ความสำเร็จไม่ไกล แต่ทำไมไปไม่ถึง 5 อุปสรรคใหญ่ ทำให้ฝัน “ไม่เป็นจริง”

ใครๆ ก็มีความฝันของตัวเอง แต่น้อยคนนักที่จะสามารถทำความฝันให้เป็นจริงได้ จนน่าแปลกใจว่าคนที่ประสบความสำเร็จได้นั้นเขาทำกันอย่างไร แต่ก่อนที่จะพุ่งเป้าไปที่วิธีการ UndubZapp อยากให้คุณย้อนกลับมาคิดถึงจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง และเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้แต่ละคนมีความแตกต่างกันมากที่สุด นั่นก็คือ ความคิดค่ะ

ความคิด คือสิ่งที่ทำให้บางคนมีพลัง แต่กลับทำให้บางคนรู้สึกเหมือนไม่มีเรี่ยวแรง ดังนั้น ความคิดจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้คนทำความฝันให้สำเร็จได้ รวมทั้งยังมีความคิดบางประเภทที่ทำหน้าที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้เราไปถึงเป้าหมายได้เช่นกัน ส่วนอุปสรรคของความฝันที่ว่าจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันค่ะ

1. โลกสวย คาดหวังแต่ความสุข

หลายคนคาดหวังให้ชีวิตของตัวเองมีแต่ด้านที่สวยงามเท่านั้น และมีความคิดในส่วนลึกว่าตนเองจะต้องมีความสุขอยู่เสมอ ดังนั้น เมื่อใดที่เกิดความทุกข์ขึ้นกับชีวิต หรือเพียงแค่บางอย่างไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ก็มักจะทำให้คนกลุ่มนี้รู้สึกเหมือนว่าตนเองล้มเหลวและหมดพลังไปในทันที หากคุณสามารถเปลี่ยนความคิดเพื่อเข้าใจความจริงของโลกที่ว่า ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงเสมอได้ คุณก็จะมีอิสระในการใช้ชีวิตได้มากขึ้นค่ะ

2. ไม่กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง

ในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนต่างอยากเป็นตัวของตัวเอง และอยากแสดงความสามารถของตนเองให้เต็มที่ แต่คนบางกลุ่มกลับมีความเชื่อว่า การพยายามทำตามความฝันดูเป็นเรื่องน่าอาย แถมยังกลัวคำวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบจากคนอื่น ซึ่งตรงนี้ขอให้ปรับความคิดตัวเองเสียใหม่ด้วยการมองภาพให้กว้างขึ้นค่ะ การที่คุณสามารถทำความฝันดีๆ ของคุณให้กลายเป็นจริงได้ ถือเป็นการสร้างสิ่งดีๆ ให้กับโลกใบนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับความคิดของคนกลุ่มเล็กๆ รอบข้าง แต่ให้คิดถึงสิ่งดีๆ ที่คุณจะมอบให้กับโลกใบนี้ ซึ่งนั่นถือเป็นความคิดที่มีพลังมหาศาลเลยค่ะ

3. มีข้อแม้เยอะ

การไม่อยู่กับปัจจุบันมักทำให้เรามีข้อแม้กับตัวเองอยู่เสมอ เช่น ฉันจะมีความสุขก็ต่อเมื่อฉันทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ได้สำเร็จ ซึ่งนั่นหมายความว่าระหว่างทางในการวิ่งตามความฝันนี้ คุณจะไม่มีความสุขกับชีวิตเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรอคอยวันที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เมื่อความฝันสำเร็จ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ชีวิตคุณได้เริ่มขึ้นแล้ว ณ ตอนนี้ ดังนั้น จงอยู่กับปัจจุบัน ซึมซับความสุขจากทุกสิ่งที่คุณมีในตอนนี้ ซึ่งจะช่วยให้คุณวิ่งตามความฝันได้อย่างมีพลังมากกว่าค่ะ

4. หลอกตัวเอง

ถือเป็นความกดดันของสังคมในสมัยนี้ที่เต็มไปด้วยการอวดเฉพาะชีวิตด้านที่สวยงามลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งนั่นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หลายคนหลอกตัวเอง ด้วยการใช้จ่ายเยอะกว่าที่ควรจะเป็นเพื่อแสดงให้คนอื่นเห็นว่าชีวิตของตัวเองมีความสุขสุดๆ แต่ความจริงแล้วภายในกลับรู้สึกว่างเปล่าและเอาแต่เฝ้ามองชีวิตคนอื่นในโซเชียลเช่นเดียวกัน ซึ่งขอบอกเลยว่านี่คือวิถีชีวิตที่มีแต่ความกดดันไม่มีที่สิ้นสุด จงซื่อสัตย์กับตัวเองด้วยการแสดงออกในสิ่งที่เป็นตัวเอง แล้วจะรู้ว่านี่คือวิธีการใช้ชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยพลังบวกแบบสุดๆเลยค่ะ

5. ยอมแพ้ทันทีที่ล้มเหลว

ถือเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงสำหรับคนที่วิ่งตามความฝันเลยทีเดียว เพราะหลายคนกลับทิ้งความฝันของตนเองไปด้วยความล้มเหลวและความพยายามเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น หากใครที่เคยอ่านหนังสือชีวประวัติของบุคคลสำคัญในโลกจะรู้ว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จนั้นต่างผ่านการล้มลุกคลุกคลานมาอย่างโชกโชน ดังนั้น การเดินหน้าทำตามความฝันจึงไม่ใช่การคาดหวังเฉพาะความสำเร็จที่ปลายทางเท่านั้น แต่คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในแต่ละวันเพื่อนำกลับมาพัฒนาความคิดของตนเองและเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ รับรองว่า สักวันหนึ่งคุณจะก้าวไปถึงความฝันได้แบบที่ไม่ทันรู้ตัวเลยค่ะ