หากใครได้เดินทางออกนอกบ้านในช่วงนี้ คงจะสังเกตได้ว่าบรรยากาศของประเทศไทยดูคล้ายกับถูกปกคลุมด้วยหมอกบางอย่าง ซึ่งความจริงแล้วหมอกที่เห็นนี้ไม่ใช่หมอกที่เกิดจากละอองน้ำ แต่กลับเป็นฝุ่นละอองจากมลพิษในอากาศที่เพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจุบันกรมควบคุมมลพิษได้เปิดเผยข้อมูลว่า ในกรุงเทพฯ และปริมลฑลนั้นมีปริมาณค่าฝุ่นละอองในสภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม ซึ่งถือเป็นระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว โดยผลพวงจากมลพิษเกินมาตรฐานนี้สามารถส่งผลร้ายต่อร่างกายได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น อาการเบื้องต้นอย่างการไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา รวมทั้งยังอาจส่งผลให้เกิดอาการของโรคหอบหืด แถมการหายใจเอาฝุ่นละอองเข้าไปมากๆ ก็อาจสะสมจนกลายเป็นโรคร้ายได้หลายโรค อย่างโรคมะเร็งปอด เป็นต้น
ดังนั้น ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตฝุ่นละอองเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องหันมาตระหนักและใส่ใจกับอันตรายของมลพิษกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะ 5 อันดับมาตรการป้องกันดูแลสุขภาพเบื้องต้นในสภาวะวิกฤติฝุ่นละอองจะมีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูข้อมูลที่ UndubZapp นำมาฝากกันค่ะ
5. ดื่มน้ำให้มากขึ้น
สำหรับใครที่เผลอสูดละอองฝุ่นควันเข้าไปบ้างแล้ว อาจรู้สึกได้ถึงอาการเจ็บคอ แถมยังตามมาด้วยอาการไอทั้งที่ไม่ได้เป็นหวัด ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะฝุ่นละอองที่เข้าไปติดค้างอยู่ในปอดและหลอดลมนั่นเอง โดยวิธีเบื้องต้นในการดูแลร่างกายจากอาการดังกล่าวก็คือ การดื่มน้ำให้มากเพื่อชำระฝุ่นละอองตามทางเดินหายใจ รวมทั้งลดการระคายเคืองของอวัยวะต่างๆ แต่หากยังพบว่าดื่มน้ำแล้วอาการไม่ดีขึ้น แถมยังมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือหายใจลำบากตามมาด้วย ถือเป็นอาการที่ต้องรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วนค่ะ
4. เลี่ยงการออกกำลังกายนอกสถานที่
สำหรับอันดับที่ 4 นี้มีไว้สำหรับคนสายรักสุขภาพโดยเฉพาะ เพราะถึงแม้การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่นั่นไม่ใช่สำหรับสภาวะอากาศเช่นนี้ค่ะ โดยในช่วงที่ฝุ่นละอองอยู่ในขั้นวิกฤต ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายภายนอกอาคารโดยเด็ดขาด เพราะกิจกรรมดังกล่าวจะส่งผลให้ร่างกายสูดมลพิษเข้าไปมากกว่าคนปกติ ซึ่งแทนที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น จะยิ่งทำให้ฝุ่นละอองเข้ามาทำร้ายร่างกายมากขึ้นแทน โดยช่วงนี้ให้เปลี่ยนมาออกกำลังกายภายในบ้านหรือภายในยิมดีกว่า
3. ลดกิจกรรมภายนอกอาคาร
ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายกลางแจ้งเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นการเดินถนน เดินช้อปปิ้ง หรือกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่ภายนอกอาคารก็ควรหลีกเลี่ยงด้วยทั้งสิ้น เพราะยิ่งเราอยู่ภายนอกอาคารมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสูดมลพิษเข้าปอดไปมากเท่านั้น โดยในช่วงนี้ ควรมีการวางแผนการทำธุรกรรมต่างๆ ภายนอกอาคารให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีมลพิษสูง อย่างตามข้างถนนที่มีการจราจรติดขัด เป็นต้น
Advertisements
2. เพิ่มคุณภาพการกรองอากาศภายในอาคาร
สำหรับอันดับ 2 นี้ ถือเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของอากาศภายในอาคารได้มากทีเดียว ยิ่งในช่วงที่อากาศภายนอกเป็นพิษ แม้จะอยู่ภายในอาคารที่มิดชิดก็ยังอาจมีฝุ่นละอองลอยเข้ามาได้เช่นกัน โดยเราสามารถเพิ่มคุณภาพของอากาศภายในอาคารได้ด้วยการปรับเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในโหมดการใช้อากาศภายในอาคารแบบหมุนเวียน แทนที่จะดึงเอาอากาศภายนอกเข้ามา รวมทั้ง พิจารณาการใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีเครื่องกรองอนุภาคฝุ่นละอองประสิทธิภาพสูง ก็จะช่วยลดระดับอนุภาคภายในบ้านหรือในอาคารไปได้มากทีเดียวค่ะ
1. ทำความรู้จักหน้ากาก N95
สำหรับอันดับหนึ่งในการปกป้องสุขภาพทางเดินหายใจที่ดีที่สุดนั้น ก็คือการป้องกันตัวเองด้วยการสวมใส่หน้ากากที่สามารถช่วยกรองอากาศก่อนเข้าสู่ร่างกาย โดยหน้ากากที่เหมาะสมกับสภาวะฝุ่นละอองในปัจจุบันนั้น ควรเลือกหน้ากาก N95 หรือ N99 ที่สามารถกรองฝุ่นละอองได้ถึงร้อยละ 95 -99 โดยเฉพาะฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ 2.5 PM ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด รวมทั้งอวัยวะต่างๆ จนทำให้เกิดเป็นโรคเรื้อรังได้ นอกจากนี้ ยังต้องหมั่นตรวจสอบให้หน้ากากกระชับกับใบหน้าอย่างเหมาะสม จึงจะสามารถกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปกป้องปอดจากควันพิษในอากาศได้อย่างแท้จริงค่ะ
Advertisements