้ำตาเทียมเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา
-
ไม่สวมคอนแทคเลนส์นานเกิน 8 ชั่วโมง
การสวมคอนแทคเลนส์นานเกินควร ส่งผลเสียโดยตรงต่อสุขภาพตา ทำให้ตาแห้ง จึงไม่ควรใส่นานเกิน 8 ชั่วโมง
-
หลีกเลี่ยงการโดนลม
พยายามหลีกเลี่ยงการโดนลมหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีลมพัดแรงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าจำเป็นต้องโดนลมเพราะความจำเป็น อาทิ ขับขี่มอเตอร์ไซด์ หรือทำงานกลางแจ้ง ควรสวมแว่นกันแดดหรือแว่นกันลมตามความเหมาะสม
Advertisements
-
รับประทานอาหารบำรุงสายตา
นอกเหนือจากการดูแลสุขภาพดวงตาจากภายนอกแล้ว การดูแลสุขภาพดวงตาจากภายในก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรรับประทานอาหารบำรุงสายตาเป็นประจำ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับสุขภาพตาจากภายใน
อาหารบำรุงสายตา ได้แก่
-
ผักวิตามินเอสูง
ผักใบสีเขียวเข้มอุดมไปด้วยวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ช่วยเสริมสร้างสุขภาพตา ป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา บำรุงตาให้เป็นประกายสดใส ผักที่ช่วยบำรุงสายตา คือ ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักเคล ผักขม บล็อคโคลี่ ผักกาดเขียว ตำลึง
-
ผลไม้วิตามินซีสูง
ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีมีส่วนช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในดวงตา ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต้อกระจก และยังป้องกันโรคหวัดได้อีกด้วย ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี คือ ฝรั่ง กีวี่ ส้ม สตรอเบอร์รี่ มะละกอ
-
ผักและผลไม้สีส้ม
ผักและผลไม้สีส้มส่วนใหญ่มีวิตามินเอปริมาณมาก การบริโภคผักและผลไม้สีส้มเป็นประจำช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินเอเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ผักและผลไม้สีส้ม คือ แครอท แอปริคอต แคนตาลูป ฟักทอง พีช
-
ปลาที่มีโอเมก้า-3
ปลาหลายชนิดมีกรดไขมันโอเมก้า-3 และ DHA ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ปกป้องร่างกายจากโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงบรรเทาอาการตาแห้งด้วย ปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 คือ ปลากระพงแดง ปลาช่อน ปลาทู
Advertisements