#อันดับ2อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก “10 ที่เที่ยวดีที่สุดในโลก ปี 2018” เตรียมร่อนใบลาได้เลย

CNN ได้จัดให้มีการจัดอันดับในหลายๆ เรื่องค่ะ ทั้งเรื่องอาหารการกิน ไปจนถึงเรื่องที่ท่องเที่ยว ซึ่งในปี 2018 นี้ CNN Travel ได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ ๆ ซึ่ง Undubzapp ได้รวบรวมมาให้แล้วค่ะ

 

อันดับที่ 10 เพิร์ท (Perth), ออสเตรเลีย

เพิร์ท (Perth) เป็นเมืองหลวงของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำ Swan และแม่น้ำ Canning มีชายหาดฝั่งทะเลมหาสมุทรที่งดงาม มีแนวต้นปาล์มเป็นเส้นวาดแบ่งขอบฟ้าและน้ำทะเล ที่นี่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ แกลอรี่และภัตตาคาร และมีเมืองชายหาดหลายเมือง

 

อันดับที่ 9 เอสซัวร่า (Essaouira), โมรอคโค

Essaouira จะออกเสียงว่า “เอสซัวร่า”, “เอสซัวอิร่า” หรือ “เอสซาวีร่า” ก็ได้ ชื่อนี้มีความหมายว่า “เมืองที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี” ซึ่งเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะมองไปทางไหนก็สวยงามน่าถ่ายภาพไปหมด Essaouira ตั้งอยู่บนชายฝั่ง Atlantic ทางภาคตะวันตกของโมรอคโค ตัวเมืองเต็มไปด้วยบ้านเรือนทรงกล่อง สูง 2-4 ชั้น มีถนนเมนหลัก และตรอกซอกซอยแคบๆ และชายหาดที่งดงาม

 

อันดับที่ 8 ปวยบลา (Puebla), เม็กซิโก

ปวยบลา เมืองที่เก่าแก่ของเม็กซิโก ตั้งอยู่ในหุบเขาภูเขาไฟ 4 แห่ง ในอดีตเป็นเมืองในอาณานิคมของสเปน ทำให้ยังคงมีอาคารเก่าแก่มากกว่า 2,000 หลังหลงเหลืออยู่ให้ได้ชื่นชมการก่อสร้างอาคารที่ใช้กระเบื้อง Talavera, โบสถ์สไตล์บาร็อคที่ตกแต่งด้วยรูปปั้นเทวดานางฟ้า, หอคอยสูง, และคฤหาสน์จากยุคอาณานิคม

 

อันดับที่ 7 นากาโน่, ญี่ปุ่น

จังหวัดนากาโน่ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่เกือบใจกลางของประเทศญี่ปุ่น ถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาสูงถึง 3,000 เมตรจำนวนมากมาย 4 ทิศ ถูกขนานนามว่าเป็น “หลังคาของประเทศญี่ปุ่น” มีสภาพอากาศที่บริสุทธิ์เป็นปัจจัยทำให้สามารถผลิตโซบะ รวมทั้งปลูกแอปเปิ้ลได้รสชาติอร่อย เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของจังหวัดนากาโน่

 

อันดับที่ 6 แบมฟ์, แคนาดา

แบมฟ์เมืองเล็กๆ ในอ้อมกอดขุนเขาร็อคกี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นสกี, การพายเรือคายัค และการเดินป่า เพียบพร้อมไปด้วยที่พักที่หรูหรา อาหารชั้นดี และชีวิตยามค่ำคืน ท่ามกลางทิวทัศน์งดงามใกล้ทะเลสาบหลุยส์

 

Advertisements

อันดับที่ 5 เนวิส (Nevis)

เกาะเล็ก ๆ ในทะเลแคริบเบียน เป็นส่วนหนึ่งของวงแหวนของหมู่เกาะเวสต์อินดีส ทั้ง Nevis และเกาะ Saint Kitts ที่อยู่ติดกันถือเป็นประเทศเดียวกันค่ะ เรียกว่า สหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส ที่นี่เป็นหนึ่งในเกาะที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและยังอุดมสมบูรณ์ที่สุดในแคริบเบียน

 

อันดับที่ 4 เซอร์เบีย (Serbia)

เซอร์เบีย (Serbia) เป็นประเทศที่ผ่านร้อนผ่านหนาวจากศึกสงครามระหว่างจักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิออตโตมัน วัฒนธรรมจึงมีการผสมผสานตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว มีงานศิลปะหลายแห่ง ทั้งจิตรกรรมไบแซนไทน์ และโครงสร้างหินอ่อนของอาราม Studenica อารามออโธด็อกซ์ยุคศตวรรษที่ 12 ที่ฝังศพของกษัตริย์เซอร์เบียพระองค์แรกๆ และความสวยงามของอุทยานแห่งชาติ Djerdap ที่เพียบพร้อมไปด้วยหุบเขา ผืนป่ากว้าง

 

อันดับที่ 3 เกาะมอลตา (Malta) หรือ ประเทศมอลตา

เกาะมอลตา ประกอบไปด้วย 3 เกาะ คือ มอลต้า โกโซ และโคมิน่า ตั้งอยู่ระหว่างเมืองซิซิลีและชายฝั่งของแอฟริกา ขึ้นชื้อว่าเป็นประเทศที่มีอากาศดีที่สุดในโลก และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม รวมทั้งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งมีค่าครองชีพถูกมากๆ เมื่อเทียบกับเมืองอื่นในยุโรป

 

อันดับที่ 2 อุทยานแห่งชาติ Botum Sakor, กัมพูชา

อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศกัมพูชา และเป็นที่ตั้งของระบบนิเวศที่หลากหลายตั้งแต่ป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์ไปจนถึงที่ราบชายฝั่งและทุ่งหญ้า ภายในเป็นที่ตั้งของ Elephant Corridor ที่มีพื้นที่ 700 ตารางกิโลเมตรซึ่งเป็นที่ตั้งของประชากรช้างเอเชียที่ใหญ่ที่สุดของประเทศกัมพูชารวมทั้งหมู่บ้านน้ำตกนกที่หายาก

 

อันดับที่ 1 หมู่เกาะเคปเวิร์ด

ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา เป็นที่รู้จักกันดีในด้านดนตรีและ วัฒนธรรมพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์ มีชายหาดงดงามที่มีฉากหลังเป็นทัศนียภาพของยอดภูเขาไฟ ทั่วทั้งเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันของพาสเทล และเส้นทางเดินป่าที่คดเคี้ยวข้ามทุ่งลาวาไปตามหุบเหวลึก และจงอย่าพลาดการชื่นชมเมืองมรดกโลก Cidade Velha ซึ่งเป็นเมืองท่าของโปรตุเกสสมัยศตวรรษที่ 15 ที่ Christopher Columbus และ Vasco de Gama

SOURCE: CNN

แนะนำพูดคุย ADD Line @UndubZapp

Advertisements

Advertisements

Advertisements