คลายร้อนอย่างไร ถึงจะรอดซัมเมอร์เมืองไทยอันแสนร้อนระอุไปได้? หลายคนกำลังเริ่มคิดในใจไปพร้อมกับการเอาผ้าซับเหงื่อที่กำลังท่วมตัว ก็อย่างที่รู้ๆ กัน แดดเมืองไทยไม่เคยปราณีใคร แค่เดินออกจากออฟฟิศไปกินข้าวกลางวันตัวก็แทบจะละลายแล้ว ถ้าจะให้เลี่ยงไม่เจอแดดเลยก็คงจะทำได้ยาก แต่อันดับแซ่บมีเทคนิคพิเศษที่จะช่วยลดดีกรีความร้อนตับแล่บที่หลายคนคิดไปไม่ถึงว่า จะช่วยลดความร้อนได้ มาดูกันว่าจะมีวิธีอะไรบ้าง ไม่แน่ว่าบางคนอาจจะคิดไปไม่ถึงว่า เรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันจะมีส่วนช่วยคลายร้อนให้เราได้
1.จิบน้ำบ่อยๆ แต่ไม่ควรเป็นน้ำเย็นจัด
กลไกร่างกายฉลาดเหลือเชื่อ เมื่อเราอยู่ในที่อากาศร้อนจัด ร่างกายจะสั่งมีการระบายความร้อนออกมาเป็นเหงื่อเพื่อให้อุณหภมิในร่างกายเย็นลง ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำออกไป การดื่มน้ำจึงเป็นการชดเชยน้ำที่สูญเสียไป แต่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นจัดตอนอากาศร้อนจัดๆ ทันที เพราะอาจทำให้ระบบลำเลียงอาหารที่มีน้ำเย็นจัดไหลผ่าน ปรับสภาพไม่ทัน เกิดการบิดตัวรุนแรง จนทำให้ปวดท้องได้
2.ผ้าเย็น ประคบคลายร้อน
ร่างกายมนุษย์มีจุดระบายความร้อนอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น คอ หลังใบหู ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ข้อพับต่างๆ หลังออกฝ่าแดดออกไปกินข้าวกลางวันแล้ว ลองหาผ้าชุบน้ำเย็นมาประคบตามจุดระบายความร้อน จะช่วยลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย รู้สึกสบายตัวขึ้น แต่ถ้าอยู่บ้าน ก็อาบน้ำจะช่วยคลายความร้อนได้
3.พัดลมไอน้ำแข็ง ฉบับ D.I.Y
ฤดูร้อนเมืองไทยกินเวลายาวนาน 3-4 เดือน แต่อากาศร้อนเมืองไทยนั้นยาวนานกว่านั้น หากเปิดแอร์โหมกระหน่ำทุกวันค่าไฟพุ่งแน่ ปรับเปลี่ยนแผนคลายร้อนใหม่ ใช้เพียงพัดลม 1 ตัวกับน้ำแข็ง ด้วยการนำภาชนะใส่น้ำแข็งมาตั้งไว้หน้าพัดลม (อย่าลืมโรยเกลือใส่น้ำแข็งไปเล็กน้อยๆ เพื่อให้น้ำแข็งละลายช้าลง) พัดลมจะพัดเอาไอเย็นจากน้ำแข็งออกมา ช่วยให้ลมเย็นสบายขึ้น (เทคนิคนี้ไม่เหมาะกับพื้นที่กว้างๆ สักเท่าไหร่นะคะ)
4.ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มในเสื้อผ้าให้น้อยลง
น้ำยาปรับผ้านุ่มมาเกี่ยวอะไรกับการคลายร้อน???…เรื่องมันมีอยู่ว่า มันมีงานวิจัยจากอินเดียที่เค้าออกมาเผยว่า น้ำยาปรับผ้านุ่มที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้จะทำให้เสื้อผ้าระบายอากาศได้ไม่ดีนัก ทำให้เกิดการสะสมความร้อนไว้ในร่างกาย ช่วงซัมเมอร์ซีซั่นนี้ก็ลองบอกแม่บ้านให้ลดน้ำยาปรับผ้านุ่มลงสักนิด เพื่อให้เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดีขึ้น
Advertisements
5.ปิดม่านช่วยบังแดด
เรื่องง่ายๆ ที่หลายคนมองข้ามไป ส่วนมากแล้วเวลาที่เรารู้สึกว่าอากาศอบอ้าวก็มักจะไปเปิดหน้าต่างเพื่อระบายความร้อน ซึ่งวิธีนี้ช่วยระบายความอบอ้าวได้ แต่ก็เจอกับแสงแดดที่ส่องเข้ามาเช่นกัน เพราะแดดที่ส่องเข้ามาจะไปเพิ่มให้ห้องร้อนขึ้น ลองเปิดหน้าต่างแล้วติดผ้าม่านหรือมูลี่ที่ช่วยพรางแดดเพิ่ม จะช่วยให้ห้องระบายความอบอ้าวออกไปได้พร้อมกับรับลมเย็นเข้ามาโดยที่ห้องไม่โดนแดดส่องเพิ่ม
6.แต่งห้องด้วยสีอ่อน
ข้อนี้เป็นตัวช่วยในฝั่งของเรื่องจิตใจซะมากกว่า เพราะการมองเห็นวัตถุต่างๆ ที่เป็นโทนสีสบายตา เช่น สีฟ้า สีชมพูอ่อน สีพาสเทล จะช่วยให้รู้สึกว่าเย็น สงบนิ่งได้ การเปลี่ยนสีห้องหรือหาของตกแต่งสีโทนอ่อนมาวางในห้องก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้รู้สึกสบายตาขึ้น (แต่อย่าตั้งหรือวางในทิศทางที่ขวางลมเชียว เพราะแทนที่จะช่วยให้เย็นสบายตา จะกลายเป็นอบอ้าวกว่าเดิมเพราะของที่ขวางทิศทางลมอยู่) ลงทุนครั้งเดียว ชีวิตง่ายตลอดชีวิต
7. เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เย็นสบายขึ้นเยอะ
นอกจากการจัดบ้านให้ดูโล่ง โปร่ง สบายตาด้วยการตกแต่งด้วยสีอ่อนอย่างที่กล่าวมาแล้ว หลอดไฟให้แสงสว่างภายในบ้านก็มีส่วนทำให้บ้านร้อนหรือบ้านเย็นได้ โดยเฉพาะหลอดไฟประเภทไฟตกแต่ง เช่น หลอดฮาโลเจนหรือหลอดไส้รุ่นเก่า ที่มักจะปล่อยพลังงานความร้อนออกมามาก ลองเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟประเภท หลอด LED ที่ให้แสงสว่างเท่ากับหลอดไฟทั่วไปแต่ปล่อยพลังงานความร้อนน้อยกว่า นอกจากจะช่วยลดความร้อนสะสมภายในห้องแล้ว ยังช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย เพราะหลอดพวกนี้มักจะกินไฟน้อย แต่อายุการใช้งานยาวนานกว่า
Cr. pixabay
Advertisements