เชียงราย จังหวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและสำคัญ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านของศิลปะ ประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลาย
พระตำหนักดอยตุง
เริ่มการดำเนินการก่อสร้างขึ้นในปีพุทธศักราช 2530 เมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มี พระชนมายุ 88 พรรษา เหตุก็เพราะว่าก่อนหน้านั้น พระองค์ทรงมีพระราชกระแสว่า หลังพระชนมายุ 90 พรรษา จะไม่เสด็จไปประทับที่ ประเทศสวิตเซอร์แลน์ สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ จึงเลือกดอยตุงในการสร้างพระตำหนัก เนื่องจากมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ขณะเดียวกันสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีก็ทรงพอพระราชหฤทัย และมีพระราชดำริจะสร้างบ้านที่ดอยตุง รวมถึงพระราชกระแสรับสั่งว่าจะ ปลูกป่าบนดอยสูงด้วยเช่นกัน
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
การก่อตั้งตำหนักเกิดขึ้นพร้อมกับ โครงการพัฒนาดอยตุง โดยเป็นการร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ และยังมีการฝึกอาชีพอีกด้วย
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
เมื่อครั้งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จมาประทับที่พระราชตำหนักดอยตุง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมอยู่บ่อยครั้ง
ภายในพระราชตำหนัก ประกอบไปด้วยอาคารประกอบดังนี้
– หอพระราชประวัติ
– สวนแม่ฟ้าหลวง
– อาคารพระตำหนักดอยตุง
– พระธาตุดอยตุง
โครงการในพระราชดำริ
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
“ฉันจะปลูกป่าที่ดอยตุง” เป็นพระราชดำรัสของสมเด็จย่า ที่ทรงมีจุดมุ่งหมายที่จะคืนความสมบูรณ์ให้ป่าเขาอันเสื่อมโทรมหมดสภาพ ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ซึ่งปัจจุบัน ดอยตุงได้เป็นป่าต้นน้ำและเป็นป่าเศรษฐกิจที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
Advertisements
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
โครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากพระราชดำริของราชวงศ์จักรี จึงเป็นเหตุผลและคำตอบที่อธิบายคำถามที่ว่า เหตุใดคนไทยจึงรักราชวงค์จักรี สุดหัวใจ
โครงการอันเนื่องจากพระราดำริทรงก่อให้เกิดชีวิตและยกระดับความเป็นอยู่ของเหล่าพสกนิกรให้ดีขึ้น ส่งผลทำให้มีการรุกรานธรรมชาติบนยอดเขาลดน้อยลง เพราะเมื่อคนมีอาชีพ มีความรู้ และแหล่งทำมาหากิน ก็จะมีการทำลายธรรมชาติลดน้อยลง และก็หวงแหนแหล่งที่ทำมาหากินของตนมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบัน โครงการดังกล่าว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้สานต่อ และยังทรงเป็นองค์ประธานและดูแลดำเนินงานต่างๆ ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี โดยแบ่งออกเป็น 3 หลักได้ดังนี้
1. การพัฒนาคน
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
ส่งเสริมการศึกษาให้ชาวบ้านได้มีองค์ความรู้และเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น จากนั้นส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนได้มีอาชีพที่สุจริตสามารถที่จะยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเองได้อย่างมั่นคงยั่งยืน เมื่อคนและชุมชนเข้มแข็งโอกาสที่ไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย อาทิ การตัดไม้ทำลายป่า จวบไปจนถึงการค้ายาเสพติด ลดน้อยลง
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
2. การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
การพัฒนาอันเนื่องมาจากการพัฒนาคน โดยการส่งเสริมให้มีแหล่งทำมาหากิน แหล่งอาชีพ ไปจนถึงการส่งเสริมธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้าน อาหาร การท่องเที่ยว การเกษตรกรรม และ อุตสาหกรรม ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อเป็นการลดปัญหาการเบียดเบียนทรัพยากรธรรมชาติอย่างผิดกฎหมาย หรือเป็นการลดปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อมไปอีกด้วย
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
3. พัฒนาความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ
© รูปต้นฉบับ: DoiTungClub, Facebook
น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่าฉันใด คนเราก็ต้องพึ่งธรรมชาติฉันนั้น โดยสมเด็จย่าทรงมีพระราชดำริให้ปลูกป่าต้นน้ำขึ้น เพื่อทดแทนป่าเดิม และทรงมีดำริให้มีการปลูกป่าเศรษฐกิจขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านได้มีแหล่งอาชีพและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านั้นเพื่อเลี้ยงชีพ และที่สามารถพบเห็นและมีชื่อเสียงออกสู่สายตาคนไทยและสายตาคนทั้งโลก นั้นก็คือ กาแฟพันธุ์อาราบิกาและแมคคาเดเมียที่มีความเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของดอยตุงเป็นอย่างดี
Advertisements