เว็บไซต์ Undubzapp แนะนำ 2 สถานที่สำคัญในเมืองหลวงของประเทศไทย กรุงเทพมหานคร ที่อยากแนะนำให้ไปชมสักครั้ง สำหรับใครที่อยากมาเดินตามรอย ในหลวง ร.9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระตำหนัก จิตรลดารโหฐาน
เป็นพระตำหนักในพระราชวังดุสิต ซึ่งตั้งอยู่ที่แขวงสวนจิตรลดา ครั้งนั้นยังเป็นประทับของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยพระตำหนักได้ถูกสร้างขึ้นในปีพุทธศักราช 2456 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณทุ่งส้มป่อย ซึ่งในปัจจุบันคือโรงพยาบาลพระมงกฏเจ้า โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามทุ่งส้มป่อยว่า สวนจิตรลดา พระราชทานนามพระตำหนักว่า “พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน”
ภายในพระตำหนัก ยังเป็นสถานที่ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดเกล้าฯ ให้เป็นสถานที่ทดลองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระองค์เอง อาทิ การทดลองเกี่ยวกับการเกษตร เพื่อที่จะนำผลการศึกษานั้นไปพระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทย เช่น โครงการปลูกข้าวไร่ และที่ปวงชนชาวไทยทราบกันดี โครงการเลี้ยงปลานิลของพระองค์ ซึ่งปลานิลก็เป็นปลาพระราชทานจากพระองค์ เพื่อเป็นการสร้างอาหารแก่ชาวไทย และโครงการอื่นๆ อีกมากมาย
ภายในพระราชตำหนัก ประกอบไปด้วยอาคารประกอบดังนี้
– เรือนต้น(จำลอง)
– ศาลาดุสิดาลัย
– สวนพรรณไม้ในวรรณคดี
– อาคารชัยพัฒนา
Advertisements
พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เป็นเวลานานตราบนาน ที่หม่อนไทยเดินทางไกล บ้างก็ได้โบยบินข้ามน้ำข้ามทะเล ผ่านมือการออกแบบการตัดเย็บของช่างชาวต่างชาติ บ้างก็ผ่านฝีไม้ลายมือของช่างชาวไทย จนกลายมาเป็นฉลองพระองค์อันมีความงามล้ำค่า ที่เมื่อผู้ใดได้ยลความงดงามของฉลองพระองค์ ก็จะเกิดความปลื้มปิติในความงดงามนั้นอย่างแน่นอน
ความงดงามในลวดลายและการออกแบบ ยังเปรียบเสมือนร่องรอยของวัฒนธรรมไทยที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านผืนผ้า ซึ่งเป็นการสื่อของเอกลักษณ์ของความเป็นสตรีไทย จึงทำให้ฉลองพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เปรียบเสมือนทูตทางวัฒนธรรมที่ทำให้ความเป็นสตรีไทยไปสู่สายตาโลก
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีการจัดตั้งขึ้นตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมุ่งหวังให้เป็นแหล่งความรู้ ในเรื่องประวัติศาสตร์ของเครื่องแต่งกาย อันเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เพื่อฟื้นชีวิตของผืนผ้า การสานต่อชีวิตของผ้าทอมือที่กำลังลดน้อยลงไปในประเทศให้กลับมามีชีวิตขึ้นในอีกครั้งหนึ่ง และสถานที่แห่งนี้ก็เป็นแห่งจำหน่ายสินค้าที่ประชาชนได้จัดทำขึ้นให้แก่คนทั่วไป และงานอีกส่วนหนึ่งพระองค์ก็ทรงรับมาตัดเป็นฉลองพระองค์สำหรับพระองค์ ดังที่จะเห็นได้ในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งสร้างความประทับใจแก่ผู้ได้พบเห็นอย่างมากมาย
ภายในพิพิธภัณฑ์ ยังมีกิจกรรมที่ให้เราได้มีส่วนร่วม เช่นการแสดงวิธีการดูแลผ้าแบบชาววัง การอบผ้าด้วยเครื่องหอมนานาชนิด และการแสดงอีกหนึ่งอย่างที่ถือว่าเป็นเป็นการหาชมได้ยากในปัจจุบัน ก็คือขั้นตอนการนุ่งโจง นุ่งจีบอย่างถูกหลักวิธี และยังเปิดโอกาสให้เราสามารถแต่งกายเป็นคนในวัง ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่ที่หาไม่ได้จากที่ใดในโลกอีกแล้ว
Advertisements