ไข้หัดแมว ทาสแมวต้องรู้จักและระวังก่อนที่จะสายเกินไป

โรคไข้หัดแมวคืออะไร 

โรคไข้หัดแมวเกิดขึ้นจากการที่น้องแมวติดเชื้อไวรัส Feline Parvovirus ส่งผลให้มีไข้สูง เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสียแบบมีเลือดปน และไม่ร่าเริง ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาโดยเร่งด่วนอาจจะมีผลต่อการทรงตัว ทำให้ตาบอด หรือว่าเสียชีวิตได้ 

โดยมาก แมวที่เสี่ยงจะเป็นโรคไข้หัดแมว และมีอาการร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตคือ ลูกแมวที่อายุระหว่าง 2-6 เดือน เนื่องจากเป็นวัยที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายยังไม่แข็งแรงและสมบูรณ์มากพอ ทำให้ติดเชื้อโรคได้ง่าย ซึ่งส่วนใหญ่จะติดผ่านทางการสัมผัสอึ ฉี่ ใช้ของหรือยู่ร่วมกับแมวที่ป่วยหรือมีอาการของโรค 

ระยะฟักตัวของโรคไข้หัดแมวจะอยู่ที่ 2-7 วัน โดยลูกแมวจะพบความรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตมากกว่า ในอัตรา 25-90% ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ เมื่อแมวตัวหนึ่งเป็นโรค ตัวอื่นๆ ในบ้านมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคตามไปด้วย เพราะธรรมชาติของแมวจะมีการตกแต่งขนให้กัน คลอเคลียกัน และกินอาหารร่วมกัน ดังนั้นหากว่ามีแมวตัวหนึ่งป่วย ไม่ว่าจะเป็นป่วยโรคอะไรก็ตาม ให้แยกแมวตัวดังกล่าวจากแมวตัวอื่นๆ ทั้งอาหาร กระบะทราย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

การรักษา

หากมีน้องแมวมีอาการดังกล่าว ให้รีบพอไปพบสัตวแพทย์โดยเร่งด่วน เพราะโรคไข้หัดแมวเป็นโรคติดต่อร้ายแรง โดยเฉพาะหากว่าน้องมีอาการคลื่นไส้และท้องเสียหนัก เพราะอาจจะทำให้ร่างกายขาดน้ำและช็อกได้ 

อย่างไรก็ตาม น่าเศร้าว่าโรคไข้หัดแมวไม่มียาที่ฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรง การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการและประคับประคองให้ร่างกายของน้องแมวสามารถสร้างภูมิต้านทานและฆ่าเชื้อได้เองตามธรรมชาติ โดยคุณหมอจะให้สารอาหารและน้ำทางหลอดเลือด รวมถึงดูแลให้ยาอื่นๆ เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนระหว่างการรักษา 

การป้องกัน 

แม้ว่าโรคไข้หัดแมวจะเป็นโรคติดต่อร้ายแรง แต่เราสามารถป้องกันน้องแมวของเราจากโรคนี้ได้ โดยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมว ซึ่งสามารถฉีดวัคซีนได้ตามคลินิกและโรงพยาบาลสัตว์ได้ทุกที่ ทำให้บรรดาทาสแมวสามารถอุ่นใจได้ระดับหนึ่งว่าแมวของเราจะห่างไกลจากโรคอันตรายนี้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ทุกครั้งที่มีการนำแมวใหม่หรือแมวจรเข้ามาในบ้าน ควรแยกแมวใหม่ออกก่อน ไม่ควรจะนำไปเจอกันทันที เพราะอาจจะทำให้แมวในบ้านติดโรคหัดแมวโดยไม่ตั้งใจได้เช่นกัน 

แม้ว่าไข้หัดแมวจะไม่ติดจากแมวสู่คน แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องระวังคือ คนสามารถเป็นพาหะได้ เพราะเมื่อเราสัมผัสแมวที่ป่วย แล้วไปสัมผัสแมวตัวอื่น อาจจะเป็นการแพร่เชื้อให้แมวตัวอื่นโดยไม่ตั้งใจ จึงควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ