หากพูดถึงสถานที่เที่ยวเชิงธรรมชาติสุดท้าทายของสายอึดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย รับรองว่าหนึ่งในคำตอบของจะต้องมี ภูกระดึงอยู่ด้วยแน่ๆ เพราะการจะได้ขึ้นไปสัมผัสกับธรรมชาติที่เรียกว่า ธรรมชาติแบบสุดๆ ของ อุทยานแห่งชาติภูกระดึงนั้น ผู้พิชิตต้องเดินเท้ากันเป็นระยะทางกว่า 9 กิโลเมตรเลยทีเดียว ฟังดูแล้วอาจจะโหด แต่ UndubZapp รับรองเลยว่า วิวทิวทัศน์ของธรรมชาติบนภูกระดึงนั้น คุ้มค่ากับความเหนื่อยแบบสุดๆ แถมยังมีจุดเช็กอินที่สายฟินธรรมชาติพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด โดยจะมีที่ไหนบ้างนั้น ตาม UndubZapp ไปขึ้นภูกระดึงกันค่ะ
1. กางเต็นท์นอนที่วังกวาง
วังกวางนั้น คือจุดกางเต็นท์หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อยู่บนภูกระดึง โดยพื้นที่แห่งนี้มีความราบเรียบ เป็นพื้นทรายนุ่มที่เหมาะกับการกางเต็นท์พักผ่อนอย่างมาก โดยศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวางนั้นเป็นทั้งแหล่งที่กิน และแหล่งที่พักกว้างขวางใต้ลานสนที่สามารถรองรับเต็นท์นักท่องเที่ยวได้อย่างกว้างขวาง แถมยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเต็นท์ ถุงนอน เบาะรองนอน และหมอน ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งที่พักที่นักท่องเที่ยวจะได้ฟินกับบรรยากาศธรรมชาติอย่างเต็มที่แล้ว ยังมีกวางเจ้าถิ่นจำนวน 2 ตัวที่ตามกลิ่นอาหารมาหานักท่องเที่ยวอยู่บ่อยครั้งอีกด้วย
2. ชมสระอโนดาต
สระอโนดาตอยู่ห่างจากวังกวางประมาณ 3 กิโลเมตร โดยมีลักษณะเป็นบึงที่มีธารน้ำไหลไปตามร่องหิน เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่สำคัญของสัตว์ป่าบนภูกระดึงเพราะบึงแห่งนี้จะมีน้ำขังอยู่ตลอดทั้งปีแม้กระทั่งหน้าแล้ง ซึ่งหากใครได้มาชมบรรยากาศริมสระแห่งนี้ในช่วงเย็นๆ นั้น ขอบอกเลยว่าฟินมากๆ เพราะจะได้เห็นแสงอาทิตย์สีทองยามเย็นที่ลอดผ่านต้นสนที่อยู่รอบๆ สระสะท้อนเงาลงไปเป็นแนวยาว ถือเป็นอีกบรรยากาศที่พลาดไม่ได้บนภูกระดึงแห่งนี้ค่ะ
3. ผาหมากดูก
นอกจากบรรยากาศยามเย็นที่สระอโนดาตแล้ว จุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดที่จะไปเช็กอินก็คือ ผาหมากดูก เพราะถือเป็นจุดชมวิวที่อยู่ห่างจากศูนย์บริการวังกวางเพียงแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นสถานที่อีกแห่งที่เหมาะไปเก็บภาพพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ เป็นที่สุดค่ะ
4. ผาหล่มสัก
หากพูดถึงจุดชมพระอาทิตย์ตกดินของภูกระดึงนั้น ชุดเช็กอินที่ฮิตอันดับหนึ่งต้องยกให้กับ ผาหล่มสักค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุดแล้ว ยังมีทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถมองเห็นธรรมชาติอันกว้างใหญ่ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ของต้นสนหรือหน้าผาต่างๆ โดยการจะขึ้นไปชมพระอาทิตย์ที่นี่ไม่จำเป็นต้องหิ้วเสบียงขึ้นไปให้ลำบากค่ะ เพราะสถานที่สุดฮิตอย่างนี้เขามีบริการร้านขายอาหารไว้ให้พร้อมสรรพ โดยผาหล่มสักยังมีจุดเช็กอินถ่ายรูปที่ทุกคนจะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด นั่นก็คือ จุดที่ชะง่อนหินยื่นออกไปจากหน้าผา แถมยังมีต้นสนที่แผ่กิ่งก้านเป็นฉากประกอบให้อย่างสวยงาม ยิ่งหากได้ถ่ายรูปขณะท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว รับรองว่าสวยจนเกินจะบรรยายเลยค่ะ
Advertisements
5. ผานกแอ่น
ชมพระอาทิตย์ตกดินกันไปแบบจุใจแล้ว มาดูจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าแบบฟินๆ กันบ้างค่ะ โดยผานกแอ่นนั้น เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ใกล้ที่สุดจากวังกวาง ซึ่งหากใครไม่ได้มาชมพระอาทิตย์ยามเช้าที่ผาแห่งนี้ก็เหมือนไม่ได้ขึ้นมาบนภูกระดึงเช่นกัน โดยนอกจากจะได้ชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว นักท่องเที่ยวยังได้ชมทิวทัศน์ของทะเลหมอกอันสวยงามเบื้องล่างอีกด้วย แถมยังชุ่มฉ่ำไปกับหยดน้ำค้างบนยอดหญ้าและดอกไม้พันธ์ุหนาวที่เบ่งบานละลานตา ถือเป็นบรรยากาศแสนสดชื่นที่ชาร์จพลังให้กับร่างกายได้แบบสุดๆ
6. ตามหาใบเมเปิ้ลแดง
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจของนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว ที่ต้องตามหาใบเมเปิ้ลแดงเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักครั้ง โดยใบเมเปิ้ลสีแดงนั้นจะมีเฉพาะในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงมกราคมในจุดป่าดงดิบที่รายล้อมด้วยน้ำตกมากมายบนภูกระดึง ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบ หรือน้ำตกโผนพบ ซึ่งแหล่งน้ำตกธรรมชาติเหล่านี้จะถูกปกคลุมไปด้วยต้นเมเปิ้ลที่หากใครได้มาชมในช่วงเวลาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงโดยพร้อมเพรียงกันแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่สวยตราตรึงไม่รู้ลืมเลยค่ะ
7. ถ่ายรูปคู่กับป้ายผู้พิชิตภูกระดึง
เรียกว่าเป็นภารกิจที่ต้องทำเป็นสิ่งสุดท้าย และเป็นจุดเช็กอินที่สำคัญที่สุดของการเป็นผู้พิชิตครั้งนี้ ก็คือการได้ถ่ายภาพคู่กับป้ายแห่งความทรงจำที่มีข้อความว่า “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง” เพื่อเก็บไว้ไปที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเราเคยชนะใจตนเองจนได้มาสัมผัสกับความงดงามบนภูกระดึงแห่งนี้ได้ ถือเป็นแรงใจสำคัญที่จะพาเรากลับไปสู้ชีวิตจริงที่อยู่เบื้องล่างด้วยพลังที่ชาร์จมาอย่างเต็มเปี่ยมค่ะ
© รูปต้นฉบับ: whitenatthawan.wixsite
Advertisements