ฝนมาพาความเขียวชุ่มชื่นมาให้เราได้เสมอ เมื่อฤดูฝนเริ่มทำงาน ขุนเขาต่างๆ ก็เริ่มผลิความงามของความเขียวชอุ่ม ชุ่มชื้นออกมาให้เห็นจนหลายคนหลงเสน่ห์กับการขับรถเที่ยวหน้าฝน เพื่อเป็นการจุดประกายให้คนรัก”เขา” ออกไปหา “เขา” เราขอแนะนำ 12 ที่เที่ยววิวขุนเขา สายหมอก ที่ขับรถยังไม่ทันเหนื่อย ก็จะได้พบกับขุนเขาสีเขียวที่มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ในเขตภาคกลาง ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แต่ละสถานที่ งดงามแบบธรรมชาติแตกต่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
1.อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
อ. ทองผาภูมิ จ.กาญจบุรี
ขับรถจากกทม. 3-4 ชั่วโมง คุณก็จะได้พบกับโลกอีกใบ ที่แวดล้อมด้วยแนวเทือกเขาที่สลับซับซ้อนเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา ของดีที่นี่ คือความงดงามของทิวเขากว้างไกลเป็นทะเลภูเขา ความสมบูรณ์ของป่าไม้ ที่มีสายหมอกขาวโพลนคลอเคลียเลาะเขา ยิ่งในช่วงฤดูฝน รอบๆ ตัวมีแต่สีเขียว ความชุ่มฉ่ำ เย็นสบาย พร้อมชมวิวยอดเขาสวยๆ เช่น เขาช้างเผือก เขานิซา เขาด่าง เขาปากประตู เนินกูดดอย เนินช้างเผือก ถ้ำเขาน้อย น้ำตกเขาใหญ่ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ให้คุณได้ใกล้ธรรมชาติระยะประชิดตัว
Cr.Fb อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ-จังหวัดกาญจนบุรี
2. จุดชมวิวเนินช้างศึก
อ. ทองผาภูมิ จ.กาญจบุรี
ใครมาทองผาภูมิแล้วไม่แวะมาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงทองผาภูมิ เหมือนขับรถไปหนองมนแล้วไม่ได้ซื้อข้าวหลามกลับบ้านอะไรประมาณนั้น เพราะที่นี่ ไฮไลท์เด็ดในช่วงหน้าฝน คือจุดชมวิวเนินช้างศึกที่ปล่อยให้คุณได้ซึมซับความงดงามสุดอลังการของทะเลหมอกแบบ 360 องศา ที่จำติดตาไปอีกนานแสนนาน
Cr.Fb อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ-จังหวัดกาญจนบุรี
3.ป่าทับลาน
อ.นาดี ปราจีนบุรี
ภาพขุนเขาสีเขียวเย็นสบายตา วางแนวสลับซับซ้อนไปมา กลายเป็นไฮไลท์สำคัญของที่นี่จนทำให้ขุนเขาแห่งทับลานกลายเป็นจุดยอดนิยมที่สายเที่ยวนิยมขุนเขาจะต้องลิสต์ไว้ในใจ หลายคนเลือกพักในที่พักที่สามารถมองเห็นขุนเขาแห่งทับลานได้แบบไม่ต้องบุกป่าผ่าดงไปไหนไกล นอนสูดโอโซนบริสุทธิ์พร้อมชมความงามของธรรมชาติของป่าทับลาน ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด โดยเฉพาะต้นลาน ที่เป็นผืนป่าลานแห่งสุดท้ายของประเทศไทย ที่นี่ยังเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำบางปะกงและแม่น้ำมูลอีกด้วย นอกจากป่าลานแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมได้อีก เช่น ผาเก็บตะวัน จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของประเทศและซิกเนเจอร์การยิงเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ด้วยหนังสติ๊ก น้ำตกธรรมชาติ
Cr. wikimedia
4.ผาเก็บตะวัน
อ.วังน้ำเขียว นครราชสีมา
จุดชมวิวยอดนิยมที่หนึ่งแห่งวังน้ำเขียวฝั่งจ. นครราชสีมา นอกจากทะเลหมอกในตอนเช้าแล้ว ยามเย็น ที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งก็ว่าได้ และกิจกรรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้บนผาเก็บตะวันนี้ คือ
การยิงหนังสติ๊กที่มีลูกกระสุนเป็นเมล็ดพันธ์ต้นไม้ เพื่อเป็นการปลูกป่าที่เป็นธรรมชาติสุดๆ
Cr. Muak Everton
5.อ่างเก็บน้ำทับลาน
ปราจีนบุรี
อ่างเก็บน้ำเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยวิวของขุนเขาอันเขียวขจีของพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ที่นี่จะปล่อยให้คุณได้อยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของสายน้ำในอ่างเก็บน้ำและความสดชื่น ปลุกพลังชีวิตด้วยขุนเขาที่โอบล้อมสายน้ำและตัวคุณเอาไว้
Cr. Chanomworld
6. ป่าแม่วงก์
อ.คลองลาน กำแพงเพชร
ไปสัมผัสไอดิน-กลิ่นฝนแห่งช่องเย็นแห่งป่าแม่วงก์ ป่าบริสุทธิ์ที่รอคอยให้คุณได้มาสัมผัสกับธรรมชาติ ณ จุดช่องเย็น คือจุดชมวิวที่หลายคนนิยมไปสัมผัสไอเย็นและกลิ่นฝน เหมาะมากกับคนที่หลงรักต้นไม้ใบหญ้า หลงรักขุนเขา หลงรักสายหมอก หลงรักความเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ที่รถยนต์เข้าถึง
Cr. park.dnp.go.th
7. ทุ่งกระเจียว อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
อ. เทพสถิต ชัยภูมิ
Advertisements
ช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี ชัยภูมิจะเป็นจังหวัดที่คนแห่ไปเช็คอินถ่ายรูปทุ่งดอกไม้ที่ถูกย้อมด้วยสีชมพู ของดอกกระเจียวสีชมพูอมม่วงและสีขาวที่ชู่ช่อเต็มทุ่งเปลี่ยนลานกว้างๆ ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ยิ่งถ้าไปในช่วงเช้าๆ โบนัสพิเศษที่ได้คือ ภาพทุ่งดอกกระเจียวเต็มทั่วทุ่ง กับสายหมอกที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ แนวต้นไม้สูงยืนต้นเป็นแนวเขียวชอุ่ม แต่ถ้ามาวันหยุดก็ต้องทำใจกับคลื่นมหาชนด้วยล่ะ ก็อย่างว่าทุ่งดอกกระเจียวมีปีละครั้ง ใครก็ไม่อยากพลาด
Cr. happykorat.com
8.ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติไทรทอง
อ.หนองบัวระเหว ชัยภูมิ
สำหรับใครที่อยากหลบความวุ่นวาย ความแออัดของทุ่งดอกกระเจียวของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเลือกเป็นจุดชมทุ่งดอกกระเจียวอีกจุดหนึ่ง แต่ต้องเดินเท้าเข้าไปสักนิดหนึ่ง เพื่อชมความงามของที่นี่ เพราเหตุนี้ ทุ่งดอกกระเจียวที่นี้จึงมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าที่ป่าหินงาม
Cr. weekendhobby.com
9.วังน้ำเขียว
อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
ฝนมาพาให้วังน้ำเขียวก็กลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้งเสมอ วังน้ำเขียวในฤดูอื่นๆ อาจดูธรรมดาๆ เขาอาจะไม่เขียว หมอกอาจไม่ขาว แต่เมื่อไหร่ที่ฝนมา ภูเขาจะกลับมาเขียว ป่าจะอุดมสมบูรณ์ กับทะลหมอกหนานุ่มเต็มตา หลายคนจึงเลือกมาหลบความวุ่นวายมานอนค้างคืนกันที่นี่
Cr. happykorat.com
10. เขาค้อ
อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
ชมทะเลหมอกได้จากริมระเบียง ว่ากันว่าฟ้าหลังฝนที่เขาค้อ สิ่งที่เฝ้ารอได้เลยคือ ทะเลหมอกที่จะค่อยๆ ไหลให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำลอยตามสายลม พัดพาเอากลิ่นไอดินกลิ่นละอองน้ำสดชื่น ต่างไปจากสายหมอกในหน้าหนาว แค่ยืนอยู่ริมระเบียงที่พัก ก็ตกหลุมรักเขาค้อหน้าฝนซะแล้ว
Cr. khaoko.com
11.ทุ่งแสลงหลวง
อ.เขาค้อ เพชรบูรณ์
การขับรถไปชมวิวที่นี่ ฟินจนยากจะบรรยายได้ ทุ่งหญ้าก็เขียว ต้นไม้น้อยใหญ่ก็เขียว ขุนเขาโดยรอบก็เขียว เป็นโรดทริปที่ดีมากๆ สำหรับสายเที่ยวที่นิยมการขับรถไปเรื่อยๆ ในวันหยุด โดยเฉพาะจุดแวะถ่ายรูปที่ฮิตที่สุดของที่นี่ ป้ายทุ่งแสลงหลวงที่มีแบคกราวด์เป็นทุ่งหญ้า ทิวยอดไม้และขุนเขาที่เรียงรายเป็นแนวยาวสุดสายตา
Cr. khaoko.com
12. ภูทับเบิก
อ.หล่มเก่า เพชรบูรณ์
ตามหาสายหมอก ภูทับเบิกไม่เคยผิดหวัง ใครที่อยากไปเห็นทะเลหมอกแน่นๆ ที่ลอยเลาะขุนเขา กับฉากหน้าของไร่กะหล่ำปลีไกลสุดลูกหูลูกตา ภูทับเบิกไม่ทำให้คุณผิดหวัง ที่นี่เรียกว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกสำหรับมือใหม่หัดล่าทะเลหมอกที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก
Cr. happykorat.com
Cr. photo pixabay
Advertisements