อวัยวะที่สำคัญอีกอย่างของคนเรา ก็คือ กระดูกสันหลัง เนื่องจากกระดูกสันหลังเป็นโครงสร้างแกนกลางของลำตัว ที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท ในขณะที่ หมอนรองกระดูกสันหลัง เป็นเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่เหมือนตัวผ่อนแรงที่รองรับระหว่างกระดูกสันหลังสองชิ้น มีลักษณะเหมือนเจลใส ๆ ทำหน้าที่รับแรงกระแทกและทำให้เราเคลื่อนไหวกระดูกสันหลังได้ดีขึ้น นั่นหมายถึง ทุกครั้งที่เราเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะก้ม หรือ เงย หมอนรองกระดูกนี้จะเป็นตัวรับน้ำหนัก รับแรงกระแทกระหว่างกระดูก ซึ่งหมอนรองกระดูกสันหลังนี้ปกติจะค่อยๆ เริ่มเสื่อมสภาพตั้งแต่อายุ 25 ปี แต่ก็มีสาเหตุที่ทำให้หมอนรองกระดูกเกิดอาการเสื่อมก่อนวัยอันควร ไม่ว่าจะเป็น
1.การนั่งผิดท่า นั่งนาน การใช้ชีวิตประจำวันโดยเฉพาะคนที่ทำงานออฟฟิศ จำเป็นต้องนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์ และอาจเกิดการนั่งผิดท่าโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งการนั่งเก้าอี้แบบไม่เต็มก้น การนั่งไขว้ห้าง ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลให้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักผิดปกติไป บางรายอาจเกิดการคดงอของกระดูกสันหลัง และกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทได้
2.การนั่งรถนานๆ หรือ การขับรถเป็นเวลานาน ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้เช่นกัน
3.การยกของหนัก เป็นการใช้งานช่วงหลังของร่างกายมาก และยิ่งเมื่อยกผิดท่า ก็ยิ่งเป็นการทำร้ายกระดูกสันหลัง
4.ใช้ชีวิตที่ไม่ถนอมสุขภาพกินเหล้า สูบบุหรี่ ดูเหมือนไม่เกี่ยวแต่เกี่ยวข้องกัน แต่กิจกรรมที่ว่านี้ ทำให้เลือดไปเลี้ยงกระดูกสันหลังได้น้อยลง ทำให้กระดูกสันหลังเสื่อมเร็วกว่าปกติ และแน่นอนค่ะว่ามันส่งผลกระทบต่อหมอนรองกระดูกสันหลังของเราด้วยเช่นกัน
5.การเล่นกีฬา ที่มีการกระแทก การปะทะกันบ่อยๆ หรือการเล่นกอล์ฟ เล่นเทนนิสแล้วบิดตัวอย่างรวดเร็วผิดจังหวะ ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังก็จะเสื่อม หรือมีการแตก การเคลื่อนตัวไปกดทับเส้นประสาทได้
6.มีน้ำหนักตัวมากเกินไป ซึ่งหมายถึงการที่ร่างกายต้องรับน้ำหนักที่มากอยู่ตลอดเวลา
Advertisements
7.อุบัติเหตุ การลื่นล้ม สามารถส่งผลถึงหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้เช่นกัน
การใช้งานกระดูกส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างไม่ปราณีปราศรัย ในขณะที่เราจำเป็นต้องใช้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักอยู่ตลอดเวลา ก็จะส่งผลให้ทั้งกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกเริ่มเสื่อมสภาพไปพร้อมๆ กัน ซึ่งมีผลเกี่ยวเนื่องไปถึงกระดูกสันหลัง ส่วนคอ ส่วนหลัง ส่วนอก หรือส่วนเอว และถ้ากระดูกสันหลังมีความไม่แข็งแรง ไม่ยืดหยุ่นเพียงพอ หรือ หมอนรองกระดูกเริ่มเสื่อมแล้ว ก็จะส่งผลให้หมอนรองกระดูก หรือ ของเหลวที่มีลักษณะคล้ายเจลนั้นปลิ้น โป่งออกมาจากแนวกระดูกสันหลังจนไปเบียดทับกับเส้นประสาทรอบๆแนวกระดูกสันหลัง และเกิดโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทตามมานั่นเอง
อาการของโรคเกี่ยวกับหมอนรองกระดูก ถ้าเริ่มแรกคุณมีอาการปวดหลังบริเวณเอว แบบเป็นๆ หายๆ โดยมักจะเกิดในช่วงเวลาที่ต้องมีการใช้งานแผ่นหลัง เช่น การยืน การก้ม การเงย หรือการนั่งนานๆ ทำให้ต้องหยุดพักและจะดีขึ้นเมื่อได้นอนพักในแนวระนาบ แล้วพัฒนาไปสู่อาการปวดหลังรุนแรงอย่างเฉียบพลัน มีอาการปวดร้าวลงมาที่ขา น่อง ตาตุ่มหรือเท้า ร่วมกับมีอาการชาขา หรือเท้าด้วย นั่นหมายถึง คุณกำลังประสบกับโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท แต่ถ้ามีอาการปวดคอ ปวดเมื่อยบริเวณสะบักเรื้อรัง ไม่สามารถเคลื่อนไหวคอได้อย่างอิสระ นั่นก็หมายถึง คุณกำลังเผชิญหน้ากับโรคหมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท
วิธีการรักษา ส่วนใหญ่เริ่มจากการทานยาต้านการอักเสบ และยาลดอาการปวด ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นอาจต้องรักษาด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์บริเวณช่องไขสันหลัง หรือ การจี้ด้วยคลื่นความถี่ เพื่อจี้ตัวหมองรองกระดูกสันหลังที่เคลื่อนให้ยุบตัวลง แต่ถ้าหากไม่ได้ผล ก็อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดซึ่งถือเป็นวิธีการสุดท้ายที่จะเลือกค่ะ
ทางที่ดี เราควรระวังรักษา และ ดูแลการใช้งานของร่างกายเราให้เหมาะสม อย่าหักโหมมากจนเกินไป และอย่าทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายที่พอเหมาะพอควร ก็จะช่วยป้องกันคุณให้พ้นจากโรคร้ายอันตรายเหล่านี้ได้
Advertisements