งานเยอะ ปัญหาชีวิตรุม ก็โนว์ดราม่า!! 7 วิธีเคลียร์งานกองโต แม้วันที่รู้สึกแย่ที่สุดในชีวิต

แรงจูงใจในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราเกิดความกระตือรือร้นในการทำงาน หรืออาจทำให้เราเซ็งกับงานถึงขั้นอยากลากลับไปนอนดูละครที่บ้านดีกว่า UndubZapp เข้าใจว่าความเหนื่อยล้าและภาระที่แตกต่างกันทำให้หลายๆ คนเกิดอาการจิตตกระหว่างทำงานได้ ใครที่เป็นเจ้านายตัวเองก็โชคดีไป ใครที่โชคร้ายก็ต้องทนปั่นงานต่อให้เสร็จทั้งๆ ที่ใจไม่อยู่กับร่องกับรอยแล้ว UndubZapp จึงสรรหามาบอก วิธีสร้างแรงจูงใจในการทำงานตอนที่อารมณ์ไม่ดีสุดขั้ว ฮึดอ่านสักนิดแล้วนำไปปฏิบัติตาม เพียงเท่านี้คุณก็จะผ่านมรสุมเหล่านี้ไปได้

 

1. อย่าไปคิดว่า “ทำไมงานเยอะจัง”

สิ่งสำคัญของการพยายามฮึดสู้กับงานกองโตเฮือกแรก คือต้องไม่ไปมัวพะวงคิดว่าทำไมงานที่เราต้องทำมันเยอะจังอยู่อย่างนั้น ถ้ามันห้ามใจไม่ให้ตัวเองพูดยาก ลองแบบนี้แล้วกัน ลองคิดซะว่างานกองมหึมาพวกนั้นก็เหมือนกับห่วงยางรอบเอวคุณนั่นแหละ การที่คุณเอาแต่ตอกย้ำตัวเองว่าเอวคุณหนาเตอะแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยให้ห่วงยางรอบเอวพวกนั้นลดลงไปแต่อย่างใด งานพวกนี้ก็เหมือนกัน ลองคิดซะว่ามันเป็นการเรียนรู้ดีกว่า

 

2. ตั้งเป้าหมายให้ใกล้ที่สุด

ในกรณีที่งานที่คุณต้องทำมีเยอะมากจนเขียนเป็นรายการได้ยาวเป็นหางว่าว เราอยากให้คุณตั้งเป้าหมายที่ใกล้ที่สุดให้ตัวเองและตั้งใจทำให้ถึงจุดนั้นก่อน เช่น งานที่คุณต้องทำมี A-Z แต่ในวันหนึ่งคุณมีเวลาทำงานแค่ 8 ชั่วโมงเท่านั้น คุณก็ลองตั้งเป้าไว้ว่าวันนี้คุณต้องทำ A-F ให้เสร็จ นอกเหนือจากนั้นก็ทดไปวันถัดไป เพื่อที่คุณจะได้ไม่รู้สึกท้อแท้จนยอมแพ้ไปเสียก่อน แต่เราไม่ได้สนับสนุนให้คุณทำงานแต่น้อยและอู้งานนะ อย่าเข้าใจผิด

 

3. อ่านหนังสือทุกวัน

ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะดูเป็นการเพิ่มงานให้คุณ แต่อย่าเพิ่งรีบข้ามข้อนี้ไปล่ะ สาเหตุที่เราอยากให้คุณอ่านหนังสือทุกวันก็เพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานของคุณเอง ลองหาเวลาอ่านหนังสืออย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง หรืออย่างน้อยที่สุดวันละ 20 นาที (ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้หาเวลาอ่านหลังจากที่คุณตื่นนอน) ทุกๆ วัน นอกจากความรู้ที่เพิ่มพูนขึ้นมา การอ่านหนังสือหนาๆ จนจบบ่อยๆ ยังช่วยให้คุณไม่ยี่หระกับงานกองโตด้วย

 

4. ไม่ใส่ใจกับเรื่องไร้สาระ

อีกสาเหตุหลักที่ทำให้ไฟในการทำงานของหลายต่อหลายคนมอดไหม้ เชื่อว่าส่วนหนึ่งก็มาจากเสียงนกเสียงกาเสียงซุบซิบนินทาในบริษัทนี่ล่ะ เราว่าการเป็นคนใส่ใจคนรอบข้างก็เป็นเรื่องดีนะ แต่มันจะดีกว่าถ้าเราใส่ใจเฉพาะเรื่องดีๆ และคนดีๆ น่ะ ดังนั้นถ้าต้องเจอกับเรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้สภาพจิตใจเราย่ำแย่ ขอให้พยายามหลีกเลี่ยงไปเสีย เพราะมันไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรเราเลย นอกจากทำให้เราไม่มีกะจิตกะใจในการทำงานเท่านั้น

 

Advertisements

5. กำหนดเวลาเลิกงาน

พนักงานบริษัทส่วนใหญ่เริ่มเข้างานตอน 8 โมงเช้าและเลิกงานตอน 5 โมงเย็น การทำงานเกินเวลาแสดงให้เห็นว่าคุณมีความตั้งใจในการทำงานสูง แต่รู้อะไรไหม ที่บริษัทกำหนดเวลาเข้าออกงานมาให้นั่นก็เพราะการทำงาน 8 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมงหรอก ถ้าคุณอยากให้บริษัทเห็นว่าคุณขยันมากแค่ไหน ทำให้เต็มที่ในชั่วโมงการทำงานก็พอ นอกเหนือจากนี้คุณต้องไปชาร์จแบตฯ ให้ตัวเองบ้างนะ

 

6. ลงมือทำ

อาจจะฟังดูเป็นการพูดแบบกำปั้นทุบดินไปหน่อย แต่ถ้าอยากให้งานกองเท่าภูเขาเสร็จ คุณก็ต้องลงมือทำงาน จะมามัวแต่พูดว่า “อยากให้งานเสร็จๆ” ในขณะที่คุณมัวแต่นั่งเอ้อระเหยลอยชายไม่ได้หรอกนะ ต้องตระหนักไว้ว่าคนอื่นๆ ก็ได้รับมอบหมายงานเหมือนคุณ คนทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกันไป และคุณต้องทำในส่วนของคุณให้ดีที่สุด พยายามดึงสติให้อยู่กับการทำงานอย่างเดียวให้ได้ อย่าเพิ่งไปนึกถึงภาระหน้าที่อื่นๆ

 

7. ให้รางวัลตัวเอง

การฉลองความสำเร็จอะไรสักอย่างไม่จำเป็นต้องรอเฉพาะโอกาสสำคัญหรือวันเงินเดือนออกเท่านั้น ความจริงแล้วหลังทำงานชิ้นใดชิ้นหนึ่งเสร็จ คุณก็ควรให้รางวัลตัวเองบ้าง เป็นของขวัญแห่งความพยายามและความตั้งใจ เพื่อให้คุณมีกำลังใจสู้ในวันต่อๆ ไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มรู้สึกว่าทำงานรอรับเงินเดือนอย่างเดียวใจมันไม่สู้แล้ว ให้ลองกำหนดรางวัลให้ตัวเองดู เช่นว่าถ้าคุณทำงานนี้เสร็จ จะเลือกกินอะไรโดยไม่สนใจแคลอรี 1 วันก็ได้

SOURCE : themuse

กดติดตาม ADD Line @UndubZapp

 

แซ่บกันต่อ…

>> 7 Step เคลียร์งานกองโต หลังกลับจาก “ลาพักร้อน” แบบ Pro Working

>> ปรับตัว หรือเปลี่ยนงาน? 5 CheckList ถามใจวนไป ว่างานที่ทำ ใช่งานที่ใช่รึเปล่า!?

Advertisements

Advertisements

Advertisements