Must See!! 10 อันดับหนังเยี่ยม กวาดออสการ์มากที่สุดในประวัติศาสตร์

อันดับ 10 Amadeus (1984)

8 รางวัลออสการ์ (ปี 1985)

หนังดนตรีคลาสสิกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่ง นำเสนอด้านดีด้านเลวความอิจฉาริษยาของมนุษย์ได้ถึงแก่น งานด้านภาพฉากประกอบสุดอลังการ คอสตูมจัดเต็มทรงเกียรติ การใส่จังหวะดนตรีที่เฉียบขาดเพื่อแสดงอารมณ์ของตัวละคร อีกทั้งนักแสดง F. Murray Abraham ก็มอบการแสดงชื่นชมต่อหน้าและร้ายลับหลังได้อย่างยอดเยี่ยม องค์ประกอบทั้งหมดคู่ควรแก่รางวัลใหญ่ Best Picture และคว้าออสการ์ไปถึง 8 รางวัล

อันดับ 9 Slumdog Millionaire (2008)

8 รางวัลออสการ์ (ปี 2009)

ฮือฮามากในปีนั้น การนำเสนอคนรากหญ้าในอินเดียด้วยมุมมองใหม่ผ่านเกมเศรษฐีชิงเงินล้านพร้อมเล่าปูมหลังตัวละครที่สุดจะดราม่า โดดเด่นด้านบทภาพยนตร์ดัดแปลงที่ยอดเยี่ยม การเล่าเรื่องที่แปลกใหม่โดยฝีมือผู้กำกับ Danny Boyle ผสมกับการลำดับภาพสุดหวือหวาแต่ช่วยให้หนังดูง่ายและชวนลุ้นตลอดเรื่อง จนสามารถกวาดออสการ์ได้สูงสุดถึง 8 รางวัลอย่างไร้ข้อกังขา

อันดับ 8 On the Waterfront (1954)

8 รางวัลออสการ์ (ปี 1955)

หนังที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ออกฉาย การแจ้งเกิดของนักแสดง Marlon Brando ให้เป็นตำนาน กวาดรางวัลไป 8 ออสการ์ หนังว่าด้วยเรื่องฉ้อฉลในท่าเรือนิวยอร์กและเส้นทางอาชญากรรม ใครคอหนังเก่าๆ ภาพฟิล์มขาวดำยิ่งต้องดูเพราะภาพและการจัดแสงสวยมากทีเดียว หรือถ้าใครไม่สันทัดแนวนี้แนะนำให้ลองเรื่องนี้ซักครั้งอาจจะเปลี่ยนความคิดท่านไปตลอดกาลเลยก็เป็นได้

อันดับ 7 The Last Emperor (1987)

9 รางวัลออสการ์ (ปี 1988)

หนังอ้างอิงจากประวัติศาสตร์จีนการเปลี่ยนผ่านระบอบกษัตริย์สู่สาธาณรัฐ ที่พอดูจบถึงกับจุก กวาดรางวัลเบาๆ ชิง 9 สาขากวาดเรียบ 9 ดีงามทุกองค์ประกอบทั้งโปรดักชั่นระดับ EPIC ทหารนับหมื่น พระราชวังใหญ่โตอลังการไม่พึ่ง CG งานด้านบทจัดว่าอยู่ในระดับเทพขึ้นหิ้งยิ่งดูยิ่งสะเทือนใจ เชื่อเลยว่าเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในภาพยนต์ในดวงใจของใครหลายคนแน่นอน

อันดับ 6 Gigi (1958)

9 รางวัลออสการ์ (ปี 1959)

หนังเพลงมิวสิคัลอมตะอีกเรื่องหากใครชอบ The Sound of Music, Singing in the rain, Chicago หรือ ล่าสุดอย่าง La La Land เรื่องนี้ก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ชิงออสการ์ 9 สาขาและกวาดเรียบ 9 สาขารวด หนังรักเบาสมองกับบรรยากาศแสนโรแมนติก ดูตอนนี้พล็อตอาจดูเชยๆ ก็เรื่องมันตั้ง 60 กว่าปีที่แล้วแต่ทรงคุณค่าจนเป็นหนังคลาสสิกที่ต้องถูกพูดถึงทุกยุคทุกสมัย

อันดับ 5 The English Patient (1996)

9 รางวัลออสการ์ (ปี 1997)

เรื่องราวความรักต้องห้ามท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 2 คว้ารางวัลสูงถึง 9 ตัวรวมถึง Best Picture หนังในสีโทนน้ำตาลๆ ให้เข้ากับบรรยากาศทะเลทราย ซึ่งสวยมากๆ และหนังได้พาเพลง “As Far As Florence” โด่งดังไม่แพ้ My Heart Will Go On ใน Titanic เลย ถึงแม้จะไม่ใช่หนังรักโลกสวยแต่มันก็สะท้อนเรื่องจริงอันเจ็บปวดแสนงดงามของความรักได้อย่างจริงใจซะเหลือเกิน

อันดับ 4 West Side Story (1961)

10 รางวัลออสการ์ (ปี 1962)

หนังเพลงมิวสิคัลเกี่ยวกับการวิวาทระหว่าง 2 แก๊งค์ แต่เป็นการทะเลาะกันแบบละครเวทีผ่านการเต้นสไตล์ Modern Dance ลบภาพความน่ากลัวไปได้เลยเพราะเป็นการตีกันที่งดงามมาก อีกทั้งบทที่ยอดเยี่ยมสะท้อนปัญหาวัยรุ่นและการเหยียดผิว ส่งผลให้เป็นหนังทรงคุณค่าดีงามทุกองค์ประกอบกวาดเรียบ 10 รางวัลจากการเข้าชิง 11 สาขา

อันดับ 3 Ben-Hur (1959)

11 รางวัลออสการ์ (ปี 1960)

ต้นฉบับ Ben Hur ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์กวาดรางวัลออสการ์มากสุดถึง 11 รางวัล หนังเล่าประเด็นยุคจักรวรรดิโรมันการหักหลังล้มล้างอำนาจ ขนานกับเส้นเรื่องชีวประวัติพระเยซู “ฉากแข่งรถม้า” อันลือลั่นเขย่าวงการ ทั้งรถม้า ม้าจริง หรือนักแสดงประกอบบาดเจ็บเสียชีวิตขณะถ่ายทำก็มี ลองคิดดูว่าเกือบ 60 ปีที่แล้วการสร้างหนังอภิมหากาพย์ระดับนี้ต้องใช้ความทะเยอทะยานมากแค่ไหน

อันดับ 2 The Lord of the Rings: The Return of the King (2003)

11 รางวัลออสการ์ (ปี 2004)

สร้างประวัติศาสตร์แห่งออสการ์ในการคว้ารางวัลมากที่สุด 11 ตัวจากการชิง 11 สาขา เรียกได้ว่ามาหมดเก็บหมด อภิมหาไครภาคสงครามชิงอำนาจแห่งแหวนดีงามทั้งคำวิจารณ์ทุกองค์ประกอบและรายได้ถล่มทลาย ขนาดเป็นหนังเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่เชื่อว่าภาพสวย บทดี เอฟเฟ็กต์เทพยิ่งกว่าหนังปัจจุบันหลายเรื่องเสียอีก

อันดับ 1 Titanic (1997)

11 รางวัลออสการ์ (ปี 1998)

I am the king of the world คงไม่ต้องพูดอะไรมากเข้าชิง 14 รางวัลและกวาดถล่มทลายไปถึง 11 รางวัล หนังทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก จนติดเป็นกระแสฟีเวอร์มากในยุคสมัยนั้น ใครไม่เคยดูถือว่าเอ๊าท์มาก ขนาดเวทีออสการ์ในปีนั้นยังเป็นรูปเรือ Titanic เลย บ่งบอกได้เลยว่าปีนี้เป็นปีของ Titanic เขาจริงๆ

อย่างไรก็ตามหนังดีการันตีรางวัลขนาดนี้ ก็ใช่ว่าจะเป็นหนังดีสำหรับทุกคน หนังที่ดีสำหรับท่านอาจจะไม่เคยได้รับรางวัลอะไรเลยก็ได้ แต่มันก็เป็นหนังในดวงใจซี่งมันมีคุณค่ายิ่งกว่ารางวัลไหนทั้งหมดเสียอีก

CR : ranker ,Imdb , glasscat219.pixnet