ขึ้นชื่อว่าสายเที่ยวแล้วก็มีมากมายหลายสาย ไม่ว่าจะเป็นสายบุญ สายช้อป สายชิม หรือสายชิล ซึ่งสายชิมก็มีแบ่งออกไปอีกยิบย่อย แต่วันนี้เราจะมาเอาใจสายชิมที่เน้นของหวานที่เป็นที่โปรดปรานของใครหลาย ๆ คนอย่าง “ช็อกโกแลต” ที่บอกเลยว่าสถานที่เที่ยวเฉพาะสาวก Chocolate Lover ที่เราคัดมานั้น…เราคัดเน้น ๆ คือไล่ตั้งแต่ยุโรปจรดถึงอเมริกา!
12. ทัวร์ Perugina และ Chocolate School – อิตาลี
ทัวร์พาชมการผลิตช็อกโกแลตในโรงงานที่อัมเบรียประเทศอิตาลี โรงงงานและพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตที่มีเจ้าของเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่าง Nestle ที่คุณจะได้เดินชมการผลิตช็อกโกแลตระดับโลกบนทางเดินยกสูงที่เห็นวิธีการผลิตอย่างทั่วถึง
11. โรงแรม Chocolate – เซนต์ ลูเซีย
สวนช็อคโกแลตที่เก่าแก่ที่สุดของเซนต์ลูเซีย ก่อตั้งในปี 2554 ในฐานะโรงแรมบูติคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนได้รับการขนานนามว่า “สรวงสวรรค์แห่งโกโก้” จากเดอะนิวยอร์กไทม์ส ที่นี่คุณจะได้พักที่ห้องสวีทสุดหรูและคุณอาจพบว่าตัวเองกำลังเก็บเกี่ยวฝักโกโก้ด้วยตัวเองแถมยังได้เรียนรู้วิธีทำโกโก้เบลลินี่ ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าสวรรค์ชัด ๆ
10. พิพิธภัณฑ์ Schokoladen – เยอรมัน
อาคารสามชั้นอันยิ่งใหญ่แห่งที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่ออุทิศให้กับประวัติศาสตร์ช็อกโกแลตกว่า 3,000 ปี ที่ Schokoladenmuseum ในโคโลญจน์หรือที่รู้จักกันในชื่อ Chocolate Museum มีจุดเด่นที่สุดอยู่ที่ช็อกโกแลตน้ำพุขนาดยักษ์ในล็อบบี้ เพียงแค่มองหาพนักงานที่หิ้ววาฟเฟิลผ่าน คุณก็จะได้ขนมเอาไว้ลิ้มรสน้ำพุช็อกโกแลตตั้งแต่ย่างก้าวแรกที่มาที่นี่
9. สปาที่โรงแรม Hershey – เพนซิลเวเนีย
ทรีตเมนต์ช็อกโกแลตคือหนึ่งในเมนูที่สปาโรงแรมระดับ Hi-End แห่งนี้ ที่ตั้งอยู่ในเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น Chocolate town ในสหรัฐอเมริกา ที่นี่คุณจะได้ลองใช้ช็อกโกแลตห่อฟองดู ไปพร้อม ๆ กับผ่อนคลายด้วยการอาบน้ำโกโก้หรือดื่มด่ำไปกับการขัดผิวด้วยช็อกโกแลต
8. โกโก้ แซมปาก้า – บาร์เซโลน่า
ร้านอาหาร El Bulli ที่มีชื่อเสียงของ Ferran Adria ที่นี่มีเมนูช็อกโกแลตแปลกใหม่มากมายให้คุณได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็น ทรัฟเฟิร์ตแบบดั้งเดิม หรืออาหารประยุกต์ เช่น ซังข้าวโพดผัดช็อกโกแลตขมและช็อกแลตบาร์ที่ปรุงพร้อมพาร์มาแฮม ปลาแอนโชวี่และเฮเซลนัท บอกได้คำเดียวว่าอาหารของที่นี่จะเป็นประสบการณ์ที่พิเศษสุด ๆ แบบหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
7. ทัวร์โรงงาน Taza – บอสตัน
กลิ่นหอมของช็อกโกแลตผสมกับเครื่องเทศ คือสิ่งที่จะทักทายคุณตั้งแต่ที่หน้าประตู – Taza คือหนึ่งในไม่กี่โรงงานในสหรัฐฯ ที่ผลิตช็อกโกแลตแบบสโตนกราวน์ 100 เปอร์เซ็นต์ ทัวร์ที่ทาซามีเวลาทั้งหมด 45 นาที ที่ซึ่งคุณจะได้เห็นโม่หิน (บด) แบบใช้มือ ที่ใช้ในการบดเมล็ดโกโก้และเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดหาแหล่งค้าปลีกของช็อกโกแลต
Advertisements
6. ถนน Mina – เมือง Oaxaca
เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ถนนช็อกโกแลต” ที่นี่เป็นที่ตั้งของย่านช็อกโกแลตที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโก ถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้าของครอบครัวที่ทำทุกอย่างเกี่ยวกับช็อกโกแลต รวมไปถึงช็อกโกแลตร้อนที่เสิร์ฟพร้อมไวน์ชั้นดี บรรยากาศที่นี่คุณจะได้กลิ่นไอของช็อกโกแลตตั้งแต่ก้าวแรกที่มาเยือน
5. Mast Brothers Chocolate – บรู๊คลิน
พี่น้องที่อยู่เบื้องหลังโรงงานผลิตช็อกโกแลตใน Brooklyn ที่นี่มีทัวร์ที่ทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับวิธีผลิตช็อกโกแลต ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นวิธีการผลิตแบบสมัยเก่าไปจนถึงเส้นทางการผลิตที่มีความเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น เพื่อให้ได้ช็อคโกแลตที่สมบูรณ์แบบ
4. Maison Cailler – สวิตเซอร์แลนด์
ประเทศนี้คือหนึ่งในที่สุดเรื่องช็อกโกแลตตัวจริงเสียงจริง ทัวร์ที่มีระยะเวลานานนับชั่วโมงของ Cailler จะเริ่มต้นด้วยการดูพิธีกรรมเกี่ยวกับโกโก้ของชาว Aztec แบบโบราณ ก่อนจะพาเดินชมไปตามสายการผลิตช็อกโกแลตนมและจบด้วยความสุขกับการลิ้มรสอาหารที่มีช็อกโกแลตเป็นตัวชูโรง
3. ทัวร์ Theo Chocolate Tour – ซีแอตเทิล
หนึ่งในโรงงานผลิตช็อกโกแลตในสหรัฐฯ ธีโอทัวร์มีระยะเวลา 60 นาที ซึ่งจะพาคุณไปชมเกี่ยวการวิธีการผลิตช็อกโกแลตทั้งหมดภายในโรงงาน ตึกที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี จุดเด่นสุดๆ คือทุกร้านภายในโรงงานจะขายช็อกโกแลตที่มีรสชาติเฉพาะที่ผลิตจากโรงงานเท่านั้น เช่น ช็อกโกแลตชะเอมเคลือบคาราเมลรสเค็ม, พายมะนาวและช็อกโกแลตลูกพีช เป็นต้น
2. ร้าน Rococo Flagship – ลอนดอน
ที่อยู่ของช็อกโกแลตอันน่าหลงใหล ที่นี่คุณจะสามารถหาซื้อโกโก้ได้เกือบทุกอย่าง แม้กระทั่งกลีบดอกสีม่วงที่ชุบด้วยช็อกโกแลตร้อนที่อยู่ในลานสไตล์มัวร์ ขณะเดียวกันคุณก็สามารถเดินชมการทำช็อกโกแลตหรือเดินดูการเรียนการสอนเกี่ยวกับการทำช็อกโกแลตที่โรงเรียนทรัฟเฟิลที่อยู่ใกล้ ๆ ไปพร้อม ๆ กันได้
1. Pannys Amazing World of Chocolate – เมลเบิร์น
Chocolate Lover โดยเฉพาะเด็ก ๆ จะรักประสบการณ์ที่จะได้เจอที่นี่ เพราะที่นี่คือวิลลี่วอนกา ที่เหมือนกับในหนังของดิสนีย์แลนด์ แต่ตั้งอยู่ใกล้เมลเบิร์น ออสเตรเลีย ที่ซึ่งคุณสามารถสร้างแท่งช็อกโกแลตของคุณเอง ได้บังคับรถไฟขนาดเล็กผ่านหมู่บ้านช็อกโกแลตและพลิกแพลงรสชาติช็อกโกแลตได้ตามใจ จุดพีคอีกอย่างก็คือ น้ำตกช็อกโกแลตของที่นี่อาจจะเป็นน้ำตกช็อกโกแลตที่ใหญ่ที่สุดในโลก
SOURCE : smartertravel
Advertisements