7 เทคนิคขั้นเทพ จัดกระเป๋าเดินทางแบบมือโปร

เคยรู้สึกไหมคะว่ากระเป๋าเดินทางที่หนักและใหญ่ ทำให้การเดินทางของเราสนุกน้อยลงไปกว่าครึ่ง กระเป๋าสัมภาระคือสิ่งจำเป็น แต่หากเราพกพากระเป๋าใบใหญ่และหนักมาก มันจะกลายเป็นภาระของเราทันที เพราะกว่าจะแบกขึ้นรถ แบกลงเรือ ยกขึ้นชั่งที่สนามบินก็ทำเราเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มท่องเที่ยวเลยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเดินทางโดยเครื่องบินของสายการบินต้นทุนต่ำแล้ว ส่วนใหญ่ราคาตั๋วจะไม่ได้รวมการโหลดกระเป๋าด้วย หากแต่รวมเฉพาะกระเป๋าที่เราถือขึ้นเครื่องบินได้ซึ่งถูกจำกัดน้ำหนักอยู่ที่ไม่เกิน 7 กิโลกรัมเท่านั้น วันนี้เราจะมานำเสนอเคล็ดไม่ลับ 7ข้อที่จะช่วยให้คุณจัดกระเป๋าได้เบาและบาง สะดวกต่อการเดินทางและยังช่วยประหยัดเงินได้ด้วยค่ะ

 

1.ม้วนเสื้อผ้าเหลือพื้นที่มากกว่าพับ

เคล็ดไม่ลับข้อแรกของนักเดินทางก็คือเสื้อผ้าไม่ต้องพับนะคะแต่ใช้วิธีม้วนให้เป็นระเบียบแล้วเรียงลงกระเป๋า เท่านี้ก็จะสามารถใช้พื้นที่ได้ทุกตารางนิ้วและเสื้อผ้าก็ไม่ยับด้วยค่ะ ถ้าพับเสื้อหรือกางเกงเรียบๆเหมือนเวลาใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้าที่บ้านละก็ ตรงขอบกระเป๋าเดินทางจะมีที่เหลือทั้ง 4ด้าน แถมตรงกลางกระเป๋ายังปูดเป็นเนิน ทำให้ปิดกระเป๋ายาก

ม้วนเสื้อผ้าเหลือพื้นที่มากกว่าพับ

Cr. lifehacker.com

 

2.ใช้พื้นที่รองเท้าให้เป็นประโยชน์

สำหรับรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าบู๊ท เวลาแพ็ครองเท้าให้เซฟพื้นที่มากที่สุด อย่าปล่อยที่ว่างในรองเท้าไว้เฉยๆ ค่ะ ลองหาของชิ้นเล็กๆ ใส่ไว้ในรองเท้า จำพวกถุงเท้า หรือของใช้ชิ้นช่วยแบ่งเบาพื้นที่ในกระเป๋าเดินทางได้อีกค่ะ แถมข้าวของชิ้นเล็กๆ ก็ไม่กระจัดกระจายด้วย ช่วยป้องกันหรือกันกระแทกไปในตัวด้วยค่ะ ที่สำคัญ เวลาไปเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแบบประหยัดและคล่องตัว กรุณาอย่าพกรองเท้าไปหลายคู่เกินจำเป็นนะคะ อย่างมากคือ2คู่ก็เกินพอค่ะ

ใช้พื้นที่รองเท้าให้เป็นประโยชน์

Cr. travelandleisure.com

 

3.เตรียมเสื้อผ้าไม่ต้องเผื่อวัน

เคล็ดไม่ลับข้อนี้ เป็นหลักพื้นฐานมากค่ะ คือถ้าไปเที่ยวสามวันสองคืน ก็เอาเสื้อใส่เที่ยวไปอย่าเกินสามตัวในโทนสีที่ไม่โดดกันมาก รวมกับชุดที่ใส่เดินทางไปด้วยแล้วถ้าเราสลับสับเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบ Mix and Match มันก็จะเหมือนเรามีเสื้อผ้าหลากหลายได้โดยไม่ต้องขนไปเยอะนะคะ แถมถ้าเราไปเจอเสื้อผ้าสวยๆที่เมืองปลายทางเราก็สามารถซื้อใหม่แล้วใส่เลยก็ได้ เช่นพวกเสื้อยืดที่ระลึกชื่อเมืองต่างๆราคาถูก และถ้าเป็นเมืองอากาศเย็นก็สามารถใส่ชุดนอนซ้ำได้ด้วยค่ะ

เตรียมเสื้อผ้าไม่ต้องเผื่อวัน

Cr. pexels.com

 

Advertisements

4.กางเกงเน้นน้อยตัวแต่ใช้ได้หลายสถานการณ์

เวลาไปท่องเที่ยว กางเกงยีนส์คือเพื่อนที่ควรพกไปด้วยค่ะ ไม่ว่าจะใส่ไปเลยหรือแพ็คลงกระเป๋าไป เพราะใส่สบายและเปื้อนยาก ใส่ได้หลายโอกาส แต่ถ้าการท่องเที่ยวครั้งไหนต้องไปงานรับประทานอาหารเย็นแบบกึ่งทางการ หรือต้องไปเยี่ยมสถานที่สำคัญพิเศษๆ แนะนำให้ลองหาซื้อกางเกงยีนส์สีดำสนิทติดตู้ไว้นะคะ พอใส่แล้วมองเผินๆเหมือนกางเกงทำงานดูเรียบร้อยและใส่สบาย แถมยังใส่ไปเที่ยวต่อได้

กางเกงเน้นน้อยตัวแต่ใช้ได้หลายสถานการณ์

Cr. pexels.com 

 

5.เสื้อคลุม,ผ้าคลุมและผ้าพันคอช่วยเปลี่ยนลุคได้

สำหรับคุณสุภาพสตรี การพกเสื้อใส่เที่ยวไปแค่ 3 ตัว กาเกง  1-2ตัวอาจจะขัดใจเวลาถ่ายภาพเพราะกลัวไม่หลากหลายพอนะคะ เคล็ดไม่ลับข้อนี้ช่วยคุณได้ค่ะ นั่นก็คือการพกผ้าพันคอหรือผ้าคลุมไหล่หลายๆแบบหลายๆสีไปด้วยนั่นเอง เสื้อตัวเดิมเพิ่มผ้าคลุมไหล่สีใหม่ ถ่ายรูปมาก็เหมือนเสื้อผ้าคนละชุดแล้วค่ะ สำหรับคุณผู้ชายถ้าไปเมืองอากาศเย็นหน่อย ผ้าพันคอแมนๆเปลี่ยนวันละสี ต่อให้เสื้อข้างในสีพื้นซ้ำบ้าง ถ่ายรูปมาก็ดูไม่ค่อยออกนะคะ ดูเก๋ดีอีกด้วย

เสื้อคลุม,ผ้าคลุมและผ้าพันคอช่วยเปลี่ยนลุคได้

Cr. pexels.com

6.เลือกกระเป๋าให้เหมาะกับจำนวนวันที่เดินทาง

เคล็ดไม่ลับข้อนี้สำคัญที่สุด เลือกขนาดของกระเป๋าให้เหมาะสมกับจำนวนวันที่จะไปเที่ยวและเมืองหรือประเทศที่จะไปเที่ยวค่ะ เช่น ที่บ้านมีแต่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาก 50 นิ้วแต่เราจะเดินทางแค่ 3วัน 2คืน แบบนี้ จัดกระเป๋าให้เก่งอย่างไรก็ไม่มีทางกระเป๋าเล็กได้ค่ะ แถมถ้ากระเป๋ามีขนาดใหญ่เราก็มีแนวโน้มที่จะจับสิ่งของที่ไม่ได้จำเป็นอะไรใส่เข้าไปเพิ่มด้วยนะคะ ประมาณว่าเอาไปเผื่อๆไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ได้ใช้หรอกค่ะ การลงทุนซื้อกระเป๋าใบเล็กลงมาให้เหมาะสมกับจำนวนวันที่เราเดินทาง จะเป็นการบังคับเราเองด้วยว่ามีพื้นที่เท่านี้ก็เอาไปแค่นี้พอ

เลือกกระเป๋าให้เหมาะกับจำนวนวันที่เดินทาง

Cr. pixabay.com

 

7.ของบางอย่างถือขึ้นเครื่องบิน

ถ้าเราเดินทางท่องเที่ยวแบบประหยัด โดยเฉพาะกับสายการบินต้นทุนต่ำ ไม่ว่าจะเที่ยวเมืองไทยหรือไปต่างประเทศ วิธีการประหยัดเงินง่ายๆก็คือไม่ต้องเช็คอินกระเป๋าเดินทาง หรือไม่ต้องโหลดกระเป๋าเดินทางเข้าใต้ท้องเครื่องบินนั่นเองค่ะ โดยวิธีการนี้เราจะไม่ต้องเสียค่าใช้จายเพิ่มเติมในส่วนของค่ากระเป๋า แต่เราต้องมั่นใจนะคะว่าเก็บกระเป๋าเสร็จแล้วขนาดของกระเป๋าไม่เกิน หนา 22 เซนติเมตร x กว้าง 35 เซนติเมตร x สูง 56 เซนติเมตร และน้ำหนักรวมไม่เกิน 7 กิโลกรัม ทีนี้เคล็ดไม่ลับข้อสุดท้ายก็คือ กระเป๋าถือของเราที่นับเป็นกระเป๋าติดตัวหรือกระเป๋าประดับตัวเราค่ะ ถ้าเป็นกระเป๋าใบใหญ่หน่อย เราก็มาสามารถใส่ของเข้าไปเพิ่มเติมได้นะคะ เช่นเป้แบบกีฬาทั้งสะพายหลังและสะพานข้าง หรือกระเป๋าผ้าใบกว้างๆ หรือถ้าเดินทางไปทำงานก็อาจเป็นกระเป๋าคอมพิวเตอร์แล่บท๊อบ กระเป๋าส่วนนี้ทางสายการบินจะไม่นับว่าเป็นสัมภาระขึ้นเครื่องที่เรียกว่า Carrie on เราจึงพกเพิ่มไปได้อีกหนึ่งใบค่ะ และกระเป๋าถือนี้จะมีพื้นที่เหลือให้เราใส่ของจุกจิกได้สบายๆเช่น ที่ชาร์จแบตเตอร์รี่ หูฟังเพลง แว่นกันแดด ผ้าพันคอหลากสีหลายผืน เสื้อคลุมกันหนาวบนเครื่องบิน

ของบางอย่างถือขึ้นเครื่องบิน

Advertisements

Advertisements

Advertisements