ใครว่าไขมันมีแต่โทษต้องทำความเข้าใจใหม่ ความจริงไขมันนั้นมีหลากหลายประเภท ทั้งที่ให้คุณก็มีและที่ให้โทษก็มี โดยทั่วไปแล้ว ไขมันจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ไขมันอิ่มตัว ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน และไขมันทรานส์
และสิ่งที่เราได้ยินได้ฟังมาคือ ไขมันคือผู้ร้าย โดยเฉพาะไขมันจากสัตว์ แต่หากทำความเข้าใจให้ลึกลงไป จะพบว่าการเหมารวมความร้ายกาจของไขมัน อาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องทั้งหมด ไขมันบางชนิดก็เป็นโทษกับร่างกาย ทำลายสุขภาพให้เสื่อมลง ในมุมกลับกันไขมันบางชนิดมีความจำเป็นต่อในการเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย และปรับสมดุลให้กลับมาสุขภาพแข็งแรง
ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ที่ได้จากเนื้อสัตว์นั้น หากร่างกายได้รับในปริมาณมาก จะถูกสะสมอยู่ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย แขน ขา ช่องท้อง รวมไปถึงหลอดเลือดที่ทำหน้าที่ลำเลียงเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อไขมันถูกสะสมเกาะแน่นอยู่ตามผนังหลอดเลือด นานวันเข้าหลอดเลือดก็จะตีบแคบลง
หรือหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจทำให้หลอดเลือกอุดตันหรือแตกได้ หากเป็นหลอดเลือดหัวใจก็อาจทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจ หรือหากเป็นไขมันในหลอดเลือดสมอง จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดสมองได้ เช่น อัมพฤต อัมพาต หรือสมองขาดเลือด
ปลาเป็นแหล่งอาหารอีกชนิดที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในรูปของสารอาหารที่ชื่อว่า กรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งพบสารอาหารประเภทนี้ได้จากปลาโดยเฉพาะปลาทะเล ยิ่งเป็นปลาที่มาจากแหล่งทะเลน้ำลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งให้กรดไขมันโอเมก้า-3 คุณภาพสูง ซึ่งไขมันดังกล่าวจัดเป็นไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย มีส่วนช่วยป้องกันการแข็งตัวของไขมันในหลอดเลือด จะแตกต่างจากไขมันในเนื้อสัตว์ชนิดอื่น มีส่วนช่วยในกระบวนการเผาผลาญ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ ผู้ที่บริโภคปลาซึ่งมีกรดไขมันดีอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้งในปริมาณที่พอเหมาะ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง จิตแจ่มใสเบิกบาน ห่างไกลจากการเป็นโรคหัวใจและโรคมะเร็งมากยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังนั่นก็คือ วิธีการปรุงอาหารที่ใช้กับปลาที่ทำให้น้ำระเหยออกหรือเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำมัน เช่น การย่างหรือทอด ที่จะให้ปริมาณไขมันเพิ่มขึ้น 7-23 กรัม ต่อเนื้อปลา 100 กรัม เนื่องจากน้ำที่ระเหยไปจากเนื้อปลาระหว่างที่ย่างและน้ำมันที่นำมาทอดจะถูกดูดซับเข้าไปในเนื้อปลา นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงแนะนำให้ใช้วิธีการต้มหรือนึ่ง อาหารประเภทปลา
วันนี้ UndubZapp ขออาสาพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับแหล่งไขมันดีที่สามารถหาทานได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวันในหมวดของปลา โดยจะเรียงลำดับจากปลาที่ให้ไขมันต่ำไปจนถึงปลาที่ให้ไขมันคุณภาพสูง
ปลาที่มีไขมันต่ำ
10.ปลาจะละเม็ดดำ
ราคา: 250 บาท/กิโลกรัม
ปลาจะละเม็ดดำเป็นปลาที่มีไขมันต่ำ มีปริมาณไขมันมากกว่า 4-5 กรัม ต่อเนื้อปลา 100 กรัม
9.ปลากะพงขาว
ราคา: 140 บาท/กิโลกรัม
ปลากะพงขาวเป็นปลาที่มีไขมันต่ำ มีปริมาณไขมันมากกว่า 2-4 กรัม ต่อเนื้อปลา 100 กรัม
8.ปลาทู
ราคา: 100 บาท/กิโลกรัม
ปลาทูเป็นปลาที่มีไขมันต่ำ มีปริมาณไขมันมากกว่า 2-4 กรัม ต่อเนื้อปลา 100 กรัม
ปลาที่มีไขมันปานกลาง
7.ปลาจะละเม็ดขาว
ราคา: 150 บาท/กิโลกรัม
ปลาจะละเม็ดขาวเป็นปลาที่มีไขมันปานกลาง มีปริมาณไขมันมากกว่า 4-5 กรัม ต่อเนื้อปลา 100 กรัม
Advertisements
6.ปลาสลิด
ราคา: 135 บาท/กิโลกรัม
ปลาสลิดเป็นปลาที่มีไขมันปานกลาง มีปริมาณไขมันมากกว่า 4-5 กรัม ต่อเนื้อปลา 100 กรัม
5.ปลาตะเพียน
ราคา: 35 บาท/กิโลกรัม
ปลาตะเพียนเป็นปลาที่มีไขมันปานกลาง มีปริมาณไขมันมากกว่า 4-5 กรัม ต่อเนื้อปลา 100 กรัม
ปลาที่มีไขมันสูง
4.ปลาสำลี
ราคา: 380 บาท/กิโลกรัม
ปลาสำลีเป็นปลาที่มีไขมันสูง มีปริมาณไขมันมากกว่า 8-20 กรัม ต่อเนื้อปลา 100 กรัม
3.ปลาช่อน
ราคา: 90 บาท/กิโลกรัม
ปลาช่อนเป็นปลาที่มีไขมันสูง มีปริมาณไขมันมากกว่า 8-20 กรัม ต่อเนื้อปลา 100 กรัม
2.ปลาดุก
ราคา: 50 บาท/กิโลกรัม
ปลาดุกเป็นปลาที่มีไขมันสูง มีปริมาณไขมันมากกว่า 8-20 กรัม ต่อเนื้อปลา 100 กรัม
1.ปลาสวาย
ราคา: 32 บาท/กิโลกรัม
ปลาสวายเป็นปลาที่มีไขมันสูง มีปริมาณไขมันมากกว่า 8-20 กรัม ต่อเนื้อปลา 100 กรัม
ราคาอ้างอิง: ตลาดไท
Advertisements