ทำไม Howard Schultz CEO สตาร์บัคส์ ถึงได้ประสบความสำเร็จในธุรกิจร้านกาแฟ? ทำไมริชาร์ด แบรนด์สัน เจ้าพ่อไอเดียธุรกิจ หยิบจับอะไรก็ดังเปรี้ยงไปซะหมด? ทำไมเบนจามิน แฟรงคลิน จากช่างเรียงพิมพ์ ถึงได้รับการยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษของสหรัฐอเมริกา ฉากหน้าของบุคคลเหล่านี้คือความสำเร็จ ชีวิตที่สุขสบาย หรูหรา แต่รู้หรือไม่ว่ากิจวัตรยามเช้าของคนเหล่านี้แหละค่ะ ที่เป็นส่วนผลักดันให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ เว็บไซต์ Businessinsider ได้สรุปกิจวัตรยามเช้าของเหล่าคนที่ประสบความสำเร็จออกมา 8 ข้อ ลองมาดูกันว่า กิจวัตรยามเช้า ของคนที่ประสบความสำเร็จ เขาทำอะไรกันบ้าง
1.ออกกำลังกาย
Howard Schultz ,Richard Brandson, หรือแม้แต่ Tim Cook ต่างก็ลุกจากที่นอนมาออกกำลังกายตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ ลองเลือกมาซักกิจกรรม จะเดินเล่น วิ่งจ๊อกกิ้ง เล่นโยคะหรือเข้าฟิตเนสตอนเช้าๆ เป็นการเติมพลังในการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จได้เป็นอย่างดีซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยจากสถาบันอีสเทิร์น ออนทาริโอ ที่พบว่าคนที่ออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 10 สัปดาห์ มีโอกาสที่จะเป็นคนที่ทรงอิทธิพลทางความคิด ความรู้และทักษะด้านกีฬา ส่วนมหาวิทยาลัยบิสโตล เผยผลวิจัยออกมาว่า คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน จะมีพลังและมองโลกในแง่บวกมากขึ้น
2.ทำสมาธิ
หลังจากออกกำลังกายปลุกพลังในกายให้พร้อมกับวันใหม่ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก็ไม่พลาดที่จะปลุกพลังใจ เรียกความสงบนิ่งให้จิตใจก่อนออกไปสู้กับปัญหาต่างๆ ส่วนวิธีการจะเป็นเช่นไร นั่งสมาธิหรือสวดมนต์ก็แล้วแต่ศาสนา ความเชื่อของแต่ละคน
3.ทานมื้อเช้ากับครอบครัว
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตต่างรู้ดีว่า อาหารเช้าคือพลังงานสำคัญที่จะขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้นคนเหล่านี้จึงตื่นขึ้นมาเพื่อทานอาหารเช้า ด้วยเหตุผลแสนจะสำคัญระดับชาติ นั่นคือ “ถ้าท้องว่าง สมองก็ว่างเปล่า” ยิ่งได้นั่งทานอาหารเช้าพร้อมครอบครัว ที่แม้ว่าเป็นเวลาสั้นๆ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่ทุกคนในครอบครัวจะได้เจอหน้ากัน พูดคุย อัพเดทชีวิตพร้อมหน้าพร้อมตา แต่หลังจากแยกย้ายกันออกไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้วยังรู้สึกว่าสายสัมพันธ์ของพวกเขายังกระชับแน่นดี
4.log off ออนไลน์
ผู้บริหารหรือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมักจะหวงความสงบในตอนเช้า และไม่อยากให้ใครหรืออะไรมารบกวน คนเหล่านี้จึงมักจะไม่หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเช็คอีเมล แชตหรือเช็คโซเชียลทันทีที่ตื่นนอน แต่จะใช้เวลาเช้าอันแสนสงบอยู่กับตัวเอง และคนในครอบครัว
Advertisements
5.วางแผนชีวิตประจำวัน
เบนจามิน แฟรงคลิน รู้ดีว่าเวลาเช้าตรูเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวัน เขาจึงอาศัยความเงียบสงบในช่วงเช้ามืดของทุกวัน นั่งเขียนเป้าหมาย สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน และจัดเรียงลำดับความสำคัญของงานที่ต้องทำในวันนั้นๆ นอกจากนี้เวลาเช้าตรู่ ยังเป็นช่วงเวลาที่ความสามารถในการแก้ปัญหาจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกด้วย
6.ลำดับงานยากให้เป็นงานชิ้นแรกของวัน
เลือกงานที่คิดว่าโหดหิน ยากเย็นเข็ญใจที่สุดของวันมาทำเป็นอันดับแรก นั่นเป็นเพราะตอนเช้าร่างกายและสมองจะอัดแน่นด้วยพลังและสมาธิมากพอที่จะจัดการกับเรื่องยากให้ผ่านไปได้ และเมื่อผ่านงานชิ้นยากของวันไปได้แล้ว คุณจะรู้สึกโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก วันนั้นทั้งวันคุณก็ผ่อนคลายเพราะผลักงานยากออกไปได้แล้ว
7.วาดภาพความสำเร็จของตัวเอง
หลังตื่นนอนเป็นช่วงที่จิตใจค่อนข้างสงบนิ่ง มั่นคง บุคคลที่ประสบความสำเร็จมักจะอาศัยช่วงเวลานี้มโนภาพความสำเร็จของตัวเองในวันข้างหน้าขึ้นมา จะเรียกว่าเป็นการปลุกใจ การคิดบวกก็ตามแต่ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น คือ ความรู้สึกที่แน่วแน่ มั่นคง กระตือรือร้น ทัศนคติในเชิงบวก และไฟในการทำงานที่ลุกโชน
8.ฝึกปฏิเสธให้เป็น
“ไม่” เป็นคำที่ทรงพลังมาก ไม่ใช่สิ่งน่าอับอายกับการปฏิเสธคำขอบางคำขอ เช่น “ผมไม่อยากทำ ดิฉันไม่ชอบ หนูไม่อยากได้”ฝึกพูดไว้ให้คล่องปากกันค่ะ เพราะยิ่งคุณพูดปฏิเสธไม่เป็นมากเท่าไหร่ โอกาสที่คุณจะรู้สึกกดดันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น จากการไม่รู้จักปฏิเสธคนเลยซักครั้ง
สิ่งที่คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานมีก็ไม่ต่างจากที่เราทุกคนมีเหมือนๆ กัน เพียงแต่พวกเขาเหล่านั้นเลือกทำในแบบที่ต่างออกไป นั่นคือการตื่นแต่เช้า เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทำงานในวันใหม่ แทนที่จะลุกลี้ลุกลนตื่นขึ้นมาแล้วรีบร้อนออกไปทำงาน ทั้งๆ ที่ร่างกายและจิตใจอาจยังไม่พร้อมทำงาน คุณล่ะ เลือกที่จะเดินออกจากบ้านอย่างมั่นใจ หรือวิ่งหัวซุกหัวซุนออกไปทำงาน?
ที่มา : businessinsider.com
Advertisements