กำลังย่างเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวกันแล้ว หลายๆคนคงกำลังเริ่มวางแพลนหาที่เที่ยวกันแล้วล่ะสิ จะไปไหนดีนะ?? เมื่อหน้าร้อนคู่กับทะเล เกลียวคลื่นและแสงสุดท้ายของดวงตะวัน ดังนั้นสิ่งที่คู่กับหน้าหนาวคงไม่พ้นภูเขา และแสงแรกยามของดวงตะวันที่สะท้อนกับทะเลหมอกยามเช้าพร้อมลมหนาวอ่อนๆพัดที่ปะทะผิวกายเป็นแน่ อย่ารอช้า!! เราไปทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทะเลหมอกสวยๆอากาศเย็นสบายที่ผู้คนนิยมไปเสพบรรยากาศแห่งความสุขกันเลยดีกว่า
1.นาขั้นบันได แม่แจ่ม
หากคุณชื่นชอบมาเที่ยวภาคเหนือ นอกจาก ดอยปุย ดอยอ่างข่าง หรือดอยอินทนนท์แล้ว “นาขั้นบันได” ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันมาก ด้วยความงดงามของบรรยากาศสายหมอกบางๆที่โอบกอดหุบเขา ทุ่งนาที่ลักษณะเป็นขั้นบันไดซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีทองเหลืองอร่ามยามปลายฝนต้นหนาวหรือช่วงปลายเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน และความสงบ วิถีที่เรียบง่ายของชาวบ้านที่เหมือนหลุดไปในอดีตนั้น ทำให้แม่แจ่มต่างออกไปจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง Unseen ของสถานที่ท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่เลยทีเดียวนะเจ้า
2.สวนผึ้ง ราชบุรี
หากคุณกำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถไปได้ทั้งครอบครัวโดยไม่ต้องกังวลกับการเดินทาง ที่พักและกิจกรรมต่างๆ ไม่ควรพลาด “สวนผึ้ง” หรือ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับครอบครัวใหญ่ เต็มไปด้วยบรรดารีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฟาร์มแกะและอัลปาก้า ไร่องุ่น น้ำตกและยังมีธารน้ำร้อนให้คลายหนาวอีกด้วย หรือหากใครชื่นชอบการผจญภัยก็ยังมี TripTravelGang ให้ไปลุยกันได้ ที่สำคัญถนนหนทางก็สะดวกสามารถขับรถส่วนตัวไปเองได้ นอกจากนี้บรรยากาศของสวนผึ้งยังให้อารมณ์ราวกับกำลังเที่ยวต่างประเทศ เนื่องจากถูกโอบกอดด้วยแนวเขาตะนาวศรีทำให้มีอากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ในบางวันอุณหภูมิต่ำสุดถึง 2 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
Advertisements
3.ดอยเสมอดาว น่าน
หากจะอยากใกล้ชิดลมหนาวแบบสุดๆ หรืออยากเอื้อมมือไปบนท้องฟ้าแล้วเหมือนกับได้คว้าเอาดวงดาวมาอยู่ในมือล่ะก็ ขอแนะนำว่าอย่าพลาดที่นี่ ชื่อก็บอกไว้อยู่แล้วว่า “ดอยเสมอดาว” ด้วยบรรยากาศที่เย็นสบาย และทัศนียภาพที่สวยงามของทิวเขาแถบภาคเหนือ ทำให้ใครหลายๆคน ต่างก็ตกหลุมรักที่นี่มานักต่อนักแล้ว ยังไม่พอเพียงเท่านั้น เพราะนอกจากความสวยงามและความหนาวเย็นที่คุณจะได้รับแล้ว ก็ยังมีความโรแมนติกของบรรยากาศยามเช้าตรู่ไปตลอดจนถึงยามค่ำคืน ไม่ว่าจะมาเดี่ยวก็เที่ยวได้อย่างสุขใจ หรือจะมาเป็นคู่ก็ได้มาเติมความหวานให้กันและกัน
© รูปต้นฉบับ: weekendhobby.com
4.ภูห้วยอีสัน หนองคาย
นอกจากเหล่า ภู ดอย ทางภาคเหนือแล้วภูทางภาคอีสาน ก็มีความงดงามไม่แพ้กัน “ภูห้วยอีสัน” ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย เป็น Unssen ของจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน – มกราคมอีกจุดหนึ่งในหนองคาย เพราะสามารถเห็นทะเลหมอกได้กว้างไกลลิบหูลิบตาเลยทีเดียว เมื่อมองลงไปด้านล่างก็ยังสามารถเห็นเกาะแก่งของแม่น้ำโขงได้อีกด้วย นอกจากนี้เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นหมอกสีขาวนวลจะกลายเป็นสีทองอ่อนๆงามตา ช่างเหมาะกับคู่รักที่อยากมีซีนโรแมนติก โอบกอดกันท่ามกลางความหนาวรับความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์อ่อนๆยามเช้า คงหวานกันจนน้ำตาลเรียกพี่กันเลย
© รูปต้นฉบับ: pongtanit,อินสตาแกรม
5.เขาไข่นุ้ย พังงา
สำหรับใครที่อยากดูทั้งแสงสุดท้ายที่สะท้อนเกลียวคลื่น และแสงแรกยามเช้าที่สะท้อนทะเลหมอก “เขาไข่นุ้ย” จากบ้านฝ่ายท่า ต.ทุ่งมะพร้าว จ.พังงา สถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของชาวพังงาสามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน เพราะตั้งควบอยู่ทั้งฝั่งภูตาจอกับฝั่งทะเลอันดามันที่สำคัญยังมีจุดเด่น 5 มหัศจรรย์ คือ พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ทะเลหมอก ทะเลอันดามัน และทิวเขา โอ้โห!! มาที่เดียวได้ครบทั้งทะเลคลื่นและทะเลหมอกเลย คุ้มค่ากว่านี้ไม่มีอีกแล้ว อีกทั้งยังสามารถมาชมทะเลหมอกได้แม้จะอยู่ในช่วงหน้าร้อนก็ตาม
© รูปต้นฉบับ: khemji_p, อินสตาแกรม
ใครที่ยังไม่เคยไปสัมผัสทะเลหมอก ณ สถานที่เหล่านี้ และเบื่อสถานที่เดิมๆที่เคยไป ลองพิจารณาความ Unseen ของเหล่าที่ท่องเที่ยวนี้ดู รับรองว่าอิ่มอกอิ่มใจกับความสุขกายสบายใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว สุดท้ายนี้…. วางแผนให้ดี รักษาสุขภาพร่างกายให้พร้อม และโชคดีกับการเดินทางครั้งใหม่
Advertisements